วันที่ 1 พ.ค. 62 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนขอความเป็นธรรมจาก น.ส.พิทยา รัศมีนา อายุ 52 ปี เจ้าของร้านของชำ หมู่ 1 ซอยสำเร็จพัฒนา 19 ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ว่า ถูกรถยนต์กระบะที่มีนายศุภชัย พิเคราะห์พิจิตร อายุ 30 ปี เป็นผู้ขับขี่ ถอยหลังรถชนและทับร่าง นางคล้าย รัศมีนา อายุ 87 ปี แม่ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส พักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.พระนั่งเกล้า เหตุเกิดเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 31 มี.ค. 62 โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน แจ้งความไว้ที่ สภ.ปลายบาง แต่ผ่านมา 1 เดือน คดียังไม่คืบหน้า
ภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกภาพรถยนต์กระบะขับเข้ามาในซอยสำเร็จพัฒนา 19 ก่อนถอยหลังเข้าซอยย่อย บริเวณบ้านที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกัน กล้องอีกมุมจับภาพยายผู้บาดเจ็บกำลังเดินกลับที่พัก จังหวะนั้น รถกระบะกำลังถอยหลังไปจุดที่ยายเดินอยู่ และชนร่างจนล้มลง แล้วล้อหลังทับร่างซ้ำ แต่กระบะยังไม่หยุดรถ ทำให้ล้อหน้าทับร่างซ้ำอีก จากนั้น น.ส.พิทยา ลูกสาว และคนบริเวณบ้านพัก วิ่งเข้าไปบอกให้รถหยุด และช่วยกันอุ้มร่างผู้บาดเจ็บขึ้นท้ายรถยนต์กระบะ นำตัวส่งโรงพยาบาล
น.ส.พิทยา รัศมีนา ลูกสาวผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ แม่ตนเดินออกจากร้าน กำลังจะกลับบ้านที่อยู่ท้ายซอยย่อย ตนกำลังขายของอยู่ที่ร้านบริเวณปากซอยที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงคนตะโกนว่ารถชนแม่จึงได้รีบวิ่งไปดู พบแม่เลือดโชกไปทั้งตัว ที่หัวเข่ามีบาดแผลฉกรรจ์ ตนทั้งตกใจ และทำอะไรไม่ถูก พี่ชายและเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงได้อุ้มแม่นำตัวส่งโรงพยาบาล จากนั้น ได้ส่งตัวไปเอ็กซเรย์ต่อทราบว่าแม่กระดูกหักหลายแห่ง หัวไหล่ทั้ง 2 ข้างหลุด กระดูกข้อมือขวาหัก กระดูกหัวเข่าขวาหัก ข้อเท้าขวาหัก มีแผลฉีกขาดที่หัวเข่า
ทั้งนี้ ช่วงที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นภาพเหตุการณ์แล้ว ตนหัวใจแทบสลาย เข้าใจว่าแม่แก่แล้ว หูไม่ได้ยินเสียงรถ แต่รถกระบะถอยหลังจนล้อหลังทับไปบนร่างแล้วน่าจะหยุด แต่กลับพบว่าล้อหน้าทับซ้ำอีก แม่บาดเจ็บสาหัสรักษาตัวมานาน 1 เดือนแล้ว คู่กรณีมาดูแค่ช่วง 2-3 วันแรก จากนั้นไม่ได้มาดูอีก ซึ่งใช้สิทธิ พ.ร.บ.รักษาไปแล้ว 30,000 บาท จากนั้นใช้สิทธิบัตรทองรักษาต่อ แพทย์ยังไม่มีกำหนดให้กลับบ้าน ทุกวันนี้นอกจากสิทธิบัตรทอง แม่ยังเป็นผู้ป่วยติดเตียง ฟื้นตัวลำบาก มีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น แพมเพริส ผ้าปูรองนอน สำลี ทิชชูเปียก ค่าเดินทางมาดูแล ประมาณเดือนละเกือบ 20,000 บาท และหลังจากออกจากโรงพยาบาล ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแลอีก ตนอยากให้คู่กรณีออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น และวอนขอความเป็นธรรมด้วย