วันที่ 21 เม.ย. 62 “กอร์ไรอู ดา มันญา” หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ของโปรตุเกส รายงานผ่านเว็บไซต์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจของโปรตุเกสเดินหน้าค้นหาชิ้นส่วนที่เหลือของศพ เจ๊ต้อย หมอนวดชาวไทย ที่ถูกฆ่าหั่นศพทางตอนเหนือของโปรตุเกสก่อนหน้านี้ (อ่าน :
ฆ่าตัดหัว หมอนวดสาวไทยในโปรตุเกส แม่ช็อกไร้เงินนำศพกลับไทย)
ทั้งนี้ แม้ตำรวจโปรตุเกสจะสามารถจับกุมตัว นางแสงงาม สวายประโคน อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาสัญชาติไทยได้แล้ว แต่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนลงมือหั่นศพ และเพื่อนอีกรายปฏิเสธให้รายละเอียดจุดทิ้งศพ แต่ยอมรับว่าอยู่ในเหตุการณ์ตอนที่มีการฆาตกรรมนางต้อย
เจ้าหน้าที่ตำรวจของโปรตุเกสเร่งลงพื้นที่ค้นหาชิ้นส่วนศพที่เหลือ ซึ่งล่าสุดพบเพียงชิ้นส่วนศีรษะในถุงพลาสติก ที่ถูกสุนัขคาบออกมาจากชายหาด เลซา ดา ปัลไมร่า เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 62 ในเมืองมาโตซินญอส ชายหาดตากอากาศยอดนิยมทางภาคเหนือของโปรตุเกส
จนถึงขณะนี้ แม้ผลการสืบสวนเบื้องต้นจะพบข้อมูลว่า ปมสังหารน่าจะมาจากการที่นางแสงงามกับผู้ตายมีความขัดแย้งกันในเรื่องเงินลงทุนเปิดร้านนวดจำนวน 10,000 ยูโร (ประมาณ 357,700 บาท) ที่นางแสงงามขอยืมมาจากผู้ตายก่อนหน้านี้
ด้านประเทศไทย ทีมข่าวลงพื้นที่บ้านตะคร้อ หมู่ 3 ต.ช่างปี่ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ พบกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต นางสมหวัง ใจงาม อายุ 46 ปี พี่สาวผู้ตาย เผยว่า ทราบข่าวน้องสาวเสียชีวิตจากเพื่อนบ้าน รู้สึกเสียใจมาก เนื่องจากพ่อเพิ่งจะเสียชีวิตจากอาการป่วย ไม่ถึง 1 เดือน ต้องสูญเสียไปถึง 2 ชีวิต ครอบครัวก็ลำบาก เพราะถ้าหากน้องสาวยังมีชีวิตอยู่จะส่งเงินกลับมาที่บ้าน เดือนละประมาณ 5,000-6,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายของครอบครัว และซ่อมแซมบ้านที่ถูกพายุพัด ตนก็ร่างกายไม่แข็งแรง มีโรคประจำตัว ไม่สามารถทำงานได้ พี่ชายอีกคนก็พิการ
ตนได้คุยกับน้องสาวครั้งสุดท้าย เมื่อเดือนธันวาคม น้องสาวโทรมาฝากทำบุญถวายผ้าไตร ซึ่งปกติน้องสาวเป็นคนใจดี โอบอ้อมอารี รักหลานทุกคน เคยแต่งงานมาแล้ว 1 ครั้ง แต่เลิกรากันไป และมีลูก 1 คน ตอนนี้เรียนอยู่ชั้น ป.3 อย่างไรก็ตาม ครอบครัวยังไม่มีเงินที่จะนำศพ น้องสาวกลับมา จึงอยากวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้ใจบุญช่วยเหลือ หากไม่สามารถนำร่างน้องกลับมาได้ ขอให้ได้เถ้ากระดูกกลับมาบ้านเกิดก็ยังดี
ขอบคุณ รายงานข่าวจากเว็บไซต์ กอร์ไรอู ดา มันญา
https://www.cm-tv.pt/atualidade/detalhe/salao-de-massagista-tailandesa-suspeita-de-decapitacao-fechado-ha-dois-dias