หมอเตือนนักวิ่ง และคนออกกำลังกาย ระวังโรควูบอันตรายถึงชีวิต แนะหากมีอาการควรไปพบแพทย์เพราะอาจเจอโรคซ่อนอยู่
จากกรณีที่นักวิ่งหนุ่มรายหนึ่ง เกิดอาการวูบหมดสติขณะซ้อมวิ่ง แต่มีคนช่วยปฐมพยาบาลจนฟื้นขึ้นมา ต่อมา 3 วัน เขาเกิดอาการวูบอีกครั้ง ก่อนที่จะเสียชีวิตลง จนกลายเป็นประเด็นให้โลกออนไลน์ได้ศึกษาเป็นบทเรียนนั้น
ล่าสุด นพ.อกนิษฐ์ ศรีสุขวัฒนา หรือหมอแอร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Akanis Srisukwattana เตือนนักวิ่ง และคนออกกำลังกาย ระวังโรควูบอันตรายถึงชีวิต โดยระบุว่า
โรควูบ อันตรายถึงชีวิต ฝากถึงนักกีฬา และ บุคคลทั่วไปที่ออกกำลังกายครับ อาการวูบขณะออกกำลังกายให้ถือว่าเป็นความผิดปกติ ที่อาจทำให้เสียชีวิตได้ การวูบเป็นลม ส่วนใหญ่จะมาจากการออกกำลังกายที่หนักเกินไป นานไป แต่ส่วนน้อยมาจากการมีโรคซ่อนโดยเฉพาะโรคหัวใจและโรคสมอง ที่อันตรายมากๆ
ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่วูบ หรือจะวูบ (วูบหมายถึง หมดสติ จอดับ ไม่รู้ตัวนะครับ อาการ หน้ามืดเวลาเปลี่ยนท่า ไม่นับเป็นวูบ) ต้องพบแพทย์ ยิ่งเร็วยิ่งดี ตรวจให้แน่ใจ ว่าไม่มีโรคอันตรายซ่อนอยู่ก่อนที่จะออกกำลังครั้งต่อไป
เราไม่สามารถแยกเองได้ 100% ว่าวูบจากออกกำลังหนัก หรือวูบจากมีโรคซ่อนครับ การวูบ หน้ามืด เจ็บหน้าอก ขณะแข่ง ไม่มีการนั่งพักให้หายแล้วไปต่อ การแข่ง คุณในวันนั้นจบลงแล้ว และต้องบอกเพื่อนนักวิ่ง บอกเจ้าหน้าที่สนาม เพื่อไป รพ. ตรวจรักษาหาสาเหตุนะครับ เพราะโรคบางอย่างอาจเป็นโรคที่ต้องรักษาเร่งด่วน
วูบ ต้องตรวจให้แน่นอน ว่าไม่มีอะไรซ่อน ยิ่งตรวจเร็วยิ่งดี ถ้ายังไม่ตรวจ อย่าพึ่งไปออกกำลังครับ เพราะอาจอันตรายถึงชีวิตได้ถ้ามีโรคซ่อน
เพื่อความเข้าใจการออก zone สูงๆ ไม่เกี่ยวกับการเสียชีวิตโดยตรงนะครับ ถ้าคนนั้นไม่มีโรคซ่อนอยู่ ออก zone สูงก็ แค่เหนื่อย ล้า เมื่อยกล้ามเนื้อ แต่ไม่ทำให้เสียชีวิต กลับกันการใช้ชีวิตประจำวัน หรือแม้ออกกำลังไม่หนักมาก มีโอกาสเสียชีวิตได้ครับถ้ามีโรคซ่อนครับ
สำคัญคือต้องคัดกรอง ว่าเรามีโรคซ่อนที่เราไม่รู้ตัวไหมและควรทำโดยรีบด่วน ถ้ามีอาการเตือนเหล่านี้ เจ็บหน้าอก ใจสั่น หน้ามืดเป็นลมครับ ขอแสดงความเสียใจกับนักวิ่งและญาติน้องที่เสียชีวิตด้วยครับ"