กระติกพูดแล้ว แตงโมด่าปอบนเรือแค่เพื่อนเล่นกัน งงเสี่ยโทรหา ท้าชนเปิดคลิปรับงาน (คลิป)

วันที่ 26 พ.ค. 65 ภายหลังจากจบรายการโหนกระแส ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เปิดใจกับสื่อมวลชนถึงกรณีขอยุติบทบาทการทำหน้าที่เป็นทนายให้กับคุณแม่ของแตงโม จากเหตุผล 3 ข้อ ได้แก่

1. มีความเห็นทางคดีไม่ตรงกัน เนื่องจากทนายเดชายังเห็นตรงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากพยานหลักฐานที่มีว่าไปไม่ถึงเรื่องการฆาตกรรม ขณะที่แม่ของแตงโมช่วงหลังปักใจเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม และเชื่อ ส.ส.เต้ นายอัจฉริยะ และบังแจ็ค

2. การที่แม่ส่งโทรศัพท์ของแตงโมไปให้บังแจ็คที่อเมริกา และยังบอกว่าโทรศัพท์อยู่กับทนายเดชา เป็นเหตุผลให้ถอนตัวจากทนายในคดี เนื่องจากในโทรศัพท์มีรูปส่วนตัวของแตงโม ที่ส่งผลกระทบกับบุคคลที่ 3 คนที่เกี่ยวข้องในภาพ หรือการที่บังแจ็คอาจแบล็กเมลได้ในภายหลัง ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องร้ายแรงมาก ภาพในโทรศัพท์มือถือของน้องแตงโมมีเป็นล้านรูป และมีภาพบุคคลที่ 3 กว่า 30 รูป มีแนวโน้มที่บุคคลที่ 3 จะถูกแบล็กเมลจากบังแจ็คค่อนข้างสูง

3. การที่แม่ต้องการฟ้องทนายษิทรา หรือ ทนายตั้ม ภายหลังจากที่ทนายตั้มโพสต์ความเห็นถึงกรณีแม่ส่งโทรศัพท์ให้บังแจ็ค ซึ่งทนายเดชาไม่ทำตาม เพราะเป็นเพื่อนกับทนายตั้มและเพิ่งดีกันไม่นาน

ทนายเดชา บอกว่า แม่ของน้องแตงโมไม่ได้ปลดตนออก แต่ตนเป็นคนขอถอนตัวเอง เนื่องจากความไม่สบายใจ ยืนยันว่าไม่มีการแตกหักกับแม่ พอบอกแม่ว่าขอถอนตัวคดี แม่ก็บอกว่าเข้าใจ โดยหน้าที่ทนายในคดีแตงโมยังไม่สิ้นสุด จะทำหน้าที่ไปจนถึงขั้นอัยการส่งผู้ต้องหาฟ้องศาล หน้าที่จึงจะสิ้นสุด ส่วนทนายใหม่ของแม่หลังจากนี้ หากคุณแม่อยากจะให้ตนเข้าไปช่วยก็ยินดี แล้วแต่คุณแม่ เพราะตนทำคดีมามีข้อมูลอยู่จำนวนมาก ยอมรับว่าเป็นห่วงคุณแม่อาจถูกหลอก หากหมดโปรโมชันกระแสแตงโม เหมือนที่แม่เคยพูดตอนที่จะมี ส.ส.ท่านหนึ่งตั้งศาลให้แตงโมว่าพอหมดโปรโมชัน หมดกระแส ศาลนั้นก็ไม่มีใครสนใจ ถ้าตนว่าง ๆ ก็จะรับแม่ไปกินข้าว ยังเป็นเพื่อนกันเหมือนกันได้

ทนายเดชา พูดถึงโทรศัพท์มือถือของแตงโมที่แม่นำไปส่งให้กับบังแจ็ค เพื่อทำการกู้คืนข้อมูล เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ตนต้องขอถอนตัวออกจากการเป็นทนาย เพราะข้อมูลในโทรศัพท์มือถือนั้นสำคัญมาก และเป็นข้อมูลส่วนบุคคลของแตงโม และบุคคลที่ 3 เท่าที่ตนทราบ มีภาพอยู่ 1.2 ล้านภาพ และมีภาพที่เป็นภาพอันตรายถึง 30 ภาพ หนึ่งในนั้นมีภาพนักธุรกิจมีชื่อเสียงอยู่ มีโอกาสที่จะถูกแบล็กเมลสูงมาก ซึ่งโทรศัพท์มือถือไปอยู่กับมือของผู้ต้องหาห้ามเข้าประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นความผิดที่ร้ายแรงมาก หากมีการนำไปแบล็กเมล ไม่ใช่แค่บังแจ็คที่จะถูกดำเนินคดี แม่อาจถูกดำเนินคดีด้วย ในฐานนำข้อมูลให้บังแจ็ค

ทนายเดชา บอกว่า แม่อย่าลืมว่าคดีนี้อีกยาวไกลนะ จำเลยตั้ง 6 คน คนที่จะเข้ามาช่วยแม่ แน่ใจนะว่าจะอยู่ถึงจบคดี ฝากคุณแม่ไว้ว่าเขาจะรักคุณแม่นานแค่ไหน ขอให้แม่โชคดีได้คนดี ๆ และขอให้ทนายที่มาใหม่พูดความจริง อย่าทิ้งคุณแม่ รักแม่นาน ๆ ระวังหมดโปรฯ แล้วทิ้งแม่

ช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ทนายเดชา ยกมือขึ้นพนมแล้วกล่าวว่า วันนี้ขออนุญาตกราบลาพระมารดา ที่ผ่านมาอะไรที่ทำให้แม่ไม่สบายใจ ทนายเดชาก็ขอกราบพระมารดา ขอให้พระมารดาได้ที่ปรึกษาใหม่ที่เป็นคนรักพระมารดา ระวังนะครับคุณแม่ คุณแม่เป็นคนบอกผมเอง หมดโปรฯ แล้วก็ทิ้งแตงโมไว้ที่ท่าน้ำ ตอนนักการเมืองคนหนึ่งจะสร้างศาลคุณแม่บอกไม่ต้อง วันนี้มีนักการเมือง ส.ส. หรือใครต่อใครมาช่วยคุณแม่ ขอให้คุณแม่ระวัง หากหมดโปรฯ ผู้สื่อข่าวไม่สนใจแล้ว เขาจะอยู่กับคุณแม่หรือไม่ คุณแม่ต้องให้เขาทำบันทึกข้อตกลง และขอให้พระมารดาจงเจริญ จุ๊กกรู้ จุ๊กกรู้ หมดเวรหมดกรรมแล้วโว้ย

"น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก" อดีตผู้จัดการแตงโม เปิดเผยว่า หลังจากทนายเดชาถอนตัวจากแม่แตงโมแล้ว และมีการจะตั้งทนายใหม่นั้น ตนมองว่า "ปวดหัวค่ะ ปวดหัวค่ะ"

ส่วนเรื่องที่มีภาพหัวเรือแตงโมกับปอ อยากชี้แจงว่าไม่ได้ทะเลาะกัน เพียงพูดคำหยาบ คำสบถเป็นการคุยกันปกติ แต่ที่ตนพูดอาจคล้ายว่าเป็นการทะเลาะเพราะมีการพูดด้วยอารมณ์หนึ่ง โดยภาพนั้นเป็นจุดที่ยืนและปลอดภัย ไม่อันตราย ซึ่งเป็นการนัดเจอเหมือนกับเพื่อนเก่ามาเจอกัน ใช้ภาษาหยาบตามปกติ แต่ไม่ทะเลาะกัน

ล่าสุดที่นายอัจฉริยะไปแจ้งความหาว่าตนเปลี่ยนแปลงแก้ไขเวลาในภาพถ่ายบนเรือ ตนมองว่าถ้าอยากหาเรื่องให้ตัวเองก็ตามนั้น ตนชี้แจงไปแล้วว่าไม่ได้แก้ไขหรือทำอะไรเลย หากพิสูจน์แล้วว่าตนไม่ได้ผิด ก็จะโดนตนจัดการ เพราะทำให้ตนเดือดร้อน ตนก็จะใช้สิทธิ์ เพราะตนก็อยู่ของตนเฉย ๆ อีกทั้งถ้าบอกว่ามีคลิปการฆาตกรรม ก็อยากให้เอามาโชว์เลยให้ชัดเจนเรื่องจะได้จบ ไม่เห็นเกี่ยวกับเรื่องแก้ไขเวลาภาพถ่ายบนเรือเลย

ส่วนเรื่องที่อ้างว่ามีการรับงานบนเรือไม่นั้น ตนก็ไม่ทราบ เพราะตนกับแตงโมอยู่กันคนละบ้าน ประเด็นตอนนี้มันไปไกลแล้ว อยากถามว่าทุกคนกำลังมาเซฟแตงโม หรือมาทำร้ายแตงโมกันแน่ เรื่องมันไม่เกี่ยวกับคดีแล้ว ที่ไปโยงเกี่ยวกับเรื่องคนรักเก่า หรือเรื่องอื่น ๆ มันก็ไม่เกี่ยวกับคดีแล้ว

ส่วนเรื่องที่อ้างว่าตนมีการรับงานให้แตงโมหรือไม่นั้น "ทุกอย่างหลักฐานเปิดเผยไปแล้ว เรื่องบนเรือคือไปเที่ยว ไม่มีเรื่องอื่นเจือปน เหมือนตอนนี้จะให้แตงโมทำอะไรไม่ดี แล้วจะอ้างให้ตนเป็นคนพาไปให้ได้ พูดไปแต่คนไม่เชื่อ ตนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว ให้โฟกัสวันลงเรือ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น" นอกจากนี้ เรื่องคนโทรศัพท์เข้ามาหาแตงโมตอนอยู่บนเรือหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เพราะตนก็ไม่ได้นั่งอยู่ด้วยกันกับแตงโมตลอดเวลาบนเรือ อยากให้ถามกับตำรวจมากกว่า