จากกรณี วันที่ 2 เม.ย. 62 เฟซบุ๊กเพจ สถานีตำรวจภูธรท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี โพสต์ภาพเด็กและข้อความว่า “ประกาศ ด่วน ด.ช.ภาคิน คิดตลอด อายุประมาณ 1 ขวบกว่า ได้หายออกไปจากบ้านเลขที่ 343 ม.3 ต.ท่าคอย เมื่อวันที่ 1 เม.ย. เวลาประมาณ 18.00 น. เบาะแสสุดท้ายทราบว่า น้องภาคินนั่งเล่นอยู่หน้าบ้านกับสุนัข ส่วนแม่กำลังทำกับข้าวอยู่ พอออกมาดูก็ไม่เจอลูกแล้ว ขณะที่ทีมกู้ภัยและผู้ปกครองได้เร่งค้นหาน้องภาคิน และมีพระมาทำพิธีแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 9 เม.ย. เมื่อเวลา 08.30 น. พบศพรายหนึ่ง โดยพ่อและแม่ยืนยันว่าเป็นศพน้องภาคิน (อ่าน:
พ่อแม่ร่ำไห้! พบ “น้องภาคิน” เป็นศพร่างลอยคลองข้างวัด หลังหายจากบ้าน 8 วัน)
ด้าน
นายสมเกียรติ จันทร์นาค ผู้พบศพน้องภาคิน เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 9 เม.ย. ตนขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อมุ่งหน้าไปทำนา พบเห็นที่บริเวณคลองซอยข้างถนน มีศพนอนคว่ำหน้าอยู่ ครั้งแรกนึกว่าเป็นตุ๊กตา แต่ตนสังหรณ์ใจ จึงเลี้ยวรถจักรยานยนต์กลับมาดูและพบว่าเป็นศพน้องภาคิน
ด้าน
นางอารยา ขัวลำหาน แม่น้องภาคิน เปิดเผยว่า ตนมั่นใจว่าศพที่พบเป็นน้องภาคิน ยอมรับว่าเสียใจแม้ว่าจะทำใจไว้บ้างแล้ว ไม่คาใจสาเหตุการเสียชีวิตแต่อย่างใด เชื่อว่าลูกพลัดตกน้ำจนเสียชีวิตเอง เนื่องจากเด็กมักออกไปเล่นน้ำกับตนบ่อยครั้ง และชอบเล่นน้ำประจำ ส่วนประเด็นที่เคยถูกกระแสโจมตีหาว่าขายลูกกินนั้น ตอนนี้รู้สึกโล่งใจที่เรื่องคลี่คลายทั้งหมดแล้ว และยืนยันได้ว่าไม่มีเรื่องขายลูกกินอย่างแน่นอน
ส่วนกรณีที่ลูกพลัดตกน้ำ จนเสียชีวิตนั้น ตนยอมรับว่า เป็นความผิดของตนที่ดูแลลูกไม่ดี พลาดสายตา จนกระทั่งทำให้พลัดตกน้ำเสียชีวิต นอกจากนี้กรณีที่ลูกถูกพัดไปไกลถึง 12 กิโลเมตรนั้น ตนรู้ว่าเป็นไปได้ เนื่องจากคุ้นชินกับคลองชลประทาน ประกอบกับกระแสน้ำพัดค่อนข้างแรง โดยวันที่ 10 เม.ย. ตนตั้งใจจะเดินทางไปรับศพลูกที่โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพฯ เพื่อนำศพกลับมาสวดพระอภิธรรมต่อไป
โดยภายหลังจากที่พบศพน้องภาคินแล้วนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านลาด ส่งศพชันสูตรที่โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพฯ ในขณะเดียวกันนายโชคชัยและนางอารยา พ่อแม่น้องภาคิน เดินทางไปให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านลาด เพิ่มเติม และมีการเก็บหลักฐานตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอเพื่อยืนยันตัวเด็กอีกครั้ง พร้อมกับให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.บ้านลาดด้วย
ด้าน
นางหนูนี ขวนลำหาน ยายน้องภาคิน เปิดเผยว่า ส่วนตัวเชื่อว่าการที่พบศพหลานชายในวันนี้นั้น เนื่องจากการทำพิธีของครูบาเจ้าหน่อเขี้ยวแก้ว หรือหลวงพ่อรวย ที่มาประกอบพิธี ซึ่งหลวงพ่อรวย คือพระรูปเดียวกับที่ทำพิธีเปิดทางหาตัวน้องซูลุยผิว ที่ จ.สุพรรณบุรี หลังทำพิธีเพียง 1 คืน จึงพบร่างน้องซูลุยผิว และที่หลวงพ่อรวยระบุว่า หากน้องเสียชีวิต คือน้องไปนิพพาน ซึ่งตนเชื่อว่าน้องภาคิน คงหมดเวรกรรมและจากไปในภพชาติอื่น โดยเตรียมนำศพน้องภาคินมาสวดพระอภิธรรมเพียง 1 คืน ก่อนฌาปณกิจต่อไป
โดยจุดที่พบศพน้องภาคิน พบว่าอยู่ในคลองซอยย่อย กว้าง 50 ซม. ลึก 50 ซม. แยกออกมาจากคลองหน้าวัดตาลกง เป็นน้ำที่ไหลต่อเนื่องมาจากคลองสายสามหน้าบ้านน้องภาคิน ซึ่งกระแสน้ำที่ไหลจากคลองสายสามหน้าบ้านน้องภาคิน ก่อนแยกซ้ายไหลไปทางเขตพื้นที่อำเภอบ้านลาด จนกระทั่งกระแสน้ำไหลผ่านมาถึงหน้าวัดตาลกง จุดนี้เรียกว่าคลองตาลกง โดยช่วงคลองหน้าวัดตาลกง มีท่อไส้ไก่ ที่ปล่อยน้ำมาสู่คลองซอยย่อย ผ่านบ้านชาวบ้านเพื่อลงสู่ไร่นาเกษตรกร สรุปเป็นระยะทาง 12 กิโลเมตร โดยคาดว่ากระแสน้ำที่แรง ทำให้ร่างเด็กหลุดไปไกล
ด้าน
ครูบาเจ้าหน่อเขี้ยวแก้ว หรือ หลวงพ่อรวย วัดถ้ำมังกรทอง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เปิดเผยในรายการต่างคนต่างคิด ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ อมรินทร์ ทีวี ช่อง 34 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.20 น. ว่า จากที่ได้ไปทำพิธีเบิกทาง ให้เจ้าที่เจ้าทางเปิดทางให้พบ ด.ช.ภาคิน เนื่องจากมีทหารมานิมนต์ตนตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. แต่เพิ่งมีโอกาสได้ไป ซึ่งก็ตั้งใจไปช่วย โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ไม่ได้หวังจะสร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักในข่าว
นอกจากนี้ จากเหตุการณ์ในอดีต ที่มีการตามหา ด.ช.ซุลุยผิว ที่หายไปในไร่อ้อย ตนก็มีโอกาสไปทำพิธี และมีนักข่าวสำนักหนึ่งแสดงอาการคล้ายวิญญาญเสือสมิงเข้าร่าง ยืนยันว่าไม่มีการเตรียมการมาก่อน ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่ทีมนักฟุตบอลหมูป่า 13 คน ที่ติดในถ้ำหลวง จ.เชียงราย อาตมาทำพิธีมากกว่าครูบาบุญชุ่ม ที่มีชื่อเสียง ซึ่งครูบาบุญชุ่มก็เป็นลูกศิษย์ของอาตมา และยืนยันว่าไม่ได้หวังชื่อเสียงหรือแสวงหาเงินทองใด ๆ
อย่างไรก็ตาม ในอดีตชาติของ ด.ช.ภาคิน เคยบวชเป็นพระมาก่อน แต่ติดกรรมที่ต้องมาเกิดอีกชาติ เพื่อรับใช้พ่อแม่ ซึ่งอาตมาทราบตั้งแต่แรกว่า ด.ช.ภาคิน เสียชีวิตแล้ว หลังจากนั่งสมาธิแล้วได้กลิ่นวิญญาณ แต่ยังไม่บอกครอบครัวของเด็กให้ทราบ ทั้งนี้ อาตมาเห็นในนิมิตสมาธิว่า ด.ช.ภาคิน เมื่อตกน้ำแล้ว กายทิพย์ก็เดินขึ้นมา จิตของอาตมาก็ถามเด็กว่าทำไมจึงไม่ไปตามภพภูมิที่ดี เด็กตอบกลับว่า "ผมพอแล้ว ถึงชาติที่ผมต้องไปนิพพานแล้ว"
โดยอาตมาได้พูดกับลูกศิษย์ก่อนที่จะพบศพเด็กว่า เห็นเด็กตายในท้องร่องคลอง และที่ยังค้นหาร่างไม่เจอ เพราะเจ้ากรรมนายเวรยังไม่ให้เจอ เมื่อครบ 9 วัน เจ้ากรรมนายเวรจึงจะเปิดทางให้เจอได้ ซึ่งเด็กติดอยู่ในวิบากกรรมที่จะต้องชดใช้ นอกจากนี้ อาตมาเคยสื่อกับเจ้ากรรมนายเวร บางกรณีเจ้ากรรมนายเวรก็มาฟ้องอาตมาว่าคนตายเคยทำอะไรไว้กับเขาบ้าง
อย่างไรก็ตาม เมื่อก่อนมีคนมาหาอาตมาวันละเป็นพันเป็นหมื่น อาตมาไม่จำเป็นต้องเรียกร้องความสนใจจากใคร มีชื่อเสียงในระดับหนึ่งแล้ว ส่วนใหญ่หากมีเหตุการณ์ที่แก้ไขไม่ได้เรื่องกฎแห่งกรรม มีคนอื่นพยายามช่วยแล้วไม่เป็นผล ก็จะมานิมนต์อาตมาไปช่วยเหลือ
โดยหลังจบรายการต่างคนต่างคิด ครูบาเจ้าหน่อเขี้ยวแก้ว ยังชี้แจงว่า กรรมที่ ด.ช.ภาคิน ได้ทำไว้ในอดีตชาติและเจ้ากรรมคือเสือดำ เพราะในอดีตเด็กคนนี้เคยขังเสือดำไว้ แม้เป็นเพียงเศษกรรมแต่ก็ต้องชดใช้ ดังนั้นเจ้ากรรมจึงพรางตาไม่ให้ใครเจอเหมือนเป็นการกักขังไว้ 9 วัน จึงปลดปล่อยให้คนพบร่าง เรื่องดังกล่าวหากพูดไปบางคนก็ไม่เชื่อ แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องของกรรม การกระทำที่ได้เคยทำไว้ในอดีตชาติ