จากกรณีเกิดเหตุอุกอาจ ชายวัย 29 ปี ไปก่อเหตุใช้มีดปลายแหลม เข้าไปแทงสาวที่กำลังรอผ้าซักภายในร้านสะดวกซัก โดยคนก่อเหตุได้จ้วงแทงบริเวณหลังบริเวณท้ายทอย ลำคอ จนบาดเจ็บสาหัส
จากนั้นขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปโดยนำมีดไปทิ้งถังขยะ และเข้าบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า จนตำรวจแกะรอยตามคนก่อเหตุได้ทัน
ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านนวดแห่งหนึ่ง ที่อยู่ตรงข้ามกับร้านซักผ้าที่เกิดเหตุปรากฏว่าภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านนวดส่องไปเห็น วงจรปิดตัวแรก ช่วงเวลา 16:30 น. หลังจากคนก่อเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์มาถึงได้เข้าไปเดินวนอยู่ในร้านซักผ้าพักใหญ่ และได้มายืนบริเวณหน้าร้านซักผ้าหันหน้ามองมาทางถนนอยู่นาน
จากนั้นเวลา 16.33 น. สังเกตเห็นชายคนก่อเหตุ เดินเข้าไปหาคู่บาดเจ็บที่นั่งอยู่ด้านในช่วงเวลานั้นจะเห็นคนก่อเหตุกับผู้บาดเจ็บเริ่มฉุดกระชากกันจนช่วงเวลา 16.34 น. ผู้บาดเจ็บล้มลงจากเก้าอี้ โดยเห็นว่าผู้บาดเจ็บสวมเสื้อสีขาวคนก่อเหตุสวมเสื้อสีดำวินาทีนี้จะเห็นว่าคนก่อเหตุดึงแขนผู้บาดเจ็บคล้ายฉุดกระชากและใช้มีดจ้วงแทง แต่ผู้บาดเจ็บดิ้นหนีคนก่อเหตุก็วิ่งหนีไปที่รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่บริเวณทางฝั่งขวามือของกล้อง แล้วคนก่อเหตุก็ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปตามถนน
หลังจากที่คนร้ายวิ่งหลบหนีไปแล้วทีมข่าวยังได้ภาพจากกล้องวงจรปิดช่วงที่ผู้บาดเจ็บ วิ่งร้องขอให้คนช่วย โดยจะเห็นว่าช่วงเวลา 16.35 น. มีชาวบ้านเปิดประตูออกมาดู ภาพนี้ก็เห็นคนเจ็บเดินกลับมาที่ร้านซักผ้าเลือดเลอะที่บริเวณเสื้อโดยมีผ้าพันที่คออยู่ จากนั้นชาวบ้านก็ช่วยกันวิ่งหาชุดปฐมพยาบาลหรือนำผ้ามาซับเลือดกันอย่างชุลมุน โดยจะเห็นว่าคนบาดเจ็บยังยืนได้เดินได้พูดคุยได้มีสติแต่ว่าที่บริเวณเสื้อเปื้อนเลือดเต็มไปหมด ชาวบ้านทยอยกันเดินเข้ามาดูและช่วยนำผ้าก็อตมาพันบาดแผลให้ ระหว่างรอรถเจ้าหน้าที่
วงจรปิดอีกตัวเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุ 500 เมตร ช่วงเวลา 16.34 น. กล้องวงจรปิดนี้ จับภาพชายคนก่อเหตุสวมเสื้อสีดำขับขี่รถจักรยานยนต์สีน้ำเงิน ผ่านร้านอาหารอย่างปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยชายคนดังกล่าวไม่ได้สวมหมวกกันน็อค โดยทราบภายหลังว่าเส้นทางนี้คือมุ่งหน้ากลับบ้านของคนก่อเหตุใกล้กับสนามฟุตบอลองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตั วนายณฐกร ธราวุธ อายุ 29 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุ ได้ที่ริมถนนซอยนารถมนตเสวี6 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านพักของคนร้ายพร้อมของกลาง ชุดที่ก่อเหตุที่นำไปซุกไว้ในยังบ้านที่อยู่จากจุดที่เกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร พบของกลางมีดปลายแหลมทำครัวที่ใช้ก่อเหตุชุดเสื้อผ้าที่สวมใส่ขณะก่อเหตุ
ล่าสุดวันที่ 29 ต.ค. 65 ทีมข่าวเดินทางมายังสถานีตำรวจภูธรเสม็ด ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ตำรวจยังสอบปากคำผู้ก่อเหตุ นายณฐกร ธราวุธ หรือ ปาล์ม อายุ 29 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุใช้อาวุธมีดบุกแทง น.ส.ชลธิชา มานิพาน อายุ 34 ปี ภายในร้านสะดวกซัก โดยพฤติการของนายปาล์มวันนี้ สวมเสื้อสีขาวกางเกงลายดอกไม้ ขณะนั่งให้สัมภาษณ์มีพฤติการนิ่งเฉย ตอบคำถามเจ้าหน้าที่ตามปกติ
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนำตัวนายปาล์ม ไปส่งศาลจังหวัดชลบุรี ทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยสอบถามนายปาล์มถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายปาล์มบอกกับทีมข่าวว่า ตอนนี้อาการเครียดเนื่องจากธุรกิจถูกโกง และตนไม่รู้จักผู้บาดเจ็บ ขณะที่ไปดูเครื่องซักผ้าก็พกมีดไปด้วย เป็นมีดทำครัวนำมาจากที่บ้าน พอไปถึงที่ร้านซักผ้าก็เห็นว่าหญิงสาวคนนี้มีใบหน้าตาเศร้าหมอง จึงเข้าไปสอบถามว่า กุญแจรถอยู่ไหน มีเงินไหม แล้วถามว่าไปงานกุศลกันไหม แต่หญิงสาวไม่ยินยอมบอกว่าจะไปsex
ทีมข่าวจึงสอบถามต่ออีกว่าไปsex คืออะไร ปรากฏว่านายปาล์มบอกว่ามีเพศสัมพันธ์ หลังจากนั้นจึงนำมีดออกมาแทนหญิงสาว ซึ่งตอนนั้นตนก็ไม่รู้ตัวแค่แวบเดียว ในปาล์มยังบอกอีกว่าจริง ๆ ตนจะช่วยเหลือผู้หญิงคนนั้นด้วย แต่เขาวิ่งหลบหนีจึงช่วยไม่ทัน
ตนจึงขับขี่รถจักยานยนต์กลับบ้าน ตอนนี้รู้สึกเสียใจ
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายเนตร (นามสมมติ) พ่อของผู้ก่อเหตุ บอกกับทีมข่าวว่าลูกชายตนเพิ่งลาสิกขาจากการบวชมาถึง 8 พรรษาและออกมาอยู่บ้านได้เพียง 3 เดือน ที่ต้องให้ลาสิกขานั้น เพราะว่าลูกชายไม่ปกติหลังจากที่บวชและธุดงค์ในถ้ำทั้งภาคอีสานและภาคตะวันออกลูกชายชอบเข้าถ้ำ พอเห็นว่าลูกชายไม่ปกติไม่พูดไม่คุยเหม่อลอยจึงให้ลาสิกขากลับมาอยู่ที่บ้านที่ จ.ชลบุรี แล้วพาไปพบจิตแพทย์ปรากฏว่าจิตแพทย์บอกว่าลูกชายป่วยเป็นโรคจิตเภท แต่จากการตรวจแล้วไม่ให้ความร่วมมือในการรักษาจึงได้ให้ยามากินก่อนหลัง
จากนั้นพ่อก็ได้พาลูกชายกลับมาที่บ้านแล้วบังคับให้กินยา แต่ปรากฏว่าลูกชายไม่ยอมกินปฏิเสธการกินยามาตลอดแล้วก็ใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้าน ช่วยพ่อทำงานแต่พอสั่งอะไรไปสักพักนึงก็หันมาถามอีกว่าพ่อสั่งว่าอะไรนะ อยู่ที่บ้านก็จะมีอาการเหม่อลอยยืนหน้าบ้านคนเดียวได้ครึ่งชั่วโมง นอนไม่หลับ 3 คืนติดกัน แต่ไม่เคยทำร้ายร่างกายคนในบ้านและคนอื่น ๆ ปกติจะขอเงินพ่อ 100-200 บาท ไปซื้อขนมกินที่เซเว่นเขาขับขี่รถจักรยานยนต์ไปเซเว่นแทบทุกวัน และยืนยันว่าลูกชายไม่เคยเสพยาเสพติดไม่ได้เล่นเกม เพราะเขาไม่เคยเล่นโทรศัพท์มือถือไม่เคยดูทีวีและไม่เคยฟังเพลงเลยเชื่อว่าลูกชายป่วยเป็นโรคจิตเภทอย่างหนักตอนนี้สิ่งที่กังวลที่สุดกลัวว่าเมื่อเข้าไปอยู่ในเรือนจำแล้วจะก่อเหตุร้ายแรงกว่านี้
นอกจากนี้พ่อของผู้ก่อเหตุยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ก่อนหน้านี้ที่เห็นว่าลูกไม่ปกติได้นำดวงชะตาของลูกชายไปให้พระและหมอดูดูดวงปรากฏว่า ทั้งพระและหมอดูบอกว่าลูกชายถูกผีสิงร่างอยู่ 4 ตน เป็นสิ่งที่ไม่ดีอยู่ในร่างจนลูกชายแทบจะไม่ใช่คนแล้ว แต่เรื่องนี้พ่อก็ยืนยันว่าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่สิ่งที่พ่อเสียใจคือยังไม่ได้พาลูกไปแก้ไสยศาสตร์ที่บอก แล้วมาเกิดเหตุเสียก่อน ตอนนี้เท่าที่สอบถามเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่สามารถประกันตัวลูกชายได้ เนื่องจากกลัวว่าจะหลบหนีจะต้องหาทนายความมายื่นเรื่องอุทธรณ์ต่อศาลขอปล่อยตัวชั่วคราว พ่อขอแค่ว่าปล่อยตัวลูกชายมา 2-3 วัน พ่อจะรีบพาไปหาพระเพื่อทำพิธี หลังจากนั้นจะติดคุกกี่ปีพ่อก็ไม่ว่าแต่อยากให้เขาหายเป็นปกติและไม่ไปก่อเหตุอีก
