ทนายรัชพล นำทีมลูกทัวร์กว่า 30 ชีวิตเข้าร้องเรียน สคบ. หลังถูกไกด์ลอยแพทัวร์เชจู โดนตม.กักตัว ไม่สามารถเข้าประเทศเกาหลีใต้ได้
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ศูนย์ราชการ ทนายรัชพล ศิริสาคร พร้อมผู้เสียหายจากกลุ่มทัวร์ 2 กลุ่ม ประมาณ 30 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หลังถูกบริษัททัวร์ลอยแพและถูกกักตัวที่ประเทศเกาหลีใต้ และขอให้ตรวจสอบการทำงานของบริษัททัวร์
วันนี้กลุ่มผู้เสียหาย 2 กลุ่ม ร้องเรียนกับตนเองว่ามีการซื้อทัวร์เชจู จากบริษัทหนึ่งในราคา 13,990 บาท พิถึงวันเดินทางที่สนามบินสุวรรณภูมิ กลับถูกเรียกเก็บค่าทิปไกด์ประมาณ 1,200 - 1,500 บาท และค่าประกันว่าจะไม่หนีทัวร์อีกประมาณ 15,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ไม่ได้แจ้งกับทางลูกทัวร์ทราบก่อน หากไม่จ่าย จะไม่ให้ตั๋วเครื่องบิน ผู้เสียหายจึงจำยอมต้องจ่ายถึงสนามบินเกาะเชจู ประเทศเกาหลีใต้ ไกด์ไม่ได้ดูแลผู้เสียหายในการผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และเดินหายไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้ผู้เสียหายถูกกักตัวไม่สามารถเข้าประเทศเกาหลีใต้ได้ ส่วนนี้ตนมองว่าบริษัท จงใจหรือไม่เพราะปกติไกด์จะต้องดูแลลูกทัวร์ แต่ถ้าบริษัทรู้อยู่แล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้ก็เท่ากับว่าบริษัทเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสียหาย
วันนี้จึงมาร้องให้สอบสวนสืบสวนข้อเท็จจริงและขอเรียกงินค่าเสียหายจากบริษัททัวร์มาให้แก่ผู้เสียหาย แบะขอให้ประสานไปยังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อตรวจสอบการทำงานของบริษัท ทัวร์นี้ด้วย
นายฤทธิชัย มุระภา 0837290270 ตัวแทนของผู้เสียหาย ตนซื้อทัวร์ผ่านเอเจนซี่ราคา 13,999 บาท ซึ่งจะเป็นค่าโรงแรม อาหาร ตั๋วเครื่องบิน พอถึงวันเดินทางมีการเรียกเก็บค่าทิปไกด์ ซึ่งระบุว่าเป็นค่าธรรมเนียม 1,500 บาท และค่าประกันว่าจะไม่หนีทัวร์อีกคนละประมาณ 15,000 บาท พอไปถึงในวันที่ 15 สิงหาคม ไกด์จะเดินไปก่อน ลูกทัวร์จะเดินตามหลังพอชุดที่ถึงชุดที่ 3 ไกด์ได้เดินไปอีกทาง แล้วปล่อยให้ลูกทัวร์เดินเข้า ตม. จนถูกกักตัวรวม 71 คน ซึ่งการกักตัวต้องออกค่าข้าวกันเอง มีให้แต่น้ำ กระทั่งวันที่ 19 สิงหาคม ทางตม.ได้ปล่อยตัวกลับมาพร้อมกับไฟร์ททัวร์เรา
ทั้งนี้ได้สอบถามทางบริษัทกลับไม่มีคำตอบที่ชัดเจน และตอนนี้อยากให้บริษัทมาแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ด้านผู้อำนวยการศูนย์รับเรื่องร้องเรียน สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบเอกสาร พร้อมทำหนังสือเรียกบริษัทที่ถูกร้องชี้แจงข้อเท็จจริงถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น พร้อมการเยียวยาผู้เสียหาย พร้อมเรียกให้มาไกล่เกลี่ยหากตกลงกันไม่ได้ก็จะส่งเรื่องเสรอคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป