ข้อคิดจากหนังสยองขวัญหลายๆ เรื่อง มักจะให้คติเตือนใจหลายๆ อย่าง ข้อคิดหนึ่งที่หนังมักจะสอนเราเสมอๆ ก็คือการ "ไม่ไปเปิดอะไรก็ตามของคนอื่นซี้ซั้ว" ไม่ยังงั้นหายนะจะตามมา...
เงื่อนไขของผีหลายๆ แบบในหนังสยองขวัญ มักจะมาในรูปแบบที่ถูกกักขังไว้ในสิ่งของบางอย่าง และมันก็อยู่อย่างปกติทั่วไปถ้าไม่มีใครไปยุ่งกับมัน อย่างที่เห็นได้ว่าบางครอบครัวเข้าไปอาศัยในบ้านร้างได้โดยไม่เจออะไร แต่ตัวละครเอกที่เจอความสยองขวัญสั่นประสาทจะต้องไปทำอะไรบางอย่างกับสิ่งของที่อยู่ของมันดีๆ เหมือนเป็นการปลดปล่อยผีร้ายให้ออกมาสร้างความวุ่นวาย จนต้องหาทางกำจัดปิดตายไม่ให้ออกไปทำร้ายทำลายผู้อื่น
The Evil Dead เองก็เช่นกัน ที่เล่าเรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่น 5 คน ที่ขับรถท่องเที่ยวกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ เฮฮากันที่กระท่อมร้างแห่งหนึ่งในป่าลึกกลางหุบเขา แน่นอนสำหรับหนังแนวนี้คือทุกคนจะเริ่มสำรวจบ้าน จน 1 ในนั้นไปพบกับหนังสือประหลาดหน้าปกเป็นใบหน้าคนและเทปบันทึกเสียงอะไรบางอย่าง ด้วยความอยากรู้อยากเห็นพวกเขาจึง อ่านหนังสือ พร้อมเปิดเทปคาถาปลุกผีขึ้นมาอาละวาด ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของตำนานความสยอง!!
ซึ่ง The Evil Dead เวอร์ชั่นต้นฉบับปี 1981 ถือเป็นหนังขึ้นหิ้งในตำนานความสยอง ผลงานยุคแรกของผู้กำกับดัง แซม ไรมี่ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับหนังแนวนี้หลากหลายเรื่องในเวลาต่อมา ทั้งโลเคชั่นบ้านร้างกลางป่าลึก หรือแม้แต่ไอเดียในการหลอกผีตุ้งแช่ทั้งหลายก็มีส่วนเป็นผู้ขับเคลื่อนวงการหนังผีมาจนถึงปัจจุบัน เช่นเดียวกับการที่ส่งให้ตัวผู้กำกับได้มีโอกาสสร้างสรรค์ผลงานในวงการฮอลลีวูดมากมาย อาทิเช่น Spider-man เวอร์ชั่น โทบี้ แมคไกว ที่ถือเป็นหนังเปิดจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่ยุคมิลเลนเนียมเลยทีเดียว
The Evil Dead ประสบความสำเร็จมาก ถึงขนาดที่มีภาคต่อภาคแยกตามมาอีกมากมายหลายหลาก จนกระทั่งแตกไลน์เป็นหนังแอคชั่น-แฟนตาซี ที่คนไทยรู้จักกันดีในชื่อ "อภินิหารกองพันซี่โครง" Army of Darkness และจนถึงที่สุดคิดมุกใหม่ไม่ออก แซม ไรมี่ ก็เลยทำการรีเมคหนังตำนานของตัวเองด้วย Evil Dead ฉบับสยองขวัญคิดใหม่ทำใหม่ปี 2013 ซึ่งก็ยังคงคอนเซ็ปต์ความหลอนแบบดั้งเดิมจนหลายคนประทับใจ
