กรณีเฟซบุ๊กแฟนเพจ แหม่มโพธิ์ดำ โพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวผู้ป่วยพิการทางสมองรายหนึ่งถูกแกล้ง โดยใช้หนังยางรัดอวัยวะเพศจนเน่า ทำให้แพทย์ต้องรักษาด้วยการตัดอวัยวะเพศทิ้ง
ล่าสุด วันนี้ (23 มิ.ย. 60)
นายภูวดล เจียมอ่อน หรือภู พี่ชายของชายที่พิการทางสมองที่ถูกแกล้ง เปิดเผยกับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวีว่า เมื่อ 15 ปีก่อน น้องชายตนประสบอุบัติเหตุ ทำให้เป็นเจ้าชายนิทรากว่า 3 เดือน เมื่อฟื้นขึ้นมาพบว่า อัมพาทครึ่งตัวซีกว้าย แต่ยังสามารถเดินไปไหนมาไหน รวมถึงกินข้าว อาบน้ำ ช่วยเหลือตัวเองได้ แต่สมองไม่สามารถจดจำเหตุการณ์ปัจจุบันได้ จำได้เฉพาะเหตุการณ์ในอดีต
นายภูวดลเล่าต่อว่า เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดระยอง พบน้องชายมีไข้ ตัวแดง จึงคิดว่าน้องชายไม่สบาย เพราะคงจะไปตากแดดนานเกินไป จึงให้นอนพักผ่อน จนเวลา 2 ทุ่ม ได้เรียกน้องชายให้มากินข้าว แต่เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปก็ต้องตกใจ เพราะน้องชายกำลังนอนอยู่บนเตียง แต่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า โดยบริเวณอวัยวะเพศบวมขึ้นมาเกือบเท่าแขน และมีหนองไหลออกมา จึงรีบพาน้องส่งโรงพยาบาล
แพทย์วินิจฉัยว่า น้องชายมีการติดเชื้อที่อวัยวะเพศ พบว่ามีหนังยางรัดแกงสีเขียว รัดเอาไว้ที่โคนของอวัยวะเพศ 2 รอบ แพทย์สันนิษฐานว่าถูกรัดเอาไว้นานกว่า 3 วัน จึงต้องรักษาด้วยการผ่าตัดอวัยวะเพศทิ้งทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด โชคดีที่ท่อปัสสาวะยังไม่ติดเชื้อ แพทย์จึงนำท่อปัสสาวะมาฝังไว้ที่ถุงอัณฑะ และรอเวลาประมาณ 6 เดือนจึงจะนำท่อปัสสาวะออกมา และหาวิธีรักษาให้สามารถกลับมาขับปัสสาวะได้ปกติที่สุด ระหว่างนี้ยังคงต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
นายภูวดลเปิดเผยด้วยว่า ตนได้สอบถามน้องชายว่าไปโดนใครทำมา น้องก็ตอบวกไปวนมาว่าเป็นคนละแวกบ้านบ้าง เป็นคนใกล้ตัวบ้าง ซึ่งทั้งหมดตนก็ยังไม่ได้ปักใจเชื่อว่าใครเป็นคนทำ เพราะก่อนหน้านี้ น้องชายก็มักจะถูกกลุ่มวัยรุ่นแถวบ้าน รังแกอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากน้องชายมีลักษณะนิสัยกวนๆ รวมถึงอาการป่วยที่ไม่สามารถจำเหตุการณ์ปัจจุบันได้ ก็อาจเป็นสาเหตุทำให้กลุ่มวัยรุ่นเข้าใจผิดคิดว่าน้องชายไปกวน
ทั้งนี้ เมื่อตนลองไปตรวจสอบภายในบ้านก็พบว่า มีหนังยางลักษณะเดียวกันกับที่ใช้รัดอวัยวะเพศของน้องชาย ซึ่งตนก็หวังเพียงว่า ขอให้ไม่ใช่คนในบ้านที่เป็นคนลงมือ เพราะบ้านก็มีแค่พ่อแท้ๆ และแม่เลี้ยงเท่านั้น ที่อาศัยอยู่กับน้องชาย อย่างไรก็ตาม พ่อของตนได้พาน้องชายไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองระยอง ซึ่งตำรวจให้ลงบันทึกประจำวันไว้ และยังบอกกลับมาว่า "
ไม่สามารถจับมือใคร
ดมได้ ลงๆ ไว้เผื่อจับได้" ซึ่งตนก็รู้สึกประหลาดใจในคำพูดดังกล่าว
ร.ต.อ.ธวัช หนอสิงหา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองระยอง เปิดเผยว่า กรณีนี้ยากที่จะตามหาตัวคนกระทำผิดได้ เพราะยังไม่รู้แน่ชัดว่าใครทำ หรือเขาอาจทำตัวเองแล้วลืม โดยคนใกล้ตัวไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือแม่ ควรที่จะค่อยๆพูดคุยกับผู้เสียหาย และได้ข้อมูลอย่างไร ก็ให้นำมาแจ้งกับทางตำรวจอีกครั้ง ส่วนการจะเรียกผู้เสียหายมาสอบปากคำ ก็สามารถทำได้ แต่ก็ต้องดูว่าผู้เสียหายมีความพิการขนาดไหน จะต้องใช้นักจิตวิทยาหรือไม่ หรืออาจต้องใช้ผู้อนุบาลแทนหรือไม่นั้นก็ต้องดูอีกครั้ง
ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก แหม่มโพธิ์ดำ