รองผู้ว่าฯ ทวิดา และสำนักการระบายน้ำ แถลงอัปเดตสถานการณ์น้ำในพื้นที่ กทม. เตรียมกระสอบทราย 2 ล้านใบ อุดแนวฟันหลอครบแล้ว เตือน 4 เขตตกหนักเย็นนี้ ส่วนประเด็น WFH กทม. เพียงแต่ขอให้ยืดหยุ่น อนุญาตให้กลับเร็ว
วันนี้ (5 ต.ค) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 (ดินแดง) ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายเจษฎา จันทรประภา รองผู้อำนวยการสำนักระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร แถลงสถานการณ์น้ำ
พร้อมชี้แจงมาตรการ เวิร์คฟอร์มโฮม (WFH) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า กทม. ไม่สามารถร้องขอให้ใครเวิร์คฟรอมโฮมได้ เพียงแต่ขอความร่วมมือให้ยืดหยุ่นให้พนักงานกลับเร็ว เพราะสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) เตือนว่า น้ำเหนือจะลงมาตั้งแต่วันนี้ และสูงขึ้นในวันที่ 7-8 ต.ค.65 คาดว่าวันนี้ฝนจะตกในภาคกลางและกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สั่งให้รายงานภาพจากกล้อง CCTV เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำทั้งก่อนและหลังฝนตก พร้อมให้สำนักประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร แจ้งเตือนสภาพอากาศประชาชนให้กับประชาชนในเวลา 05.00 น. และ 15.00 น.
นายเจษฎา รายงานสถานการณ์น้ำว่า การระบายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ในอัตรา 2,697 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนสถานีบางไทร น้ำไหลผ่าน 3,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยกรมชลประทานจะเริ่มผลักดันน้ำไปทิศตะวันตกมากขึ้น ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อน 4 เขื่อนหลักยังรับได้ แต่น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เกินความจุ 106% แล้ว ซึ่งจะต้องระบายน้ำผ่านกรุงเทพมหานคร ขณะที่น้ำทะเลหนุนสูงสุดในวันนี้ เวลา 18.03 น. ฐานน้ำ +1.10 เมตร โดยเดือนนี้น้ำทะเลจะหนุนสูงสุดในวันที่ 8 ต.ค.65 ฐานน้ำ +2.20 ถึง 2.30 เมตร
สำหรับปริมาณฝนสะสมตลอดปี 2565 อยู่ที่ 1,979 มิลลิเมตร ส่วนปริมาณฝนสะสมในเดือนกันยายน อยู่ที่ 801 มิลลิเมตร ปริมาณในสะสมในเดือนตุลาคม อยู่ที่ 60 มิลลิเมตร โดยกรุงเทพมหานครเตรียมแผนรับมือน้ำเหนือและน้ำฝนไว้แล้ว จัดกระสอบทรายอุดจุดฟันหลอ 76 จุด อาทิ ท่าเรือเทเวศร์ ถนนทรงวาด ท่าราชวรดิฐ เพิ่มประสิทธิภาพ ทำแผนบังคับน้ำปรับทางน้ำไหลที่คลองบางซื่อ คลองชวดใหญ่ตัดคลองลาดพร้าว ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และบังคับน้ำปรับทิศทางน้ำไหลบริเวณคลองบางเขนตัดคลองเปรมประชากร ติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฮดรอลิกที่สถานีสูบน้ำพระโขนง เพิ่ม 5 เครื่อง พร้อมประสานงานกับกรมชลประทานต่อเนื่อง
ทั้งนี้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาที่เกิดฝนตกหนัก เนื่องมาจากมีแนวร่องอยู่กลางกรุงเทพมหานคร จึงทำให้ฝนตกหนักถึง 100 มิลลิเมตร แต่วันนี้พยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา แนวร่องนั้นหายไป เนื่องจากลมหนาวพัดลงมา หากให้คาดการณ์น่าจะเป็นบริเวณเขตด้านใต้ของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ เขตบางนา บางขุนเทียน ลาดกระบัง และประเวศ อาจมีฝนตกหนักเกิน 100 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง หรือฝนอาจตกทั่วกรุงเทพมหานคร จึงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
ส่วนกรณีที่เคยเกิดเหตุน้ำล้นเกินกระสอบทรายในพื้นที่กรุงเทพมหานครเมื่อปีที่ผ่าน นายเจษฎา ระบุว่า จากเหตุการณ์ครั้งนั้น สำนักระบายน้ำ ได้นำมาเป็นประสบการณ์ และเสริมกระสอบทรายให้หนาและแข็งแรงขึ้น ส่วนปารเสริมกระสอบทรายตามอนวแม่น้ำเจ้าพระยาจาดจุดรอยค่อจังหวัดนนทบุรีจนถึงรอยต่อจังหวัดสมุทรปราการ เสริมขึ้นไปสูงสุดจากเดิม +2.60 ม.รทก. ตลอดความยาว 3 กิโลเมตร ทั้งนี้กรุงเทพมหานครได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังในจุดวางกระสอบทรายตามริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่อาจจะมีการรั่วซึม หากน้ำทะเลหนุนสูงในบางช่วง โดยมีสถานีสูบน้ำ และเครื่องสูบน้ำตลอดแนว
ผู้สื่อข่าวถามว่า น้ำเหนือที่มีการคาดการณ์ว่าจะอยู่ในอัตรา 3,500 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาทีนั้น คงไม่น่าจะเป็นไปได้ กรมชลประทานจะเป็นผู้บริหารเบี่ยงน้ำไปทางซ้ายทางขวา ส่วนกรุงเทพมหานครได้เตรียมกระสอบทราย 2 ล้านใบ อุดแนวฟันหลอครบแล้ว ยืนยันว่า มีเพียงพอ ห่วงเพียงน้ำฝนที่จะกระทบกับประชาชน