เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 65 พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ จันทรกานตานนท์ ผกก.สภ.ซับใหญ่ ได้รับรายงานจาก ร.ต.อ.อิศรา รัตนาวิวัฒน์ พนักงานสอบสวน สภ.ซับใหญ่ ว่าได้ขอศาลจังหวัดชัยภูมิออกหมายเลขที่ 202/2565 จับกุมตัว นายจักรกฤษณ์ กุลแดง อายุ 33 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ต.คลองตำรุ อ.เมือง จ.ชลบุรี ที่ก่อเหตุฆ่าคุณพ่อบุญเฮียง ขันธวุฒิ อายุ 74 ปี
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 ต.ค. 65 ได้รับแจ้งจากชาบ้านว่าพบศพพ่อเฒ่าบุญเฮียง ขันธวุฒิ อายุ 74 ปี ถูกสวมกุญแจมือ แล้วคนร้ายใช้ไม้กระหน่ำตีจนตาย เหตุเกิดบริเวณกระท่อมนาท้ายหมู่บ้านเขื่อนลั่น ต.ตะโกทอง อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ จึงรุดไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุพร้อมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ แพทย์เวรโรงพยาบาลซับใหญ่ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ชัยภูมิ
ที่เกิดเหตุภายในบริเวณกระท่อมนาพบศพ นายบุญเฮียง ขันธวุฒิ อายุ 74 ปี สภาพศพนอนคว่ำหน้า ถูกจับใส่สวมกุญแจมือไขว้หลัง นอนแก้ผ้า จากการชัยสูตรพลิกศพพบ มีบาดแผลถูกของแข็งทุบเข้าบริเวณใบหน้า ส่วนบริเวณลำตัวมีร่องรอยถูกทำร้ายจนขาดใจตาย และบริเวณพื้นดินพบกองเลือดขนาดใหญ่นองเต็มพื้นที่
ตรวจสอบเบื้องต้นพบทรัพย์สินเงินสดจำนวน 40,000 บาท ที่ผู้เสียชีวิตขายมันสำประหลังเก็บไว้ในกระเป๋าหายไป และภายในที่เกิดเหตุยังพบด้ามเสียม และเคียวเกี่ยวหญ้าเปื้อนเลือดตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ตรวจสอบพยานหลักฐาน ทราบว่าก่อนเกิดเหตุมีชาวบ้านเห็นนายจักรกฤษณ์ กุลแดง อายุ 33 ปี เป็นลูกจ้างคนงานภายในไร่ อยู่กับผู้เสียชีวิตก่อนเกิดเหตุ และได้หายตัวไปในเวลาต่อมา กล้องวงจรปิดพบว่านายจักรกฤษณ์ กุลแดง อายุ 33 ปี ได้ขับรถจยย.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีมุ่งหน้าไปตามถนนสายระหว่าง อ.ซับใหญ่-อ.บำเหน็จณรงค์ เจ้าหน้าที่กำลังนำกำลังออกปูพรหมไล่ล่า
นายทักษิณ ชินจักร อายุ 52 ปี หลานชายผู้เสียชีวิต ให้การว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายขี่รถจักรยาน ออกจากบ้านไปทำไร่ในช่วงบ่าย จนกระทั่งเย็น หลานชายไม่เห็นพ่อเฒ่าไม่กลับมาบ้าน จึงไปตามหา แล้วพบพ่อเฒ่าถูกจับใส่สวมกุญแจมือไขว้หลัง แก้ผ้า นอนคว่ำหน้าพื้นดินหน้ากระท่อมนา และมีบาดแผลถูกทุบตีด้วยของแข็งบริเวณศีรษะจนแตก ริเวณใบหน้าจนเขียวช้ำ บริเวณลำตัวมีร่องรอยถูกทำร้าย จนขาดใจตาย ภายในบริเวณที่เกิดเหตุ
ตนจึงได้วิ่งกลับไปแจ้งญาติให้โทรแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ พบว่าเงินที่พ่อเฒ่าขายมันสำประหลังมาได้จำนวน 40,000 บาท ที่เตรียมจะนำไปประกันตัวหลานชายที่ถูกจับในคดียาเสพติด ได้หายไปจนหมดกระเป๋า
เบื้องต้น พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ จันทรกานตานนท์ ผกก.สภ.ซับใหญ่ มอบหมายให้ชุดสืบสวน สภ.ซับใหญ่และตำรวจชุดสืบสวน จ.ชัยภูมิ ลงพื้นที่เร่งติดตามตัว นายจักรกฤษณ์ กุลแดง อายุ 33 ปี คนร้ายแล้ว ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังอาสากว่า 20 นาย ปิด ล้อมพื้นที่เขาใกล้ที่เกิดเหตุโดยรอบ ปูพรมค้นหาตัวคนร้ายตามรูปพรรณสัณฐาน คาดว่าจะยังอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ และคาดว่าคนร้ายยังคงอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ขอความร่วมมือประชาชนให้เป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ด้วย
ตรวจสอบเบื้องต้นของตำรวจ สภ.ซับใหญ่ ทราบว่านายจักรกฤษณ์ กุลแดง อายุ 33 ปี อดีตเคยเป็นทหารเกณฑ์ อยู่ค่ายทหารแห่งหนึ่ง และมีอาชีพรับจ้างทั่วไป พักอาศัยในละแวกที่เกิดเหตุ ตรวจสอบที่ห้องพักไม่พบตัว ชาวบ้านบอกว่าที่ผ่านมานายจักรกฤษณ์ กุลแดงมีนิสัยลักเล็กขโมยน้อยในชุมชนบ่อยครั้ง
นายธนพล จันณรงค์ อายุ 30 ปี ชาวบ้านที่พาคนก่อเหตุเข้ามาในหมู่บ้าน เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 10 วันก่อน ตนเองเดินทางจะกลับบ้าน ระหว่างทางฝนตกหนักจึงหลบพักฝนที่ศาลาริมทาง บริเวณบ้านทุ่งเสนียนตา และได้พบเจอกับนายจักรกฤษณ์ ผู้ก่อเหตุ จากนั้นผู้ก่อเหตุจึงขอติดตามมา เพื่อหวังจะทำงานด้วย
ตนจึงพามาทำงานกับเถ้าแก่เป็นฟาร์มเลี้ยงวัวอยู่ได้สักประมาณ 1 อาทิตย์ สักพักงานหมด จึงได้พามาหางานรับจ้างในหมู่บ้าน และมาทำงานที่บ้านตาบุญเฮียง ผู้เสียชีวิต ได้สักประมาณ 10 วัน ก่อนมาก่อเหตุฆ่าอย่างอนาถอยู่กลางกระท่อมนา ก่อนจะชิงเงินสด 40,000 บาท หลบหนีไป
นายระเริง ขันทวุฒิ อายุ 76 ปี พี่ชายของผู้เสียชีวิต เปิดใจว่า ตนเคยเตือนน้องให้ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านไว้ว่ามีคนแปลกหน้ามาอยู่ด้วย แต่ก็ไม่คิดจะมาเกิดเหตุเช่นนี้
นอกจากนี้ ชาวบ้านในพื้นที่ยังให้ข้อมูลว่าหลังก่อเหตุยังได้กลับมาเก็บของที่บ้านแบบใจเย็น ก่อนจะบอกคนที่บ้านว่าจะออกไปข้างนอก แต่ไม่ได้บอกว่าจะไปไหน จนกระทั่งมาทราบข่าวว่าตาบุญเฮียงถูกนายจักรกฤษณ์ฆ่าตาย อยากให้ตำรวจจับตัวให้ได้โดยเร็ว กลัวว่าจะเป็นฆาตกรต่อเนื่อง