แก๊งโหดทวงเงินเด็กเอนฯจับกล้อนหัวประจาน เพื่อนเจ้าหนี้ป้องปัดทำร้าย รีสอร์ตแฉเจอผมเต็มห้อง (คลิป)

กรณีสาวรายหนึ่งโพสต์เรื่องราวผ่านเฟซบุ๊ก เล่าเหตุการณ์ที่ถูกเจ้าหนี้ทำร้ายร่างกาย จับโกนหัว โกนคิ้ว เพียงเพราะติดเงิน 1 หมื่นบาทนั้น

โดยโพสต์ดังกล่าวได้รับการแชร์โดยสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเล่าเหตุการณ์ว่า เกิดเหตุเมื่อช่วงดึก วันที่ 15 พ.ค. 65 มีรุ่นพี่โทรมาตามให้ไปรับงาน จากนั้นได้ขึ้นรถไปด้วยกัน ระหว่างทาง รุ่นพี่ขอแวะเข้าห้องน้ำที่ปั๊ม จากนั้นมีคนชื่อมิ้น เข้ามากระชากไปที่รถของคนชื่อลิซ่า ที่เจ้าของโพสต์ยืมเงินมา 1 หมื่นบาท

เมื่อเจ้าของโพสต์ได้ขึ้นรถไป ได้ถูกร้ายด้วยการต่อยท้องบนรถ จากนั้นกลุ่มเจ้าหนี้ ได้เปิดรีสอร์ตที่คลอง 4 และพาเข้าไปทำร้ายร่างกายต่อ และโกนหัว บังคับให้พูดในคลิปว่า ตัดผมเพื่อใช้เงินให้ลิซ่า และเอาเงินสดในกระเป๋าไป 300 บาท เงินในบัญชีอีก 2,300 บาท ก่อนจะพาไปส่งที่ตลาด 200 ปี

น.ส.น้อยหน่า (นามสมมติ) อายุ 20 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ตัวเองทำงานเป็นเด็กเอนฯ เมื่อคืนนี้หลังทำงานเสร็จที่คอนโดฯ แห่งหนึ่งย่านทองหล่อ เวลาประมาณ 23.00 น. น.ส.ผึ้ง ซึ่งเป็นรุ่นพี่ได้นั่งแท็กซี่มารับตนและ น.ส.ไหม เพื่อนอีกคน เพื่อไปทำงานต่ออีกที่
โดย น.ส.ผึ้ง นั่งแท็กซี่มาพร้อมกับ น.ส.บิว และผู้ชายอีกคน

เมื่อตนและ น.ส.ไหม ขึ้นไปบนรถ ระหว่างทางไม่ถึง 500 เมตร น.ส.ผึ้ง ขอแวะเข้าห้องน้ำ เมื่อรถจอดในปั๊มน้ำมัน น.ส.ผึ้งลงจากรถไป น.ส.มิ้น รุ่นพี่อีกคนมากระชากตนลงจากรถ และพาไปขึ้นรถเก๋งมาสด้าสีแดง ที่ น.ส.ลิซ่า เป็นคนขับ ระหว่างนั้นคนที่นั่งอยู่ในแท็กซี่ทั้ง น.ส.ผึ้ง น.ส.บิว และผู้ชาย ก็ย้ายมานั่งที่รถเก๋งสีแดงด้วย โดยน.ส.ลิซ่า เป็นคนขับ ผู้ชายนั่งข้าง ๆ ส่วนน.ส.ผึ้ง น.ส.บิว น.ส.มิ้น และตัวเอง นั่งข้างหลัง

ระหว่างทาง น.ส.มิ้น ตบตนมาตลอด โดยด่าเรื่องที่ตนยืมเงิน น.ส.ลิซ่า แล้วไม่คืน จากนั้นก็พาไปเปิดห้องที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งย่านลำลูกกา โดยน.ส.มิ้น และน.ส.ลิซ่า พาตนเข้าไปในห้อง จากนั้นก็ผลัดกันตบและเตะตน ส่วนเพื่อนอีก 3 คน ยืนดูโดยไม่ห้าม ระหว่างนั้น น.ส.ลิซ่า หยิบกรรไกรมาตัดผมตน และใช้ปัตตาเลี่ยนโกนผมรวมถึงคิ้ว จากนั้นลิซ่าหยิบโทรศัพท์ตัวเองมาถ่ายคลิป บอกให้ตนพูดว่าตัดผมตัวเองเพื่อใช้หนี้ลิซ่า ก่อนจะใช้ปากกาเมจิกเขียนที่ใบหน้าตน

จากนั้น ได้เปิดกระเป๋าสตางค์ของตนหยิบเงินที่มีทั้งหมด 300 บาทไป พร้อมบอกว่าให้ไปกดเงินในธนาคารให้ตัวเอง โดยทั้งหมดพาตนขึ้นรถออกจากรีสอร์ตไปที่ตู้กดเงินหน้าห้างสรรพสินค้า และให้ตนกดเงินที่มีทั้งหมดมาให้ ซึ่งตนได้กดเงินให้ 2,300 บาท รวมเงินทั้งหมดที่อีกฝ่ายได้ไป 2,600 บาท ก่อนที่อีกฝ่ายจะขับรถพาตนมาทิ้งไว้ที่ตลาด 200 ปีย่านรังสิต โดยที่ตนไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว

ซึ่งสาเหตุที่อีกฝ่ายทำร้ายตน เพราะตนยืมเงิน น.ส.ลิซ่า มาจำนวน 10,000 บาท โดยทำข้อตกลงจ่ายคืนวันละ 500 บาท เป็นเวลา 24 วัน คิดเป็นดอกเบี้ยร้อยละ 20 บาท โดยเริ่มยืมตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย. 65 และจ่ายคืนเป็นวันแรกในวันดังกล่าว จากนั้นก็จ่ายมาเรื่อย ๆ ถึงวันที่ 9 พ.ค. หลังจากนั้นตนไม่สบายไม่ได้ทำงาน ไม่มีเงินจ่ายคืน ก็บอกอีกฝ่ายไปแล้วว่าจะรีบหาเงินมาให้ แต่กลับถูกทำแบบนี้ หลังเกิดเหตุยังมีการข่มขู่ไม่ให้ตนแจ้งความ แต่ตนแจ้งความแล้ว ยืนยันว่าจะเอาเรื่องถึงที่สุด

ด้าน น.ส.ปิยธิดา พูลผล หรือ ไหม อายุ 21 ปี เพื่อนผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อคืนนี้ตัวเองไปทำงานพร้อม น.ส.น้อยหน่า หลังเลิกงานน.ส.น้อยหน่า ก็ชวนไปรับงานต่ออีกงาน จากนั้นตนและเพื่อนก็ยืนรอ ก่อนที่น.ส.ผึ้งจะนั่งแท็กซี่มารับ เมื่อขึ้นรถแท็กซี่น.ส.ผึ้งขอแวะเข้าห้องน้ำ ก่อนที่น.ส.มิ้น ซึ่งนั่งรถเก๋งสีแดงเข้ามา จะดึงตนลงจากรถ พร้อมพูดว่า “มึงไม่เกี่ยว กลับบ้านไป” และลาก น.ส.น้อยหน่าลงจากรถไปขึ้นเก๋งแดง โดยมีน.ส.ผึ้งและเพื่อนในรถแท็กซี่ไปด้วยกัน

ส่วนตนก็กลับขึ้นแท็กซี่คันเดิม ด้วยความตกใจและร้องไห้ออกมา จากนั้นตนถามคนขับแท็กซี่ว่าเกิดอะไรขึ้น คนขับก็พูดว่าน่าจะเป็นเรื่องหนี้สิน เพราะได้ยิน น.ส.ผึ้ง คุยกับเพื่อนมาในรถ จากนั้นตนก็นั่งแท็กซี่กลับบ้าน ระหว่างทางก็โทรศัพท์บอกพี่ชายของน้อยหน่าให้ไปช่วย ทั้งนี้ ตนไม่รู้จักผู้ก่อเหตุ โดยเมื่อทราบว่าเพื่อนถูกทำร้ายและโกนผม รู้สึกว่าอีกฝ่ายทำรุนแรงเกินไปมาก

กล้องวงจรปิดของรีสอร์ตเวลาประมาณ 23.30 น. จับภาพเก๋งสีแดงขับเข้าไปในรีสอร์ต ระหว่างนั้นผู้ชายที่นั่งข้างคนขับเดินลงจากรถ ก่อนที่รถเก๋งจะขับเข้าช่องจอดข้างห้องพัก มุมกล้องจะเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินลงและอ้อมมาทางหน้ารถ ก่อนหลบมุมกล้องเข้าห้องไป

หลังจากนั้นประมาณ 40 นาที รถเก๋งสีแดงขับออกมาจากห้องพัก และมีการถอยกลับไป โดยน.ส.บิว ลงจากรถเดินกลับไปที่ห้องพัก เพื่อไปเก็บผมของ น.ส.น้อยหน่า กลับมาด้วย ไม่ให้คนอื่นสงสัย ใช้เวลาประมาณ 1 นาที ก่อนเดินกลับมาขึ้นรถ และรถก็ขับออกไป

ขณะที่ทีมข่าวได้รับคลิปที่ น.ส.น้อยหน่า คุยกับ น.ส.มิ้น โดยน.ส.มิ้นถามว่า "จะเอายังไง จะจบไหม" เพราะเห็น หลายคนโทรศัพท์ไปหาน้องตน พร้อมถามว่าน้อยหน่าคาใจหรือไม่ จะแก้หรือไม่ น.ส.น้อยหน่า ถามกลับว่าจะคาใจเรื่องอะไร โดนขนาดนี้แล้ว แต่ น.ส.มิ้น กล่าวต่อว่า "ถ้ายังไม่จบคืนนี้เจอกูอีก"

จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปที่รีสอร์ตย่านลำลูกกา พบเป็นห้องพักแบบเป็นหลังแยกจากกัน ผู้ดูแลรีสอร์ต ระบุว่า เมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 23.30 น. มีรถเก๋งสีแดงเข้ามาเปิดห้องพักที่รีสอร์ต แบบชั่วคราว 3 ชั่วโมง โดยมีผู้ชาย 1 คน และผู้หญิงอีกประมาณ 4-5 คน
ซึ่งทั้งหมดก็เข้าไปในห้องพักตามปกติ ระหว่างนั้นไม่ได้มีเสียงผิดปกติ

หลังจากนั้น ประมาณ 40 นาที ลูกค้ากลุ่มนี้ก็คืนห้องและขับรถเก๋งออกจากรีสอร์ต โดยเด็กที่รับห้องบอกตนว่าไม่ได้ยินเสียงโวยวายใด ๆ แต่หลังคืนห้อง ช่วงที่เข้าไปทำความสะอาดสังเกตว่ามีผมตกอยู่ตามพื้นเยอะมาก

จากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.มิ้นท์ อายุ 26 ปี ผู้ถูกกล่าวหา ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นไปตามที่ น.ส.น้อยหน่า กล่าวหา โดยตนกับน้อยหน่าสนิทกันในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้อง และตนก็คอยดูแลอีกฝ่ายมาตลอด ก่อนเกิดเหตุ น.ส.น้อยหน่า ไปยืมเงินคนรู้จักตนมาจำนวน 10,000 บาท และหายไปไม่ได้จ่ายคืน ซึ่งเงินส่วนนี้ไม่เกี่ยวกับเงินของลิซ่า เพื่อนของตน

จนคนรู้จักมาทวงเงินที่ตน ระหว่างนั้นก็พยายามติดต่อหาน้อยหน่าแต่อีกฝ่ายหนีตนตลอด จนวันเกิดเหตุจึงให้ น.ส.ผึ้ง ซึ่งเป็นรุ่นน้องของตน หลอกให้ น.ส.น้อยหน่า ออกมาเพื่อจะได้มาเคลียร์ โดยยืนยันตนไม่ได้ตบอีกฝ่ายบนรถ แต่มีการพูดคุยกันว่าจะตบหรือไม่ เพื่อจะได้จบ อีกฝ่ายก็ตอบตกลง จากนั้นก็พากันไปเปิดห้องที่รีสอร์ต และตบกันแบบตัวต่อตัว ซึ่งตนก็เจ็บเหมือนกัน

หลังจากตบเสร็จ ลิซ่าซึ่งเป็นเพื่อนของตนก็ขอเคลียร์เรื่องเงินที่น้อยหน่ายืมไป ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินที่น้อยหน่ายืมคนรู้จักของตน
ซึ่งการตัดผมโกนคิ้ว ตนไม่เกี่ยว ไม่ขอตอบในส่วนนี้ ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้มาทวงเงินให้ลิซ่าตามที่มีข่าว ทั้งนี้ ตนก็ได้ตรวจร่างกายไว้เป็นหลักฐานแล้วเช่นกัน ไม่กังวลหากตำรวจเรียกสอบ