คณะกรรมการคุ้มครองเด็ก มีมติไม่ต่ออายุมูลนิธิคุ้มครองเด็กของ ครูยุ่น หลังพัวพันคดี

คณะกรรมการคุ้มครองเด็ก มีมติไม่ต่ออายุมูลนิธิคุ้มครองเด็กของ ครูยุ่น หลังเจอแจ้ง 2 ข้อหาหนัก "บิ๊กโจ๊ก" ลงพื้นที่เร่งรวบรวมหลักฐานว่าความผิดเหล่านี้จะเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่

คณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัดสมุทรสงคราม มีมติไม่ต่ออายุมูลนิธิคุ้มครองเด็กของนายมนตรี สินทวิชัย หรือ ครูยุ่น อดีต ส.ว.สมุทรสงคราม เนื่องจากใบอนุญาตดำเนินการจะหมดอายุในเดือน ม.ค.2566 หลังจากนี้ต้องปล่อยให้สิ้นสภาพการเป็นสถานสงเคราะห์ที่ได้รับอนุญาต ส่วนการพิจารณาต่ออายุใหม่ก็ต้องนับหนึ่งเริ่มต้นใหม่ ต้องยื่นขอต่อใบอนุญาตใหม่ เป็นอำนาจของคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัดจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาทั้งด้านกาย จิตสังคม เช่น ด้านสุขอนามัยสาธารณสุข ด้านสถานที่สิ่งแวดล้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ด้านการศึกษาและพัฒนาการเด็ก รวมถึงมีสหวิชาชีพเข้าไปร่วมพิจารณา ก่อนจะเสนอขออนุญาตต่อผู้ว่าราชการจังหวัด

ขณะเดียวกันเมื่อเวลา 21.20 น. วานนี้ ( 3 พ.ย.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์จากกองบินตำรวจ (ท่าแร้ง) มายังสนามกีฬา อบจ.สมุทรสงคราม และเดินทางต่อด้วยรถตู้กรมตำรวจต่อมายัง สภ.อัมพวา เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีมีผู้ร้องเรียนเรื่องการทำร้ายเด็กภายในมูลนิธิคุ้มครองเด็ก ต.สวนหลวง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม โดยมี นายกรกฎ วงษ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ต.สุเมธ ปุณสีห์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมฟังการบรรยายสรุปผลการดำเนินการสืบสวนสอบสวน กรณีการทำร้ายเด็กดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้มอบหมายงานให้แต่ละหน่วยงานรับผิดชอบ เช่นการรวบรวมพยานหลักฐาน การรวมรวมกล้องวงจรปิด การสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้อง และการรวมรวมพยานบุคคล เป็นต้น และยังกำชับเร่งรัดให้รีบทำงานให้เร็วที่สุด เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการประชุม

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการร้องเรียนจึงได้ตั้งหลักสอบสวนจากคลิปวิดีโอ โดย ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ตนในฐานะที่กำกับดูแลศูนย์การค้ามนุษย์ จึงลงมาสอบสวนเรื่องนี้ โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม ผู้กำกับ สภ.อัมพวา ก็ลงมาดูแลคดีนี้อย่างเต็มที่ เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ในส่วนของพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา นายมนตรี สินทวิชัย หรือ ครูยุ่น อดีต ส.ว.สมุทรสงคราม และเลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก ผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งสถานสงเคราะห์เด็กเอกชน “บ้านคุ้มครองเด็ก 3 ” (บ้านริมน้ำ) ใน 2 ข้อหา คือ ข้อหาทำร้ายร่างกายเด็ก และข้อหาใช้แรงงานเด็ก เนื่องจากกฎหมายกำหนดว่าเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปี จะนำมาใช้แรงงานไม่ได้ ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ส่วนเด็กที่อายุ 15 ปีขึ้นไป ถ้าจะใช้แรงงานก็ต้องแจ้งหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานในจังหวัด สิ่งสำคัญคือการทำความจริงให้ปรากฏ ซึ่งตำรวจจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย

วันนี้ตนมาตามเรื่องพยานหลักฐานต่างๆ ว่าความผิดเหล่านี้จะเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่ ในส่วนโรงแรมของหญิงคนสนิท มีความเกี่ยวข้องและมีความผิดหรือไม่ ดังนั้นจึงเป็นเพียงเริ่มต้น ตนจึงลงพื้นที่มาตรวจสอบรายละเอียดในสำนวนสอบสวน ซึ่งจะพยายามเร่งรัดให้คดีจบให้เร็วที่สุดขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เดินทางมาถึงได้มีผู้ปกครองมาตามหาเด็กเพื่อจะขอนำกลับไปดูแล แต่หาเด็กไม่เจอไม่รู้ว่าหน่วยงานไหนพาเด็กไปและอยู่ที่ไหน มีความกังวล มาขอให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ติดตามเด็กกลับคืนสู่อ้อมอกของผู้ปกครองด้วย