จากกรณีสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้แชร์ประสบการณ์ หลังจากรับของแจกฟรีในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เมื่อพนักงานได้ขอให้ฟังรายละเอียด แต่ผู้โพสต์ได้บอกว่าไม่สะดวกเนื่องจากรีบ ก่อนถูกพนักงานด่าว่า ของฟรีแล้วชอบ
วันที่ 7 พ.ค. 62 น.ส.เก๋ (นามสมมติ) ผู้โพสต์ เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะกำลังเดินอยู่ในห้างแห่งหนึ่ง ย่านบางกะปิ แต่ได้โพสต์เรื่องราวลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวานนี้ โดยขณะที่ทำธุระที่ธนาคารเสร็จในวันนั้น ตัวเองก็รีบกลับเพราะเย็นมากแล้ว ปกติเวลาเดินห้างก็จะพยายามหลีกเลี่ยงบูธพวกนี้ให้ห่างที่สุด แต่วันนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ มีพนักงานคนหนึ่งได้ยื่นสบู่ให้ ตนก็รับมา แล้วพนักงานก็บอกว่าจะขอแนะนำผลิตภัณฑ์ ตนก็หันไปกล่าวขอโทษ และบอกว่าตัวเองนั้นรีบจริง ๆ จากนั้นก็เดินออกมา พอคล้อยหลังพนักงานก็พูดขึ้นว่า ทีของฟรีแล้วชอบ ยอมรับตอนนั้นตนโมโหมาก จึงหันกลับพร้อมขว้างสบู่ใส่พนักงาน แล้วบอกเขาไปว่า "พี่ไม่ได้ชอบของฟรี เป็นพนักงานจะพูดกับลูกค้าแบบนี้ไม่ได้" ตอนนั้นยอมรับว่าก็มีสบถคำไม่สุภาพออกไป ซึ่งกรณีนี้ เขายื่นให้เรา เราก็รับ ปกติคนแจกใบปลิว เช่น ตามสะพานลอย ตนก็ยังรับ เพราะคิดว่าเราสามารถช่วยอะไรเขาได้เราก็ช่วย
น.ส.เก๋ กล่าวต่อว่า หลังเกิดเรื่อง บูธสินค้าก็ไม่ได้ติดต่ออะไรมาหาตน มีแต่พี่สาวตนที่ได้โทร. ไปสอบถามห้าง แล้วห้างก็ขอรูปพนักงานที่ตนเองโพสต์ไป แล้วเขาจะดำเนินการให้ ต่อมาห้างโทร. มาและได้กล่าวคำขอโทษตนแล้ว แต่ตนคิดว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของผู้จัดการห้าง แต่ควรเป็นพนักงานหรือบริษัทที่สังกัดของพนักงานเหล่านั้น
น.ส.เก๋ กล่าวว่า ตนรู้สึกว่าคนที่ทำงานบริการควรเอาใจใส่มากกว่านี้ ไม่ใช่มีคำพูดไม่ดีให้กับลูกค้า เพราะลูกค้ามาเดินห้างความรู้สึกคืออยากสบาย อยากเดินซื้อสินค้าแบบชิล ๆ ไม่ต้องมายัดเยียดผลิตภัณฑ์หรือสินค้าให้หรอก พนักงานควรฟังว่าเขามีธุระหรือรีบอะไรหรือเปล่า ถ้าเขารีบก็ควรปล่อยเขาไป ไม่ควรพูดจาไม่ดีใส่ลูกค้า ตนรู้สึกโกรธ แต่ไม่อยากทำให้เขาเดือดร้อน หากเป็นไปได้ก็อยากให้เขาปรับปรุงตัวเองใหม่ เพราะทำหน้าที่บริการก็ต้องทำให้เขาชอบแล้วอยากกลับมาใช้บริการ อีกทั้งตัวพนักงานก็เป็นหน้าตาขององค์กรด้วย หัวหน้างานควรดูแลลูกน้อง คัดเลือกพนักงานสักนิด เพราะงานบริการนั้น ผู้ทำงานนี้ควรจะเก็บอารมณ์ด้วย
ส่วนพนักงานดังกล่าว หรือต้นสังกัดของพนักงานรายนั้นจะมาขอโทษหรือไม่ก็ได้ เพราะเรื่องผ่านไปแล้ว อารมณ์ตนก็คลายลงไปแล้ว แต่ถ้ามาขอโทษก็จะรู้สึกดีกว่านี้ ไม่ใช่หายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หากวันเกิดเหตุเขาขอโทษเรื่องก็คงจบ แต่พอหลังเขาด่าตน เขาก็เดินเข้าบูธไป แล้วยังยืนกอดอกเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไร