19 มิถุนายน 2560 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) น.ส.ฐิตินาถ ณ พัทลุง หรือ ครูอ้อย เข็มทิศชีวิต เดินทางเข้ามอบเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม กรณีถูกข่มขู่เพื่อกรรโชกทรัพย์เป็นเงิน 11 ล้านบาท ต่อพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ โดยเป็นหลักฐานคือ 1.คลิปบันทึกเสียงที่ผู้ที่ขอกันตัวเป็นพยานได้บันทึกไว้ ขณะที่ขบวนการดังกล่าวมีการปรึกษาหารือกัน 2.คลิปบันทึกเสียงของผู้ที่เคยถูกดึงให้เข้าร่วมขบวนการ แต่ภายหลังเห็นว่า เรื่องนี้เป็นอาชญากรรม จึงถอนตัวออกมา และ 3. เบาะแสในขบวนการข่มขู่ ที่เกี่ยวพันถึงอดีตศิษย์เก่าของครูอ้อย
ครูอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีจดหมายในรูปแบบเว็บไซด์ส่งมาถึงตน เพื่อขอให้มอบเงินให้ 11 ล้านบาท และให้ตอบตกลงภายใน 36 ชั่วโมง ภายในวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา มิฉะนั้นจะทำการใส่ร้ายตนในทุกด้านของชีวิต หลังจากเกิดเรื่องดังกล่าว จึงเดินทางมาร้องทุกข์ต่อดีเอสไอและนำหลักฐานบางส่วนมามอบให้แล้ว
พร้อมเปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องร้ายแรง เป็นคดีอาญาที่ทำให้คุณติดคุก บางคนอาจจะโกรธที่สอนไม่ดี ไม่ตรงใจ และยกคำของพระพุทธเจ้ามาสอนมาเปรียบเทียบสอน ครูอ้อยบอกว่าเราทำดีทุกวันให้คนอื่นให้ทำดีมากกว่าและไม่เคยได้อะไรจากการตักเตือน และตำหนิตัวเองตลอดว่า ครูสอนไม่ดีทำให้นักเรียนทำบาป บางคนรักเราเหมือนแม่ กราบเท้าเรา เราดูแลทุกกคนเหมือนลูก หากเราทำให้โกรธ ครูขออโหสิกรรมที่ทำกับครู
และยังบอกอีกว่า หลักฐานที่เอามาให้ตำรวจวันนี้เชื่อมโยงกับลูกศิษย์ที่ครูอ้อยรัก ยอมรับว่า รู้ตัวคนทำเป็นลูกศิษย์ของตัวเอง แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นใคร ปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ที่เขาออกมาขู่กรรโชกทรัพย์เราบอกว่า มี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ไม่พอใจเราที่เราว่ากล่าวตักเตือน และเจ็บแค้นน้ำใจในเรื่องอื่นๆ และบอกว่าลูกศิษย์กลุ่มนี้ กรรโชกทรัพย์ 11 ล้าน เพื่อที่เขาจะไม่ต้องทำงาน
เรายอมได้แต่เราไม่ขอร่วมมือกับโจร ไม่ขอจ่ายเงิน 11 ล้านให้กับกลุ่มลูกศิษย์ พร้อมกับร่ำไห้เสียใจกับการกระทำของลูกศิษย์กลุ่มนี้ โดยบอกว่า เป็นคนที่มาเรียนธรรมดาและเราดูแลลูกศิษย์ดีมาตลอด ดูแลดีทุกอย่างเหมือนลูก ขอบอกว่า
ครูจะไม่หยุดเพราะเขาขู่เรา แต่จะหยุดเพราะครูเบื่อเอง พอแล้วกับประเทศนี้ และผูกพันกับลูกศิษย์ทุกคน
ถามว่าเรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับดาราหรือไม่ ครูอ้อยชี้แจงว่า ในเอกสารที่ยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ มีหน้าจอไลน์ของดาราที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่งเกี่ยวข้องอยู่ด้วย เป็นเรื่องที่เราตักเตือนว่า จะทำอะไรก็ทำให้มันดี อย่าทำอะไรที่มันไม่ดี เพราะฉะนั้นเค้าอาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวก็ได้ แต่อยากถามว่า หน้าจอไลน์ของเค้าไปอยู่ในเอกสารขู่ของครูอ้อยได้อย่างไร
ส่วนกรณีที่ซินแสโจ้ ออกมาบอกว่า
ครูอ้อยใช้ชื่อ เข็มทิศชีวิต ครูอ้อยชี้แจงว่า
ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ มั่นใจว่าชื่อนี้เป็นของเรา คิดเองและจดลิขสิทธ์ไว้เอง ให้ไปถามประชาชน 60 ล้านคนว่าเห็นชื่อคำว่า เข็มทิศชีวิตที่ไหนดีกว่า วันนี้ก็มีเด็กๆ ลูกศิษย์มาให้กำลังใจ ตอนนี้เราเหนื่อยแล้วไม่รู้จะทำไปทำไม และบอกว่าเราไม่ต้องทำแบบนี้เราก็อยู่ได้ แต่เราอยากช่วยคนยากลำบาก ยอมรับเสียใจไม่คิดว่าจะเป็นลูกศิษย์ใกล้ตัวที่ทำกับเรา
ขอบคุณเฟซบุ๊ก คมสัน พันธุ์วิชาติกุล