สำหรับสาว แจม ชรัฐฐา หรือ แจม เนโกะ จัมพ์ ที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้ออกมาประกาศสถานะโสด ส่อแพลนวิวาห์ล่ม โดยวันนี้สาวแจม ได้ออกมาเปิดใจครั้งแรกหลัง ยอมรับว่าตอนนี้ได้เลิกรากับแฟนหนุ่มนอกวงการที่คบหาดูใจกันมากว่า 7 แล้ว โดยเจ้าตัวได้เผยว่า
มันค่อนข้างกะทันหันหลายคนอาจจะตกใจ คือเหมือนเราคบกันมานาน 7 ปี มันมีหลายๆอย่างที่พอ 7 ผ่านไปมันไม่เหมือนกับปีแรกๆที่เรารู้จักกัน คือพอเราเริ่มรู้จักกันดีมากขึ้นมันก็เริ่มเห็นว่ามีหลายๆอย่างที่มันไม่ตรงกัน ในหลายๆเรื่อง โดยรวมก็คือเป็นเรื่องของทัศนคติ ในการคิดการพูดหรือการใช้ชีวิตอะไรแบบนี้ การเรียงลำดับความสำคัญการใช้ชีวิตมันไม่ตรงกันเลย
2-3 ปีมานี้ก็พยายามปรับทุกอย่างเข้าหากัน โดยที่ตัวเราพยายามจะปรับทุกอย่างเข้าหาเขา แต่ว่าสุดท้ายแล้วมันทำให้เราเป็นทุกข์ใจ และแจมคิดว่าการแต่งงานกันหรือใช่ชีวิตร่วมกันมันอาจจะดึงให้เราเข้ามาใกล้กันขึ้น แต่พอได้ใช้ชีวิต ได้อยู่ด้วยกันนานขึ้น เราเห็นว่ามันไม่สามารถเข้ากันได้ มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องว่ารักหรือไม่รักหรือหมดรักแจมยังรักเขาอยู่แล้วก็ยังหวังดี
สำหรับแจมก็คือพี่เขาเป็นตัวของตัวเองอยู่แล้ว เขาไม่ใช่คนไม่ดีหรือเห็นแก่ตัวอะไรเลย เขามีทิศทางในการใช้ชีวิตของเขาอยู่แล้ว แต่ว่าสิ่งที่เราพึ่งมาค้นพบเป็นจุดที่เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่แนวทางของเรา และพยายามคิดและปรับที่ตัวของเราเองแล้วว่าเราจะเดินไปกับเขาได้ไหม แต่สุดท้ายแล้ว มันควรจะมีความสุขด้วยกันทั้งคู่แต่มันไม่เป็นแบบนั้น แล้วมันก็สร้างความทรมานให้กับคนสองคน แจมก็เลยรู้สึกว่าเราต้องยอมรับความจริง
จะบอกว่ายื้อก็ใช้ ตัวแจมเองที่ยื้อความสัมพันธ์นี้ให้มันนาน(ร้องไห้) แล้วก็เป็นสิ่งที่ไม่ได้อยากให้เกิดขึ้น แต่พอถึงจุดจุดหนึ่งเรารู้ว่า เราต้องยอมรับความจริงว่ามันคืออะไร คือเราเข้ากันไม่ได้ ไม่ว่าเราจะยายามมากแค่ไหน มันไปด้วยกันไม่ได้เลยถึงแม้ว่าเราจะรักกันขนาดไหน แจมก็เลยคิดว่าอยากจะยุติความสัมพันธ์นี้ลง เราต้องการให้พี่เขาได้ใช้ชีวิตในแบบที่ได้เจอคนที่สามารถไปกับเขาได้ 100% ซึ่งคนคนนั้นเรารู้ว่าไม่ใช่เรา เราไม่อยากที่จะเห็นแก่ตัว
แล้วก็ยื้อความสัมพันธ์นี้ต่อไป คือเรารู้ว่าหลายๆอย่าง ในตัวเราไม่ได้เป็นแบบที่เขาต้องการได้ ซึ่งเราจะพูดแค่ว่าเรารักเขาไม่ได้ คือการที่เราจะรักใครสักคนหนึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเป็น อนาคตที่ต้องใช้ร่วมกันมันต้องรักโดยที่เราไม่ต้องพยายามอะไร นั่นคือความรักในอุดมคติของแจม
ในเมื่อมันต้องพยายามแบบทุกๆอย่าง มันทำให้ความสัมพันธ์ค่อยๆถอยห่างออกไป ตัวเราเองยอมรับว่าช่วงหลังๆมานี้ก็คือมันเหมือนรักแบบถูกใจ เราก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้อีกต่อไป และเราต้องการให้เขารับรู้ด้วยว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นเราไม่สามารถปรับอะไรได้เลยจริงๆ
มันเป็นสุดทางของเขาแล้วเช่นกันเขายื่นมือมาหาเราได้แค่นี้ ส่วนตัวเราเราสามารถยื่นไปได้ แต่เรารู้ตัวว่ามันไม่ได้มาจากความสบายใจทั้งหมด มันไม่ใช่ความรักที่จะต่อยอดไปได้ไกลมากว่านี้
ครอบครัวก็คือที่บ้านก็เคารพความคิดเห็นของแจม เขาก็ถามว่าเราคิดดีแล้วใช่ไหม คือแจมทบทวนเรื่องนี้มานานมาก ตอนแรกคือไม่ได้บอกใครเลยคือเราไม่มั่นใจว่ามันจะเป็นเพียงสิ่งที่เราคิดไปเองหรือเปล่า แต่ว่ามันก็ลากยาวมาเป็นปี และก็มาคิดทบทวนหนักมากขึ้นช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้เลยต้องตัดสินใจจะหยุดอยู่ไว้แค่นี้ เพราะว่าเราต้องการที่จะให้ความรักครั้งนี้มันหยุดอยู่แค่ภาพที่เรามองเขาว่าเขาเป็นคนยังไง และเราเป็นแบบไหน
ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าไม่รักเขาเลยแจมขอบคุณเสมอที่เขาเคยอยู่เคียงข้างแจมและก็ซัพพอร์ตทุกสิ่งอย่าง และแจมขอโทษที่ไม่สามารถเป็นคนคนนั้นให้เขาได้ ทุกวันนี้แจมก็ยังเป็นห่วงเขาอยู่ แต่แจมรู้ว่าถ้าเขาได้เจอกับคนที่เขารัก คนที่สามารถเข้ากับเขาได้ทั้งหมด เขาจะมีความสุขมากกว่านี้