จากกรณีเด็กหญิง อายุ 4 ปี ถูกแม่แท้ ๆ ตีจนต้องนอนเป็นเจ้าหญิงนิทรา ตั้งแต่ปี 2560 โดยปัจจุบันได้รับการดูแลจากย่าและป้าที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.หนองกรด อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ส่วนพ่อแม่ของเด็กไม่เคยย้อนกลับมาดูแล
วันที่ 24 เม.ย. 62 ณ บ้านดังกล่าว ทีมข่าวพบ ด.ญ.กรรณิการ์ บ่ายจันทึก หรือ น้องแพรว อายุ 4 ขวบ อยู่ในสภาพนอนติดเตียง มีรอยยุบบริเวณหัวซีกขวาเพราะไม่มีกะโหลกซีกขวา เกิดจากการผ่าตัดสมอง บริเวณคอถูกเจาะเพื่อช่วยในการหายใจและดูดเสมหะ มือและเท้าเหยียดตรงและเกร็งตลอดเวลา บริเวณท้องถูกเจาะเพื่อให้อาหารเหลว ส่วนตาทั้งสองข้างเปิดกว้างตลอดเวลา แต่มองไม่เห็น เนื่องจากประสาทตาเสียหาย อีกทั้งไม่สามารถพูดตอบโต้ได้
น.ส.พรรณนิภา บ่ายจันทึก อายุ 33 ปี ป้าของน้องแพรว เปิดเผยว่า น้องแพรวเป็นลูกของนายภานุวัฒน์ น้องชายตน กับ น.ส.พิมพ์กานต์ เดิมทีน้องแพรวนั้นอาศัยอยู่กับครอบครัวของตนตั้งแต่เกิดที่ จ.นครสวรรค์ โดยที่พ่อและแม่ของน้องแพรวทำงานอยู่ที่ จ.ปทุมธานี กระทั่งช่วงเดือน ต.ค. 60 พ่อและแม่ของน้องแพรวได้มารับน้องแพรวไปอยู่ด้วยที่ จ.ปทุมธานี
ซึ่งระหว่างที่อยู่ด้วยกัน พ่อและแม่ของน้องแพรวน่าจะทะเลาะจากการหึงหวงกัน จนแม่มาตีน้องแพรวเพื่อประชดพ่อ ขณะนั้นบาดแผลที่รุนแรงที่สุด คือบริเวณหัวซีกขวาที่เป็นแผลเหวอะจากการถูกตีด้วยของแข็ง กระทบถึงสมองจน หมอต้องตัดเนื้อสมองออกไปครึ่งหัว โดยพักรักษาตัวในห้องไอซียูที่โรงพยาบาลใน จ.ปทุมธานี ถึง 1 เดือน และถูกย้ายมาพักที่โรงพยาบาลใน จ.นครสวรรค์ ในห้องธรรมดาอีกกว่า 3 เดือน ซึ่งในขณะนั้นแพทย์ก็บอกให้ญาติทำใจ เพราะว่าน้องแพรวอาจไม่รอดชีวิต แต่ก็เหมือนมีปาฏิหาริย์ที่ทำให้น้องแพรวรอดชีวิต แต่น้องแพรวก็ต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ร่างกายไม่สามารถตอบสนองเหมือนเด็กคนอื่น ๆ
น.ส.พรรณนิภา กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุในปี 2560 พ่อและแม่ของน้องแพรว ถูกจับในข้อหาทำร้ายร่างกายน้องแพรว และอยู่ในเรือนจำถึง 4 เดือน ซึ่งตำรวจได้ดำเนินคดีทั้งพ่อและแม่น้องแพรว เพราะฝ่ายพ่อก็เคยตีลูกด้วย โดยตอนที่ทั้งคู่อยู่ในเรือนจำก็เคยเขียนจดหมายส่งกลับมาหาน้องแพรว 2 ฉบับ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ไม่เคยติดต่อมาเลย ตนและแม่ดูแลน้องแพรวมานานกว่า 2 ปี ซึ่งแผลผ่าตัดบริเวณสมองก็เพิ่งจะหายดี แต่กลายเป็นเด็กพิการนอนติดเตียง ตามองไม่เห็น เจาะคอเพื่อช่วยหายใจ เจาะท้องเพื่อให้อาหาร แต่หูเหมือนจะยังได้ยินอยู่ เพราะเขายังตอบสนองขยับตัวนิดหน่อยเวลาเรียกชื่ออยู่ ซึ่งก็ต้องประคองอาการกันไปแบบนี้ ล่าสุดปอดก็เพิ่งติดเชื้อ
ตนต้องขายบ้านที่ จ.เชียงใหม่ และเอาเงินมารักษาน้องแพรวทั้งหมด ซึ่งตอนนี้น้องแพรวได้เงินคนพิการเดือนละ 800 บาท และได้เงินจาก อบต. เดือนละ 2,000 บาท เพียงเท่านั้น และมีรายได้จากตนและแฟนที่ช่วยกันหาเลี้ยงครอบครัวซึ่งก็ไม่พอจ่าย เนื่องจากค่าไฟบ้านเดือนละเกือบ 3,000 บาท เพราะห้องที่น้องแพรวนอนจะต้องเปิดแอร์ตลอด ถ้าปิดแอร์น้องแพรวจะมีอาการหอบทันที และต้องใช้ผ้าอ้อมเด็กเบอร์ XXL สัปดาห์ละ 2 ถุงใหญ่
น.ส.พรรณนิภา ยังบอกอีกว่า รู้สึกโกรธน้องชายและน้องสะใภ้ เพราะเขาไม่เคยมาดูแลลูก ไม่เคยส่งเงินและไม่เคยสำนึก และหลังได้ประกันตัวออกจากคุกยังมีการโพสต์ด่าตนบนเฟซบุ๊กอีกด้วย
ด้านนางสำรวย รอดเทศ อายุ 60 ปี ย่าของน้องแพรว เปิดเผยว่า ตนรักน้องแพรวมาก ๆ ถ้าตายแทนได้ตนก็อยากตายแทน อีกทั้งยังรู้สึกโกรธแค้น ไม่ให้อภัยทั้งลูกชายและลูกสะใภ้ โดยตนยังเชื่อว่าจะต้องมีปาฏิหาริย์ที่ทำให้หลานหายดี เพราะตอนถูกทำร้ายหลานมีโอกาสรอดแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็รอดมาได้ ซึ่งครั้งนี้ก็หวังแต่ไม่รู้ว่าหวังจะเป็นจริงหรือไม่
สำหรับผู้ที่ต้องการช่วยเหลือ สามารถติดต่อโทรสอบถามได้ที่ น.ส.พรรณนิภา บ่ายจันทึก ป้าของน้องแพรว โทร. 06-2261-2663 หรือบริจาคเงินช่วยเหลือค่าไฟ ค่าผ้าอ้อม ได้ที่เลขบัญชี 020267524211 ธนาคารออมสิน สาขาหนองเบน ชื่อบัญชี นางสาวพรรณนิภา บ่ายจันทึก