จากกรณี “หมอสอง นพรัตน์ รัตนวราห” ศัลยแพทย์ชื่อดังของเมืองไทย อดีตสามีของสาวแซ่บ “หญิงแย้ นนทพร” หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ติดต่อไม่ได้นานร่วมเดือน คนใกล้ชิดไลน์ไปหาก็ไม่มีการตอบกลับมา ในขณะที่เจ้าตัวเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศอัฟกานิสถาน โดยโพสต์รูปสุดท้ายเมื่อสุดท้ายวันที่ 28 ก.ย. 65 เป็นร้านอาหารไก่ย่าง ที่เมือง Bobo-Dioulasso ประเทศ Burkina Faso ก่อนจะหายตัว ภายหลังมีข่าวว่าโดนลักพาตัวเรียกค่าไถ่ จนสามารถช่วยเหลือได้แล้วนั้น
วันที่ 25 ต.ค. 65 เช้าวันนี้หมอสองเดินทางถึงประเทศไทยแล้วจากอบูดาบี เมืองหลวงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิในเวลา 07.36 น. จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรอรับตั้งแต่ลงเครื่อง
หมอสอง ใส่เสื้อสีฟ้า ด้านหลังเขียนว่า "หมอสองท่องโลก" สวมกางเกงขายาว มีหนวดเครา ก่อนจะมีการตรวจร่างกายตามกฎระเบียบของสนามบิน และเดินออกมาทางประตู 9 โดยไม่มีญาติและคนสนิทมารอรับ มีเพียงรถตำรวจท่องเที่ยวและรถส่วนตัวรอรับในเวลา 08.34 น.
ในระหว่างที่เดินทางขึ้นรถ หมอสองมีสีหน้าท่าทางนิ่งเฉย เดินก้มหน้า และไม่ได้ให้ข้อมูลใด ๆ ก่อนจะเดินขึ้นรถไป ทั้งนี้ หมอสองจะเดินทางไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะเดินทางต่อไปตรวจร่างกายและสุขภาพจิต
เวลาประมาณ 09.00 น. ตำรวจพาหมอสองเดินทางไปยังพักที่โรงแรม มีแม่หมอสอง ญาติและเพื่อนร่วมงานมารอรับพร้อมฟุบลงกับพื้นก่อนจะกอดคอกันร้องไห้
นายวรรณสิงห์ ประเสริฐกุล หรือ สิงห์ นักผลิตสารคดีชื่อดัง ซึ่งเคยเดินทางไปทำสารคดีในพื้นที่สงครามหลายประเทศ เปิดเผยว่า ตนเคยไปทำสารคดีในพื้นที่อันตรายหลายประเทศ รวมทั้งพื้นที่สงครามที่มีกลุ่มติดอาวุธด้วย ซึ่งจากกรณีที่หมอสองถูกลักพาตัวในประเทศมาลีนั้น เราก็ไม่สามารถเหมารวมได้ว่าทุกประเทศที่เป็นพื้นที่สงครามจะมีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไร เพราะความเสี่ยงก็จะต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ อย่างเช่นบางประเทศที่มีสงครามก็จะมีความเสี่ยงแบบหนึ่ง แต่บางประเทศอาจจะไม่มีสงครามแต่มีกลุ่มผู้ก่อการร้ายติดอาวุธก็จะมีความเสี่ยงอีกแบบหนึ่ง หรือบางประเทศอาจจะไม่มีความขัดแย้งเรื่องการเมือง แต่อาจจะมีสภาพอากาศและภูมิประเทศที่อันตรายก็จะมีความเสี่ยงอีกแบบหนึ่ง
แต่ไม่ว่าจะเดินทางไปในพื้นที่ ๆ เสี่ยงแบบไหน สิ่งที่ควรทำคือการค้นคว้าข้อมูลที่ค่อนข้างนาน รวมถึงคอนแทคกับคนท้องถิ่นก็เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องประสานไว้ ซึ่งโดยส่วนมากที่ตนเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง จะเป็นการเดินทางไปเพื่อทำงานอยู่เสมอ ไม่ใช่การท่องเที่ยว ดังนั้นก็จะมีการประสานไกด์ท้องถิ่นไว้ก่อน เป็นไกด์ที่เชี่ยวชาญในการทำงานกับสื่อโดยเฉพาะเรียกว่า ฟิกเซอร์ (Fixer) ซึ่งทำหน้าที่เป็นประสานงานให้กองถ่าย โดยฟิกเซอร์จะรู้ว่าจะต้องประสานคนแบบไหน และรู้ทางหนีทีไล่ในพื้นที่อย่างดี เพราะถึงแม้ว่าเราจะเดินทางไปคนเดียว แต่เมื่อไปอยู่ในพื้นที่แล้วเราจะมีฟิกเซอร์อยู่ด้วยเสมอ
อีกสิ่งสำคัญสำหรับการไปอยู่ในพื้นที่สงครามหรือพื้นที่เสี่ยงคือการอัปเดตสถานการณ์อยู่เสมอ บางประเทศก็จะมีตำรวจคอยอัปเดตสถานการณ์ให้ แต่บางประเทศอาจจะต้องจ้างเพื่อให้เขาคอยอัปเดตสถานการณ์ให้เราปลอดภัยที่สุด ซึ่งตนเคยไปทำสารคดีในประเทศอัฟกานิสถาน ก็ต้องประสาน UN เพื่อความปลอดภัย และยังเคยข้ามประเทศตุรกีเข้าไปในประเทศซีเรีย ก็ถึงขั้นต้องประสานทางกองทัพของประเทศตุรกีในการพาเดินทางข้ามประเทศเข้าไป แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ข้ามเข้าไปเพราะเจ้าหน้าที่ประเมินสถานการณ์สงครามว่าไม่สามาถเข้าไปได้ ซึ่งข้อสรุปก็คือ ไม่ว่าจะไปประเทศไหนก็ควรที่จะหาข้อมูลไปก่อนจะเดินทางไป และต้องมีความพร้อมในการปรับแผน อัปเดตสถานการณ์ความปลอดภัยอยู่เสมอ
ในกรณีของหมอสองที่ถูกไกด์เถื่อนหลอกไปให้กลุ่มติดอาวุธลักพาตัวเรียกค่าไถ่นั้น ก็มีความเป็นไปได้ถ้าหากไม่มีการประสานหาไกด์ไปก่อนและไปหาเอาเองในพื้นที่ ซึ่งตนก็เคยไปหาไกด์เอาหน้างานในพื้นที่แอฟฟริกาใต้ แต่โชคดีที่ไม่เคยเจอเรื่องราวแบบหมอสอง
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ไม่เคยเจอประสบการณ์อย่างหมอสอง ก็คงไม่คิดว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงอย่างเช่นกันถูกลักพาตัว แต่ยอมรับว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ที่ไกด์เถื่อนจะไปร่วมกับกลุ่มติดอาวุธและจะลักพาตัว