จากกรณีเมื่อวันที่ 28 เม.ย. 62 เวลา 18.00 น. ด.ญ.มิ้น (นามสมมติ) อายุ 11 ปี โหนเชือกพลาดจนเชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิต ที่หมู่บ้านประชานิเวศน์ 3 ซอย 8 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี
วันที่ 29 เม.ย. 62 นางศุภดี นะประสม อายุ 64 ปี ยายของผู้ตาย ได้เดินทางมาที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อรับศพ ด.ญ.ปราณี ไชยคำ ไปบำเพ็ญกุศลศพที่ อ.นาสาร จ.สุราษฏร์ธานี ซึ่งนางศุภดี ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า และขณะรับศพก็ร้องไห้ตลอดเวลา
นางศุภดี กล่าวทั้งน้ำตาว่า บ้านเกิดเหตุนั้นเป็นบ้านของหลานชาย โดยตนและหลานสาวมาขอพักอาศัย เพราะหลานต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาล ขณะเกิดเหตุตนอยู่กับหลานเพียง 2 คน โดยตนล้างจานอยู่ภายในบ้าน ส่วนหลานเล่นอยู่หลังบ้าน ซึ่งมีเพียงกำแพงกั้นไว้ ห่างกันเพียงนิดเดียว แต่ตนไม่สามารถช่วยหลานได้ทันเพราะมองไม่เห็น กระทั่งได้ยินเสียงบันไดอะลูมิเนียมล้มลง จึงได้วิ่งไปดูหลานที่หลังบ้านพบว่าหลานถูกเชือกเกี่ยวคอเสียชีวิตแล้ว ตนจึงโทรศัพท์แจ้งกู้ภัยให้เข้าช่วยเหลือ
ซึ่งเชือกที่ผูกคอ ด.ญ.มิ้นนั้น เดิมทีเป็นเชือกที่ถูกผูกเป็นห่วงเอาไว้แขวนกระสอบทรายให้เด็กซ้อมมวย แต่ได้เอากระสอบทรายออกไปแล้ว เชือกห้อยลงมาช่วงเอวเกือบถึงพื้น ส่วนบันไดอะลูมิเนียมพาดไว้กับเสาบ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากเชือกประมาณ 1 เมตร คาดว่าหลานน่าจะปีนขึ้นบันไดดังกล่าวและเกิดไถลล้มลง จนหลานต้องกระโดดลงมา ทำให้คอของหลานไปเกี่ยวกับห่วงเชือกที่ห้อยอยู่จนเสียชีวิต
ทั้งนี้ หลานเดินทางมาจากสุราษฎร์ธานี และมาพักที่บ้านหลังดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. อีกทั้งยังปีนบันไดและโหนเชือกเล่นทุกวัน แต่ก็ไม่เกิดเหตุขึ้น ซึ่งตนยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุ เพราะโดยปกติตนวางแผนจะไปหาหมอวันนี้ แล้วกลับภาคใต้ แต่หลานก็มาเสียชีวิตไปเสียก่อน
นางศุภดีกล่าวต่อว่า ตั้งแต่เกิดเรื่อง ตนก็นอนไม่หลับ เพราะคิดถึงหลานมาก ๆ ส่วนพ่อแม่ของเด็กที่อยู่ จ.สุราษฏร์ธานี ก็ไม่ได้พูดจาใด ๆ เพราะเข้าใจว่าเรื่องทั้งหมดเป็นอุบัติเหตุ