แพม ปานพิมพ์ นางเอกหนัง "เดอะกิ๊ก" ถูกอดีตโฆษกพรรคการเมืองดัง เบี้ยวผ่อนรถหรู 2 คัน ทำติดหนี้กว่า 3 ล้าน เผยตอนนี้เครียดมาก หวั่นเป็นโรคซึมเศร้า หลังคู่กรณีบอก ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 6 ก.ค.65 ที่สำนักงานทนายรัชพล ศิริสาคร ซ.ประชาราษฎร์ 5 แยก 14/3 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี น.ส.ปานพิมพ์ หรือแพม เตชะธนชัยพัฒน์ อดีตนางเอกหนังเรื่องเดอะกิ๊ก นางแบบปฏิทินลีโอ 2010 พร้อมด้วยนายวรุตย์ บราวน์ พระเอกหนังเรื่อง อินจัน นำเอกสารหลักฐานการเช่าซื้อรถเดินทางเข้าพบทนายรัชพล ศิริสาคร
กรณีถูก อดีตโฆษกพรรคการเมืองชื่อดัง บอกให้เช่าซื้อรถเบนซ์ รุ่น อี350 และ รถบีเอ็มดับเบิ้ลยู รุ่นซีรีย์ 7 ให้ซึ่งขณะนั้นพวกตนทำงานเป็นเลขาส่วนตัวของอดีตโฆษกพรรคการเมืองชื่อดังรายนี้ แต่เมื่อออกรถทั้ง 2 คันมาให้แล้วกลับไม่ยอมผ่อนส่งค่างวดรถ จนตนถูกไฟแนนซ์รถโทรทวงถามมาตลอดทำให้ได้รับความเดือดร้อนจนเครียดมากกลัวจะเป็นโรคซึมเศร้า จึงได้เดินทางมาพบทนายรัชพลเพื่อขอความช่วยเหลือ
น.ส.ปานพิมพ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือน ธ.ค.63 ตนมาทำงานเป็นเลขาส่วนตัวให้กับอดีตโฆษกพรรคการเมืองชื่อดัง แต่พอทำงานได้ไม่นาน อดีตโฆษกพรรคการเมืองชื่อดังได้บอกกับตนว่าให้ช่วยเช่าซื้อรถเก๋งบีเอ็มดับเบิ้ลยู รุ่นซี่รีย์ 7 ให้หน่อยเพราะตัวอดีตโฆษกพรรคการเมืองชื่อดังไม่สามารถซื้อรถเองได้อ้างว่าเครดิตไม่ดี และมีเรื่องอยู่ที่ศาลฯ จึงทำให้ไม่สามารถออกรถเองได้ จำเป็นต้องใช้ชื่อตนออกรถให้แทน
ส่วนเรื่องเงินผ่อนส่งค่างวดรถอดีตโฆษกพรรคการเมืองชื่อดังจะเป็นคนจัดการส่งค่างวดรถเองทั้งหมด ด้วยความที่เชื่อใจประกอบกับตนทำงานเป็นเลขา จึงยอมออกรถให้โดยคันแรกเป็นรถบีเอ็มดับเบิ้ลยู ซี่รีย์ 7 ราคา 2,090,000 บาท เงินดาวน์ 498,214 บาท ผ่อนงวดละ 39,648 บาท 43 งวด โดยตลอด 1 ปี แรก ส่งค่างวดรถตรงมาโดยตลอด ต่อมาเมื่อเดือนก.พ. 64 อดีตโฆษกพรรคการเมืองชื่อดังได้บอกให้ตนออกรถเบนซ์ให้อีกคัน
ตอนแรกตนก็ปฎิเสธไปว่าไม่อยากทำให้แล้ว แต่เขาอ้างว่าจะซื้อรถให้พ่อเขาโดยไปดูที่ศูนย์รถแห่งหนึ่งซึ่งเป็นรถเบนซ์มือ 2 แต่ยังเป็นป้ายแดงอยู่ ตนก็ยอมโดยให้แฟนเป็นคนซื้อรถแต่เอกสารไม่ผ่าน อดีตโฆษกพรรคการเมืองชื่อดังจึงมาขอให้ตนเป็นคนซื้อรถให้โดยจะเดินเรื่องทุกอย่างเอง จนเรื่องผ่านจึงได้ออกรถเบนซ์ รุ่น อี 350 ป้ายแดงแต่เป็นมือสอง ราคา 1,960,000 บาท ดาวน์ 490,000 บาท ผ่อนงวดละ 45,064 บาท 48 งวด เป็นชื่อตนร่วมที่ตนออกรถให้เป็นจำนวน 2 คัน หลังจากนั้นเดือน ธ.ค.64 ตนได้ลาออกจากการเป็นเลขา
กระทั่งเมื่อเดือนพ.ค.65 ตนได้รับโทรศัพท์จากทางไฟแนนซ์ของรถเก๋งทั้ง 2 คันว่า ตนผิดนัดชำระค่างวดรถโดยรถบีเอ็มดับเบิ้ลยู ค้างค่างวดรถอยู่ 3 งวด ส่วนรถเบนซ์ ค้างค่างวดรถอยู่ 4 งวด ให้ตนรีบนำเงินมาชำระหรือไม่ก็ส่งรถคืนให้กับทางไฟแนนซ์ จึงได้โทรศัพท์สอบถามถึงเรื่องดังกล่าว เขาตอบว่า ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย บ่ายเบี่ยงไม่รับผิดชอบ
กระทั่งตนได้รับโทรศัพท์จากผู้หญิงคนหนึ่งอ้างว่าได้รับจำนำรถบีเอ็มดับเบิ้ลยู ซึ่งเป็นชื่อของตนเอาไว้ในราคา 380,000 บาท ให้ตนนำเงินมาไถ่ถอนรถออกไปพร้อมดอกเบี้ย 13,000 บาท จึงได้โทรศัพท์ไปหาเขาอีกแต่ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย จนรู้สึกเครียดมากไม่รู้จะทำอย่างไร จึงตัดสินใจนำเรื่องที่เกิดขึ้นพร้อมเอกสารหลักฐานต่างเข้ามาปรึกษากับทางทนายรัชพลให้ช่วยเหลือ
ทางด้าน ทนาย รัชพล กล่าวว่า ตอนนี้เห็นใจกับทางน้องเพราะเข้าใจว่าสุดท้ายการเป็นหนี้หลายๆ ล้านแล้วไม่ได้จ่าย อาจจะถึงขั้นถูกฟ้องร้องถึงขั้นยึดทรัพย์และอาจจะล้มละลายได้ บุคคลธรรมดาเป็นหนี้ถึงล้านนึงเนี้ยอาจจะล้มละลายได้ เพราะฉะนั้นก็อยากให้ทางคู่กรณีเข้ามาพูดคุยเข้ามาไกล่เกลี่ยและมาตกลงกันให้แน่ชัด ว่าจะตกลงกันจะมีการกำหนดชำระเงินกันกี่งวด งวดละเท่าไรบ้าง ปัญหานี้ไม่ใช่คดีอาญาสามารถที่จะตกลงไกล่เกลี่ยกันได้ จึงอยากให้เข้ามาพูดคุยตกลงกัน
เบื้องต้นก็อยากจะแนะนำให้ไปแจ้งความไว้ก่อน เพราะว่าการที่เอารถไปจำนำ คือการใช้คำว่าจำนำในทางปฏิบัติ ถ้าเอาไปขายจะเป็นเรื่องของการยักยอกทรัพย์ทันที ซึ่งตรงนี้จะมีโทษจำคุกอยู่ ก็อยากให้ทางน้องเข้าไปแจ้งความไว้ก่อน แล้วก็ถ้าเป็นไปได้ก็ช่วยติดตามรถหรือพาไฟแนนซ์ไปยึดรถหรือติดตามรถกลับมาก็สามารถทำได้เช่นกัน