กลุ่มสาวพีอาร์ โร่แจ้งจับขาใหญ่ตลิ่งชัน หลังชักปืนขู่ตามคุกคาม เพราะไม่ดูแลลูกชายวัย 17 ปี ในงานเลี้ยงวันเกิด
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 31 ก.ค. ที่ สน.ตลิ่งชัน ขณะที่ ร.ต.อ.ดนกอหนี ทิ้งหลง รอง สว.(สอบสวน) สน.ตลิ่งชัน กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพักได้มี น.ส.แพร (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี น.ส.ปุ้ย (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี และ น.ส.เฟย์ (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี ทั้ง 3 ราย เป็น PR สถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่งย่านถนนพุทธมณฑลสาย 2 เข้าแจ้งความ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายเอกพล หรือเอก เอี่ยมวิสูตร อายุ 35 ปี หลัง รับงานเอนเตอร์เทนชงเหล้า ที่บ้านพักของนายเอกพล ย่านถนนสวนผักซอย 19 แล้วถูกข่มขู่คุกคาม ตามไปเอาปืนจ่อทำร้าย และตามไปราวีถึงสถานที่ทำงาน เหตุเพราะผู้เสียหาย ไม่ยอมเอนเตอร์เทนบุตรชายวัย 17 ปี ของนายเอกพล ซึ่งสวมเครื่องแบบชุดนักเรียน นั่งร่วมงานสังสรรค์อยู่ด้วยในวันเกิดเหตุ
น.ส.เฟย์ ให้การว่า เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา ตนและเพื่อนๆ รวม 7 คน ซึ่งปกติทำงานเป็น PR อยู่ที่สถานบันเทิงปีกไม้ ถนนพุทธมณฑลสาย 2 ได้รับงานเอนเตอร์เทนชงเหล้า ในงานเลี้ยงวันเกิดของ นายเอกพล ช่วงเวลาระหว่าง 21:00 น ถึง 04:00 น. ในราคาหัวละ 3,000 บาท โดยขณะที่กลุ่มพวกตนไปถึงที่งาน พบว่ามีผู้ร่วมงานมากกว่า 30 คน ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบไปร่วมอวยพรด้วย เนื่องจากทราบว่านายเอกพล เป็นนายทุนปล่อยเงินกู้รายใหญ่ในพื้นที่ ทีแรกก็ไม่คิดอะไร เพราะพวกตนทั้ง 7 คนมีหน้าที่แค่ไปชงเหล้าพอครบเวลาจ้างงานก็จะเดินทางกลับ
น.ส.เฟย์ ให้การต่อไปว่า แต่พอตกดึกนายเอกพล กับภรรยา ก็ไม่พอใจ หาว่าพวกตนไม่ดูแลบุตรชายวัย 17 ปี ซึ่ง ยังสวมชุดนักเรียน และอยู่ในงานเลี้ยงวันเกิดของผู้เป็นพ่อด้วย ตอนนั้นนายเอกพล ซึ่งเมาสุราอย่างมาก และมีพฤติกรรมเคี้ยวยาเม็ดบางอย่างอยู่ตลอดเวลา ก็ได้แสดงความเกรี้ยวกราด นำกระสุนปืนไม่ทราบขนาดจำนวน 1 กล่อง ราว 50 นัด มาเทกองไว้บนโต๊ะที่พวกตนนั่งอยู่ ซ้ำยังพูดจาข่มขู่ว่า ตอนนี้มีมาโชว์แค่ลูกปืน ส่วนตัวอาวุธปืนและระเบิดนำไปเก็บไว้หมดแล้ว พวกตนเห็นท่าไม่ดี พ่อรุ่งเช้าวันที่ 29 ก.ค.หมดเวลาจ้างงานจึงรีบชักชวนกันเดินทางกลับ
พอช่วงหัวค่ำวันที่ 29 ก.ค. มีเพื่อนของนายเอกพล ซึ่งรู้จักเพราะพูดจาถูกคอกับตน ภายในงาน ได้ติดต่อทัก LINE มาหา ขอจ้างตนและเพื่อนอีก 1 คนไปรับงานชงเหล้าที่ร้านขายอะไหล่รถยนต์ย่านเสาชิงช้าพื้นที่ สน.สำราญราษฎร์ อีกครั้ง ตนไม่เอะใจอะไรจึงรับงานและเดินทางไปถึงที่งาน แต่พอตกดึกนายเอกพล กลับบุกเข้าไปภายในงาน ชักปืนขึ้นมาจ่อตน ให้แสดงความรับผิดชอบเรื่องงานวันเกิดตัวเอง ที่พวกตนบริการไม่ประทับใจ ตอนนั้นพวกผู้ชายในกลุ่ม ร้านขายอะไหล่ก็ได้ช่วยกันแย่งปืน และช่วยเกลี้ยกล่อมระงับสติอารมณ์นายเอกพล เอาไว้ โดยตนก็ได้กราบขอโทษนายเอกพล ไปแล้ว ซึ่งพองานคืนนั้นจบลงแต่ นายเอกพล กลับยังไม่ยอมจบ
น.ส.เฟย์ กล่าวอีกว่า พอวันที่ 30 ก.ค. ตนได้รับการติดต่อจากโมเดลลิ่งคนหนึ่ง ว่า นายเอกพลอย่าให้ตนกับเพื่อนๆรวม 7 คนเข้าไปกราบขอขมาที่บ้าน หรือไม่ก็โอนเงินจำนวน 15,000 บาท ซึ่งเป็นค่าแรงส่วนหนึ่งของพวกตนคืนให้ ตามบัญชีที่ นายเอกพล ให้มา ตนยอมตัดปัญหาโอนเงินจำนวน 15,000 บาทคืนไป แต่ท้ายที่สุดพอพลบค่ำ นายเอกพล ก็ยังไปปรากฏตัวตามราวีพวกตนถึงหน้าร้าน โดยฝากบอก กับพนักงานการ์ดเอาไว้ว่า ถ้าพวกตนไม่เข้าไปขอขมาที่บ้าน จะนำอาวุธปืนมายิงกราดหน้าร้าน และหากเจอพวกตนที่ใดก็จะยิงให้ตาย หนำซ้ำยังพูดจาโอ้อวดด้วยว่า รู้จักตำรวจจำนวนมาก เคยยิงตำรวจมาแล้ว และท้าให้พวกตนไปแจ้งความได้เลย
" ตนกับเพื่อนๆ เห็นว่าน่าจะไม่ปลอดภัย จึงทยอยกันเดินทางมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ก่อน ให้ดำเนินคดีกับนายเอกพล ในข้อหาข่มขู่ฯ จากนั้นตนซึ่งถูกนายเอกพล ยกปืนขึ้นจ่อ ในลักษณะนิ้วอยู่ในโกร่งไก จะเดินทางไปแจ้งความต่อที่ สน.สำราญราษฎร์ ในข้อหาพยายามฆ่า ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติของ นายเอกพล พบว่าเมื่อ 2 ปีที่แล้วเคย ตกเป็นข่าวดัง และถูกตำรวจ สน.ตลิ่งชัน จับกุมหลัง ร่วมกับพวกรวม 4 คน ควงอาวุธปืนบุกอุ้มชาวบ้านจากในงานบวช ไปทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยครั้งนั้นเจ้าตัวอ้างว่าอุ้มผิดตัว และถูกดำเนินคดีมาแล้วด้วย" น.ส.เฟย์ กล่าว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน จึงได้บันทึกคำให้การ ของผู้เสียหายทั้ง 3 คน เอาไว้ก่อน โดยหลังจากนี้จะรอผู้เสียหายรายอื่นๆทยอยเข้ามาให้การเพิ่มเติม และจะรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนพิจารณาดำเนินการกับผู้ต้องหารายนี้ต่อไป.