จากกรณี นายมาวิน อายุ 18 ปี นักท่องเที่ยวชาว กทม. นั่งซ้อนท้ายเจ็ตสกีเล่นน้ำกลางอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์กับเพื่อน ในท้องที่หมู่ 5 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี โดยมี นายวาริน (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี เป็นคนขับ
ขณะกลับหัวเจ็ตสกีนายมาวินที่นั่งซ้อนท้ายเกิดพลาดพลัดตกแล้วจมสูญหายไปใต้ท้องน้ำ เหตุเกิดช่วงเวลา 15.00 น. ของวันที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ค้นหาทั้งบนผิวน้ำและใต้ท้องน้ำมาแล้ว 6 วัน แต่ก็ยังไม่พบร่าง
ล่าสุดวันที่ 29 ต.ค. 65 เวลาประมาณ 15.00 น. น.ส.เกศรา เเละญาติ ๆ พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยเเละทีมข่าว ได้ลงเรือไปยังจุดที่ เจ้าหน้าที่มีการทำพิกัดไว้ซึ่งคาดว่าเป็นจุดที่น้องมาวินตกน้ำและจมน้ำลงไป ณ บริเวณนั้น ซึ่งมีความลึกประมาณ 52 เมตร โดยเมื่อไปถึงจุดพิกัดบริเวณที่คาดว่าน้องมาวินจะจมน้ำ ทางคุณเเม่เเละกู้ภัยก็ได้มีการจุดธูป 16 ดอก เเละพูดขอขมาเจ้าที่เจ้าทาง “ขอเจ้าที่เจ้าทางช่วยเปิดทางให้ นายมาวิน (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี สวมเสื้อสีเขียว ซึ่งเป็นบุตรของลูก ตอนนี้เค้าจมน้ำอยู่ด้านล่าง ขอให้พวกท่านเห็นในความทุกข์ใจของหนู สงสารในความเป็นเเม่ของหนู ช่วยนำร่างลูกของหนูขึ้นสู่ผิวน้ำ ภายในวันนี้ด้วยเถิด หากพบร่างของน้องเเล้ว หนูจะกลับมาทำพิธี ขอขมากรรมเเทนลูกให้ครบตามจำนวนที่ท่านต้องการ”
หลังจากทำพิธีเสร็จสิ้นเเล้ว คุณเเม่ก็ได้มีการ วางธูป 16 ดอก ลงพบพานขันธ์ 5 ก่อนจะวางพานลงในน้ำ ก่อนจะบอกว่า “มาวิน ขึ้นมาเถอะลูก กลับบ้านกับเเม่นะ”
ทีมข่าวได้พูดคุยกับเเม่เกศรา เฟื่องฟู อายุ 37 ปี เเม่ของน้องมาวิน โดยคุณเเม่เปิดใจกับทีมข่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุลูกชายได้มาเที่ยวกับเพื่อน ๆ เเละกำลังจะกลับเเล้ว เเต่ลูกอยากเล่นน้ำจึงกระโดดลงเจ็ตสกีไป โดยลูกชายไม่สวมเสื้อชูชีพเเละว่ายน้ำไม่เป็น ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นอย่างกระทันหัน น้องตกน้ำก่อนจะจมลงไปตั้งเเต่วันที่ 24 ต.ค. 65 เวลาประมาณ 15.00 น. จนถึงวันที่ 29 ต.ค.65 เวลา 15.00 น. ก็ยังไม่พบลูกชาย
วันนี้เข้าวันที่ 6 ที่ลูกชายจมน้ำเเล้ว ตนเองก็ยังคงมีความหวังว่าจะเจอลูกชาย โดยตั้งเเต่ช่วงเช้าตนเเละทีมกู้ภัย ก็ได้ลงเรือตระเวนตามหาลูกชาย และไปพูดคุยกับชาวบ้านที่อยู่ริมเขื่อนเผื่อจะพบลูกชาย ก่อนที่ช่วงบ่ายที่ผ่านมาตนจะได้ไปเตรียมอุปกรณ์เพื่อที่จะไหว้ขอขมาเจ้าที่เจ้าทาง โดยตนได้ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเปิดทางขอให้เห็นใจตน ขอให้คืนลูกชายกลับมาหาตนด้วย เพราะตอนนี้ก็หลายวันมากเเล้ว โดยส่วนตัวแล้วตนเองก็มีความเชื่อเรื่องเจ้าที่เจ้าทางมีการบังตาไม่ให้ตนหาลูกชายพบ
น.ส.เกศรา เปิดเผยอีกว่า ปกติเเล้วนิสัยใจคอของลูชายจะเป็นเด็กร่าเริง เเละซุกซนตามประสาวัยรุ่น ตนเองไม่เคยคาดหวังอะไรกับลูกเลย ตั้งเเต่เล็กจนโต ลูกอยากทำอะไรก็ตามใจเสมอ อะไรที่เป็นความสุขของเขาตนก็ยินดี ตนอยากให้ลูกได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นให้เต็มที่ ตนอยากจะบอกกับลูกชายว่า “ให้รีบกลับมาได้เเล้ว มาวินจะได้ไปอยู่กับเเม่ตลอดไป เพราะที่ผ่านมา ตนรู้สึกผิดที่ไม่ได้ดูแลลูกอย่างเต็มที่ แต่ในวันนี้ที่น้องหายตัวไปตนและเพื่อนเพื่อนของลูกทุกคนได้ทำอย่างสุดความสามารถแล้ว” วันนี้ตนก็หวังว่าจะเจอลูกชาย เพราะตอนนี้ตนเองเเทบจะกินไม่ได้ นอนไม่หลับ พอหลับก็ฝันถึงลูกชายทุกคืน เพราะจิตตนคิดถึงลูกมาก ฝันว่าลูกชายยังอยู่ ยังไม่เสียชีวิต
ตนอยากขอขอบคุณเจ้าหน้าที่กู้ภัย ทุกหน่วยงานที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือออกดำน้ำและตระเวนตามหาลูกชาย ทั้งอาสาเเละทุกคนที่ทักตนมา ทั้งที่ได้ตอบเเละไม่ได้ตอบขอบคุณมาก ๆ จากหัวใจ เพราะช่วยเหลือแบบเต็มที่มากทั้งดำน้ำหา และบินโดรนช่วนค้นหา