จากกรณีเจ้าหน้าที่พบศพนายไพวัลย์ แซ่ลี้ ได้ก่อเหตุฆ่าตัวตายด้วยการรมควันตัวเองในห้องพักย่านกิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ เมื่อช่วงต้นเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา โดยที่เกิดเหตุพบจดหมายร้องเรียนถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าได้แจ้งความร้องทุกข์กับพ.ต.ท.ประทวน แมลงทับ สว.(สอบสวน) สน.โชคชัย ไว้ในคดียักยอกรถยนต์กระบะมาสด้าที่นำไปจำนำ ซึ่งพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีมีการเรียกรับเงินค่าสืบสวนรวม 5 พันบาท เมื่อได้จ่ายเงินไปแล้วคดีก็ยังไม่คืบหน้า เลยตัดสินใจฆ่าตัวตาย ด้านพ.ต.ท.ประทวน กล่าวปฏิเสธการเรียกรับเงินตามที่ถูกกล่าวอ้าง
ล่าสุด วันที่ 7 พ.ค. 62 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่ห้องพักที่เกิดเหตุ ต.บางพลีใหญ่ จ.สมุทรปราการ นางสาวกรรณิการ์ อายุ 21 ปี เพื่อนบ้านหอพักที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตพักอาศัยอยู่ที่หอพักมาประมาณ 2 เดือนเพียงลำพัง ก่อนพบศพของนายไพวัลย์ก็ไม่มีความผิดปกติ ไม่เคยพบเห็นรถกระบะมาสด้าแต่อย่างใด โดยช่วงก่อนวันพบศพ คนในหอพักต่างได้กลิ่นเหม็นเน่าทั่วหอพัก ผู้อาศัยในหอพักจึงตัดสินใจรวมตัวกันงัดบานเกร็ดหน้าต่างห้องพักที่ปิดอยู่ออก พบศพผู้เสียชีวิต จากนั้นจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ
โดยจากการที่เจ้าของหอพักตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบผู้เสียชีวิตเดินเข้าห้องพักในวันที่ 23 เม.ย. เป็นครั้งสุดท้าย แล้วไม่พบว่าเดินออกมาจากห้องพักอีก จนกระทั่งพบศพในวันที่ 4 พ.ค. ยอมรับว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตมีอาการซึมเครียด เก็บตัวเงียบ ในขณะเดียวกันตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ผู้อาศัยในหอพักหลายราย ต่างขนย้ายสิ่งของทยอยย้ายออกจากหอพักหมดแล้ว
ขณะที่นายชัยยุทธ (สงวนนามสกุล) เพื่อนของคนตาย ซึ่งเป็นคนกลางแนะนำแหล่งจำนำรถยนต์ เปิดเผยว่า ต้นเดือนม.ค. นายไพวัลย์ขอให้ช่วยเหลือรับจำนำรถกระบะมาสด้า แต่เมื่อตนตรวจสอบพบว่ารถยนต์ไม่ใช่ชื่อของนายไพวัลย์ แต่เป็นชื่อของแม่ยาย ตนจึงไม่รับจำนำ จึงแนะนำให้ไปจำนำกับนายแดง เพื่อนในตลาดซื้อขายรถยนต์อีกราย จากนั้นนายไพวัลย์ติดต่อไปยังนายแดง แต่นายแดงไม่สะดวกรับจำนำ จึงแนะนำให้ไปจำนำกับนายวีรวัฒน์ ซึ่งเป็นคนรับจำนำรถยนต์ของผู้เสียชีวิต ในวันที่ 15 ม.ค. 61 มีการนัดรับเงิน และส่งมอบรถจำนำกัน 140,000 บาท กระทั่งเมื่อวันที่ 23 ม.ค. 61 นายไพวัลย์ไม่สามารถติดต่อไถ่คืนรถยนต์ได้ และมีการแจ้งความดำเนินคดีตามที่ปรากฎในข่าว
ความคืบหน้าทางคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย มีการดำเนินการเตรียมเรียกตัวนายชัยยุทธ และนายแดงเพื่อเข้าสอบปากคำอีกครั้ง
นางสนอง เดชะ อายุ 54 ปี แม่ยายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ยอมรับว่าลูกเขยมีกิจการขายโทรศัพท์มือมือออนไลน์กับลูกสาว ที่มีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตเป็นผู้หญิง คนเล็กเป็นผู้ชาย และเมื่อ 4 ปีก่อน ได้กลับมาบ้านเพื่อทำเรื่องซื้อรถที่จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อนำรถไปใช้ส่งของ และใช้ชื่อตนเองซื้อรถยนต์ กระทั่งวันที่ 16 ม.ค. ลูกเขยและลูกสาวนำรถไปจำนำ 1 เดือน นำเงินมาซื้อสินค้าขยายกิจการจำหน่ายโทรศัพท์ออนไลน์ โดยได้ประสานกับนายชัยยุทธ ให้เป็นคนกลางติดต่อผู้รับจำนำ คือนายวีระวัฒน์ จำนวน 140,000 บาท
จากนั้นลูกเขยถูกหวย ได้เงินมาเกือบ 200,000 บาท วันที่ 28 ม.ค. 61 ได้ติดต่อผู้รับจำนำ แต่ติดต่อไม่ได้ กระทั่งวันที่ 3 ก.พ. 61 ก็ยังไม่สามารถติดต่อรับรถคืนได้ ส่วนนายชัยยุทธก็อ้างว่าแค่แนะนำให้ และก็ไม่รู้จักกับคนรับจำนำรถมาก่อน ตนจึงเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ประทวนแมลงทับ สารวัตรสอบสวน สน.โชคชัย เพื่อติดตามหารถยนต์คืน
โดยเมื่อ 7 เดือนก่อน ก็พาภรรยาและลูกกลับมาฝากไว้ที่บ้าน สั่งว่าให้ช่วยดูแลทุกคนให้ดี แล้วโทร. มาครั้งสุดท้าย เปรยในลักษณะย้ำว่าเครียด เพราะตามรถไม่เจอ คล้ายสิ้นหวัง อาจตัดสินใจฆ่าตัวตาย ซึ่งตนคิดว่าพูดเล่น กระทั่งได้ข่าวว่าฆ่าตัวตายจริง ตนเสียใจมาก
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวถึงกรณีที่ผู้ตายเขียนจดหมายถึง เพื่อให้ช่วยทวงความเป็นธรรมเรื่องการจำนำรถว่า ส่วนตัวรู้สึกเสียใจอย่างมาก มองว่าน่าจะมีทางออกก่อนจะตัดสินใจแบบนี้ ซึ่งรัฐบาลมีคณะทำงานแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ประชาชนมาตลอด ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลแล้ว หากใครไม่ได้รับความเป็นธรรมให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมทุกจังหวัดได้ทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่มีการรายงานให้ตนเองทราบทุกสัปดาห์ และสำเร็จมากว่า 90%