วันที่ 20 มิ.ย. 65 หลังจากเพจดัง "สายไหมต้องรอด" พาเจ้าของสาขาร้านซูชิดังแจ้งความกองปราบ หลังเจ้าของธุรกิจหายตัว ลอยแพแฟรนไชส์ พนักงานและลูกค้า เสียหายรวมร่วม 100 ล้านบาท
นางสาวนุ่น อายุ 28 ปี เจ้าของร้านสาขาสายไหม บอกว่า ตนเป็นลูกค้าประจำของร้านอาหารนี้ โดยเมื่อเดือน เม.ย. 64 ตนได้เห็นประกาศขายแฟรนไชส์ ราคาขณะนั้น 2 ล้านบาท ก่อนจะขึ้นราคาเป็น 2.5 ล้านบาทในภายหลัง ตนจึงตัดสินใจทำสัญญาจะเปิดร้านที่ย่ายสายไหม ตนหาทำเล ส่วนการเช่าที่ต่าง ๆ พนักงาน การแต่งร้าน ทางต้นสังกัดเป็นคนจัดการ ซึ่งตนศึกษาและตัดสินใจจากผลประกอบการ จากนั้นก็ได้ทำการกู้ธนาคารเต็มจำนวน 2 ล้านบาท ผ่อนเดือนละ 24,000 บาท
ตนจ่าย 2 ล้านบาท และรอรับเงินปันผลประจำเดือน เดือนละ 10% จากรายได้ในสาขา โดยเปิดร้านวันแรกวันที่ 14 มี.ค. 65 ได้เงินปันผลเดือน มี.ค. 110,000 บาท เงินปันผลเดือน เม.ย. 140,000 บาท ส่วนเดือนพ.ค. ตนยังไม่ได้เงินปันผล โดยทางต้นสังกัดหายตัวไปในวันที่ 17 มิ.ย. 65 ซึ่งก่อนหน้านั้น วัตถุดิบเริ่มส่งช้า ขาดส่ง ทางต้นสังกัดแจ้งว่าหาวัตถุดิบไม่ได้ จากนั้นก็เงียบหายไป และติดต่อไม่ได้
สำหรับคูปองที่คนซื้อแล้วใช้ไม่ได้ เป็นเพราะวัตถุดิบไม่มาส่ง ร้านแต่ละสาขาจึงต้องปิดร้าน ส่วนโปรโมชั่น 199 บาท ที่เป็นประเด็น ตนไม่เคยเอะใจ เนื่องจากทางต้นสังกัดบอกกับตนว่าไหว ทั้ง ๆ รายได้จะสวนทางกับรายจ่าย นอกจากตนที่เดือดร้อน ตนยังคิดว่าสิ่งที่ต้องเร่งช่วยเหลือคือพลักงานที่ถูกลอยแพ เพราะพนักงานของแต่ละสาขา ทางต้นสังกัดเป็นผู้ว่าจ้างทั้งหมด ซึ่งตนสงสารพนักงานเหล่านี้ เพราะต้นสังกัดทิ้งลอยแพไปกลางเดือน พนักงานยังไม่ได้เงินเดือน สาขาของตนมี 16 คน สาขาอื่น ๆ อีก รวมทั้งหมด 395 คน อย่างไรก็ตาม ตนก็อยากให้ต้นสังกัดกลับมาชี้แจง และรับผิดชอบเหตุที่เกิดขึ้น
นายนิพิฐพนธ์ พิชัยเดชพงศ์ หนึ่งในผู้เสียหาย เป็นคนรวมรวบผู้เสียหายในกลุ่มไลน์ ระบุว่า ตนเองเป็นผู้เสียหายในฐานะผู้บริโภค จำนวน 10 ใบ ซื้อในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เป็นมูลค่าประมาณ 2,000 กว่าบาท โดยที่ข้อมูลในส่วนของผู้เสียหายรายอื่นที่แจ้งความประสงค์มามีทั้งหมดประมาณ 8,000 กว่าราย ตีเป็นมูลค่าประมาณ 100 กว่าล้านบาท
เชื่อว่าน่าจะมีมากกว่านั้น โดยทางผู้เสียหายส่วนใหญ่จะเริ่มต้นมูลค่าความเสียหายเป็นหลักพัน เพราะทางเพจเองหากมีการจำหน่ายคูปอง จะเป็นการบังคับให้ชื้อเริ่มต้น 5 ใบ มูลค่าใบละ 213 บาทรวมภาษี ซึ่งเท่ากับว่า 1 คนจะต้องจ่าย 1,000 กว่าบาท สูงสุดน่าจะเป็นหลักพันใบ
ขณะที่ตอนนี้เจ้าของตัวจริงเท่าที่ทราบเชื่อว่าบินหนีไปต่างประเทศแล้ว แต่ยังมีในส่วนของคนสนิทหรือคนที่อยู่รอบตัวเขาที่คากว่ายังคงอยู่ในไทย ส่วนนี้เท่าที่ทราบคือตนเองจะเรียกคนสนิมคนดังกล่าวเป็นมือขวาของเขา ที่คอยช่วยดูแลเรื่องบัญชีหรือประสานงานให้ ซึ่งในส่วนนี้ตนไม่ทราบว่าเขาเองจะทราบเรื่องหรือไม่ แต่ส่วนตัวอยากจะเรียกร้องให้เขาเองออกมาพูดหรือชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ด้านร้านอาหารเนื้อแท้ ของบังโต อดีตนักร้องนำ Silly Fools ออกประกาศรับพนักงานจำนวนมาก รวมถึงยินดีรับพนักงานผู้ที่ได้รับผลกระทบจากร้านอาหารญี่ปุ่นบุฟเฟต์ชื่อดัง
"โต วีรชน ศรัทธายิ่ง" บอกว่า ที่โพสต์นั้นเป็นแนวคิดของทาง HR และฝ่ายประชาสัมพันธ์ของทางร้าน ทางร้านเราต้องการที่จะขยายสาขาให้ได้ประมาณ 6-7 สาขาในปีนี้ ต้องการรับพนักงานจำนวนมาก ทาง HR เขาก็ต้องทำตามโจทย์เราให้ได้ เขาคงเห็นข่าวนี้แล้วเกิดไอเดีย เพราะว่าเขาคงคิดว่าอาจจะมีคนถูกเลย์ออฟพนักงานเยอะ บางคนอาจจะถูกลอยแพเยอะ เขาเลยใช้ช่องทางนี้ในการประชาสัมพันธ์รับสมัครพนักงานไปเลย อย่าไปคิดว่าเป็นการทำบุญช่วยคน ตนเองทำงานด้านศาสนาอยู่แล้ว ครั้งนี้ไม่ว่าเป็นใครก็ได้ลองเข้ามาสมัครกันดู คนที่มีฝีมือมีความสามารถอยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องเทรนกันเยอะ เพราะทางร้านก็มีงานที่หนักรออยู่ ต้องอาศัยคนจำนวนมาก และเราก็พร้อมที่จะรับ
ตนเองไม่ได้อยากไปว่าอะไรใคร เพราะไม่ได้ดูข่าวเลย ส่วนตนเองวุ่นอยู่กับการหาโลเกชันร้านใหม่อยู่ ตนเองฟันฝ่ากับโควิดมาเยอะตลอด 3 ปีที่ผ่านมา หากมีคนมาช่วยทางร้านเพิ่มขึ้นก็ดีใจ ที่ผ่านมาไม่เคยเอาพนักงานออกเลย เพราะเราถือว่าจะทำธุรกิจอะไรก็ตามแต่ เราก็ต้องพึ่งพาความสามารถคนเยอะ คนที่มีความดีงามในหัวใจเข้ามาได้เลย
คุณสมบัติ หากคนที่อยากมาทำงานที่ร้านของเรา ซื้อสัตย์ ไม่โกหก คุณภาพของคนไม่ได้ดูจากประวัติส่วนตัวะ ขอดูนิสัยดีกว่า จริงใจ แค่นั้นเองที่จะทำงานกับเราได้นาน