หลังจากที่นายอัจฉริยะ เปิดเผย 2 ประเด็นสำคัญของคดีของนักแสดงสาวแตงโม อ้างว่ามีภาพคนบนเรือถือมีดพกเอาไว้ อีกประเด็น ที่ได้ข้อมูลจากหน่วยงานรัฐ คือพบคราบเลือด DNA ตรงกับแตงโมบนเสื้อผ้าของ 1 ใน 5 คนบนเรือนั้น
วัทนี่ 1 มิ.ย. 65 นายวิศาพัช มโนทัยรัตน์ หรือ แซน ผู้ต้องหาคดีเเตงโม พร้อมด้วยนายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความส่วนตัว กล่าวถึงกรณีที่คณะของนายอัจฉริยะ นายมงคลกิตติ์ เชื่อว่าเป็นคดีฆาตกรรม พยายามหาหลักฐานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องว่า ตนเองยังไม่เข้าใจว่าทำเพื่ออะไร เมื่อมองไปก็รู้สึกไม่สบายใจ จึงเลือกที่จะไม่มองดีกว่า ส่วนที่นายอัจฉริยะ หรือหมอพรทิพย์เชื่อว่าแตงโมตกหัวเรือ ตนขอยืนยันว่าตกท้ายเรือเหมือนเดิม ส่วนประเด็นบาดแผลเป็นเรื่องของนิติเวช
ส่วนกรณีคุณแม่จะฟ้องดำเนินคดีข้อหาฆาตกรรม ตนเองไม่ได้รู้สึกกังวล ส่วนตัวกลับรู้สึกสงสารคุณแม่ เพราะไม่ทราบว่าไปรับฟังอะไรจากใครมาบ้าง อยากให้ทุกคนเห็นใจคุณแม่บ้าง เพราะแม่เป็นผู้สูญเสีย ฝากถึงคนบางกลุ่มว่าอย่าฉวยโอกาสให้แม่เป็นเครื่องมือ โดยตนเองติดต่อกับคุณแม่ครั้งล่าสุดช่วงก่อนงานฌาปณกิจศพแตงโม ที่ตนรับปากว่าจะไปร่วมงาน แต่สุดท้ายไม่ได้เดินทางไป เนื่องจากเป็นผู้เสี่ยงโควิด-19 จึงกราบขอโทษคุณแม่ด้วย
ส่วนประเด็นเจอคราบเลือดบนเสื้อผ้าคนบนเรือ ต้องให้กระติกออกมาพูดดีกว่า เนื่องจากให้ปากคำไปหมดแล้วในชั้นพนักงานสอบสวน เเลือดดังกล่าวไม่ใช่คราบเลือดจากการทำร้ายร่างกาย ยืนยันว่ามีคราบเลือดจริง สาเหตุที่ทราบเนื่องจากตนคุยกับกระติกตลอด
เมื่อถามถึงกรณีที่คณะของนายอัจฉริยะ นายมงคลกิตติ์ พยายามหาหลักฐานต่าง ๆ อยู่ในขณะนี้ คนบนเรือได้พูดคุยกันบ้างหรือไม่ ก็ไม่ค่อยได้คุยกันเลย ขอใช้คำว่า "ไม่ให้ค่า" เพราะไม่ทราบว่าเจตนาของพวกเขาคืออะไร สิ่งที่พวกเขาทำ คนบนเรือได้รับความเสียหาย เขาก็ต้องรับผลของการกระทำนั้นด้วย เพราะเขาไม่ได้ทราบข้อเท็จจริงใด ๆ เลย สิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่เป็นการชักจูงประชาชนคนไทยทั้งประเทศให้ออกไปสู่ทะเล แล้วไม่มีใครพากลับมาสักคน ไม่จบสักเรื่อง ดังนั้นช่วยพาประชาชนกลับสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อรับทราบข้อเท็จจริงด้วย
สำหรับความรู้สึกส่วนตัว ตอนนี้เริ่มเกิดความรำคาญมาก เพราะการที่ถูกเรียกว่าผู้ต้องหา คงไม่มีใครมีความสุขได้ ส่วนคนที่ทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด โดยไม่มีหลักฐาน ก็ควรหยุดได้แล้ว ข้อเท็จจริงทั้งหมดคนบนเรือพูดไปหมดแล้ว พวกตนมีอนาคตที่ดีรออยู่ พวกตนไม่ฆ่าคน ดังนั้นหลังจากนี้พร้อมเดินหน้าฟ้องกลับคนที่กล่าวหา พวกเขาต้องได้รับผลของการกระทำ ถ้ามีหลักฐานให้รีบเปิดออกมาเลย 5 คนบนเรือรออยู่ โดยเฉพาะที่อ้างว่ามีคลิปกรีดขาแล้วปล่อยให้เลือดไหล ตนรอดูมานานมากแล้ว หากมีหลักฐานดังกล่าวจริง พวกตนพร้อมเดินเข้าคุก
ด้าน นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความส่วนตัวของแซน กล่าวว่า หลังจากนี้เตรียมดำเนินคดีกลุ่มคนที่ทำให้ลูกความของตนได้รับความเสียหาย ก็จะใช้สิทธิ์ฟ้องกลับในหลายข้อหา ทั้งฟ้องเท็จ เบิกความเท็จ แจ้งความเท็จ สืบพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
ส่วนจะฟ้องใครบ้าง ต้องไปดูรายชื่อว่าใครเป็นผู้ยื่นฟ้องบ้าง ซึ่งจำเลยที่ 1 อาจเป็นคุณเเม่ จำเลยที่ 2 คือผู้รับมอบอำนาจ และจำเลยที่ 3 คือผู้เบิกความในศาล ทั้งนี้ ทางด้านแซนได้คุยกับตนเองว่าในส่วนของคุณแม่ อาจคิดดูก่อน เนื่องจากมีความเห็นใจในฐานะผู้สูญเสีย ส่วนการกระทำของกลุ่มนายอัจฉริยะ และนายมงคลกิตติ์ ส่วนหนึ่งตนมองว่าเจตนาของเขาอาจอยากช่วยคุณแม่ แต่ก็อยากให้อยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง โดยไม่กระทบบุคคลอื่นให้เกิดความเสียหาย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา บังแจ็คได้โทรติดต่อมาหาตน พาดพิงไปถึงคณะหนึ่งที่สนิทกับแม่แตงโม โดยพยายามจะบอกว่าคนที่เอ่ยชื่อมา ต้องการเรียกรับผลประโยชน์จากคดีแตงโม จะให้ตนช่วยเปิดโปงให้ ตนไม่สามารถทำได้ เพราะไม่มีหลักฐาน ส่วนสาเหตุที่ตนออกมาพูดเรื่องนี้ เพื่อฝากให้บุคคลทั้งหมดกลับไปคิดว่าควรไว้ใจบังแจ็คได้หรือไม่
ล่าสุด ทีมข่าวต่อสายตรงไปพูดคุยกับทางด้าน "นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน" แม่ของนักแสดงสาวแตงโม เปิดเผยว่ากรณีที่ทางนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานมูลนิธิช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ไลฟ์ผ่านยูทูบโคนันเมืองไทย ระบุพบครายเลือดของแตงโมบนเสื้อของกระติก อ้างเป็นหลักฐานใหม่ ต่อมาทางโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมาชี้เเจงว่าข้อมูลดังกล่าวนั้นไม่ใช่ข้อมูลใหม่ เรื่องคราบเลือดมีอยู่ในสำนวนแล้วตั้งแต่ต้น แต่ไม่สามารถออกมาเปิดเผยได้
ซึ่งตนทราบเรื่องแล้ว ยืนยันว่าเนื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นเรื่องของหลักฐานใหม่ เพราะตนเคยได้ยืนมาจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ทางอัจฉริยะหรือทีมกฎหมายอาจจะเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมในมุมอื่นหรือไม่ ตนก็ไม่ทราบ
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. กล่าวว่า ขณะนี้มีคนหรือกลุ่มบุคคล อ้างว่าได้ค้นพบวัตถุพยานใหม่ คดีแตงโม และสามารถนำมาเป็นวัตถุพยานสำคัญในคดีฯ โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่อาจจะปนเปื้อนคราบเลือด หรือดีเอ็นเอของบุคคลบนเรือนั้น
ขอเรียนให้ทราบว่าวัตถุพยานที่กำลังกล่าวอ้างถึงหรือวัตถุพยานอื่นๆ พนักงานสอบสวนได้รวบรวมและผ่านกระบวนการทางการสอบสวน กระบวนทางนิติวิทยาศาสตร์ ได้ถูกรวบรวมไว้ในสำนวนการสอบสวนไว้ตั้งแต่เบื้องต้นแล้ว
พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวอีกว่า การที่มีบุคคลมากล่าวอ้างว่าได้ค้นพบหลักฐานใหม่ขอยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร และที่สำคัญ วัตถุพยาน พยานบุคคล หรือพยานอื่นใด สำนวนการสอบสวนไม่สามารถนำมาตีแผ่เล่าให้กับสังคมฟังได้ทุกเรื่อง เนื่องจากเป็นความลับในสำนวนการสอบสวน ซึ่งอาจจะมีส่วนได้ส่วนเสียกับบุคคลอื่นใดที่อยู่ในสำนวน
พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า เมื่อพนักงานสอบสวน หรือฝ่ายสืบสวน ตั้งประเด็นหรือข้อสงสัย สมมติฐาน ว่าอะไรจะเกี่ยวข้องในคดีบ้างแล้ว เราก็จะไปทำหน้าที่ทำกระบวนการรวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่างโดยไม่มีข้อละเว้น จากนั้นนำมาชั่งน้ำหนักพยาน นำไปสู่การสรุปสำนวนการสอบสวน ซึ่งสำนวนการสอบสวนนี้จะสรุปและส่งพนักงานอัยการไปแล้ว มีความเห็นไปที่พนักงานอัยการแล้ว พนักงานอัยการเวลานี้อยู่ในกระบวนการขั้นตอนที่จะดำเนินการต่อไปในกระบวนการยุติธรรม
ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ อดีตทนายความของแม่แตงโม กล่าวถึงกรณีนายอัจฉริยะออกมาเปิดเผยข้อมูลเรื่องการพบคราบเลือดติดเสื้อคนบนเรือว่า เรื่องดังกล่าวตนทราบมานานเเล้ว เพราะอยู่ในสำนวนของตำรวจ ก็เกิดความสงสัยว่านายอัจฉริยะ ไปรู้ข้อมูลในสำนวนของตำรวจได้อย่างไร
ซึ่งคราบเลือดที่พบมีขนาดเล็กเท่าหัวไม้ขีด โดยเสื้อตัวนี้เป็นของเเตงโมเเล้วกระติกเอามาใส่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์บนเรือ เเละไม่ใช่รอยเลือดจากการทำร้ายร่างกาย ดังนั้น คำสันนิษฐานเเบบนี้เป็นคำสันนิษฐานของคนที่ไม่ได้เรียนจบกฎหมาย เเต่เป็นความคิดของคนที่จบวิศวะ หรือเป็นผู้รับเหมามาก่อน จึงจะคิดว่าเป็นเลือดจากการฆาตกรรม