ญาติร่วมพิธีเก็บกระดูกเหยื่อเหตุหนองบัวลำภูตั้งแต่ฟ้าไม่สาง ส่งดวงวิญญาณให้ไปเกิดเป็นนางฟ้าเทวดาอยู่สวรรค์ บรรยากาศยังเต็มไปด้วยความเศร้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากเหตุกาณ์ที่อดีตตำรวจ สภ.นาวัง ใช้อาวุธปืนและมีดทำร้ายจนทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งตัวเองและครอบครัวรวม 37 ราย หลังจากที่ได้มีการพระราชทานเพลิงศพไปเมื่อช่วงค่ำของเย็นวันที่ 11 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ในเช้าวันนี้ตั้งแต่เวลาประมาณ 05.30 น.ที่วัดศรีอุทัย บ้านท่าอุทัย ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง ซึ่งใช้วิธีการเผาด้วยเตาไฟฟ้าตลอดเวลากลางคืนที่ผ่านมา ในช่วงเช้าญาติของผู้เสียชีวิตที่ทำการเผาศพที่วัดแห่งนี้จำนวน 9 ศพ ได้มาทำการเก็บกระดูกอัฐิของผู้ตายตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยมีพระสงฆ์มานำพาในการประกอบพิธี
ส่วนที่วัดเทพมงคลพิชัยบ้านหนองด่าน ญาติได้มาทำการเก็บอัฐิซึ่งเผาโดยเชิงตะกอนชั่วคราวเผาจำนวน 3 ศพ ญาติได้มาเก็บอัฐิของผู้ตายเวลาประมาณ 08.00 น.
ส่วนที่วัดราษฎร์สามัคคี ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งเป็นวัดที่มาการทำการฌาปนกิจศพมากที่สุดของผู้เสียชีวิตจำนวน 19 ศพ ตั้งแต่ช่วงค่ำจนกระทั่งถึงเวลาประมาณ 19.00 น. ไฟที่ลุกไหม้จึงเริ่มมอดดับ ในเช้าวันนี้ญาติพี่น้องได้มารวมตัวกันตั้งแต่เวลาเดียวกัน โดยได้มีพระสงฆ์จำนวนหลายรูปนำพาญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตทำการเก็บอัฐิตั้งแต่เช้า ซึ่งเตาเผาที่นี่เป็นเมรุชั่วคราวเผาด้วยถ่าน ญาติได้ช่วยกันค้นหากระดูกเพื่อที่จะนำเอามาล้างด้วยน้ำสะอาด และจากนั้นจึงล้างด้วยน้ำอบน้ำหอมและนำเข้าในโกศเก็บกระดูก พร้อมทั้งได้มีการแต่งสำหรับกับข้าวอาหารหวานคาวใส่ถาดพาข้าวมาวางหน้าเชิงตะกอนที่เผาด้วย ส่วนถ้ำถ่านเก็บใส่หม้อดินขนาดเล็กปิดปากด้วยผ้าขาวมัดด้วยด้ายสายสิญจน์ จนกระทั่งเวลา 07.00 น.การเก็บอัฐิแล้วเสร็จ พระสงฆ์จึงนำพาขึ้นไปบนศาลาเพื่อทำการบังสุกุลพร้อมทั้งมีการใส่บาตรข้าวเหนียวถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์จตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์กรวดน้ำให้พร
จากนั้นพ่อแม่ญาติผู้เสียชีวิตได้นำเอาข้าวปลาอาหารหวานคาว ขวดนม น้ำหวาน นมเปรี้ยว ที่นำมาทำพิธีบังสุกุลไปวางตามต้นไม้ด้านล่าง จุดธูปเรียกเอิ้นด้วงวิญญาณของลูกหลานมารับเอาส่วนบุญกุศล บางคนก็บอกให้ลูกหลานชวนเอาปู่ย่าตายายที่ล่วงลับไปแล้วมากินด้วย พ่อแม่ญาติพี่น้องบอกให้ไปเกิดเป็นเทวดานางฟ้าบนสวรรค์ซึ่งก็ยังเป็นบรรยากาศที่โศดเศร้าอยู่ ต่อมาทางพระคุณเจ้าที่วัดราษฎร์สามัคคีได้แจ้งให้ญาตินำเอาเถ้าถ่านที่อยู่ในหม้อดินไปขุดหลุมฝังไว้บริเวณป่าด้านทิศตะวันออกของวัด ซึ่งได้การขุดหลุมขนาดพอฝังได้แล้วจึงนำหม้อลงฝังและยังได้ใช้ไม้เสียมสับลงไปที่ปากหม้อให้ผ้าขาวขาดออก เพื่อให้ดวงวิญญาณที่ผ่านการทำพิธีแล้วไปสู่ภพภูมิของตนเอง หลังฝังเสร็จญาติพี่น้องได้นำเอาต้นลิ้นมังกรมาปลูกไว้บริเวณที่มีหลักไปสักไว้เพื่อเป็นการบูชาหรือให้รู้ว่าลูกหลานอยู่ตรงนั้น
ทางด้านพระอนุสิทธิ์กันตวีโร พระจากวัดเทพมงคลพิชัย บ้านหนองด่าน ที่เดินทางมาร่วมทำพิธีด้วยได้กล่าวว่า การใช้เสียมหรือไม้สักไปที่ผ้าขาวนั้นเป็นการปล่อยให้ดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตไปสู่ภพภูมิของตัวเอง เป็นประเพณีแบบพื้นถิ่นของแต่ละท้องที่ซึ่งที่นี่จะทำอย่างนี้ ส่วนการปลูกต้นไม้ไว้นั้นก็ไม่ได้เตรียมไม้ใหญ่ไว้ก็ได้หาเอาเท่าที่มี จึงได้ใช้ต้นไม้ที่มีในวัดมาปลูกแทน หลังจากเสร็จพิธีฝังเถ้าถ่านแล้วพ่อแม่ญาติพี่น้องได้มีการนำเอากระดูกส่วนหนึ่งใส่ในโกศกลับไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งแต่ละคนก็จะนำไปทำตามความประสงค์ของตนเองหรือตามความพร้อมส่วนบางคนก็จะนำไปลอยอังคารที่แม่น้ำโขง