กรณีเพจ “สายไหมต้องรอด” ได้มีการช่วยเหลือเด็กอายุ 16 ปี ทราบชื่อคือนายเน็ก โดยมีภาพเผยแพร่ลักษณะสภาพสะบักสะบอม ถูกทำร้ายร่างกายจนกระทั่งปากฉีก
ซึ่งกล่าวอ้างว่าถูกกลุ่มของนายแบงค์และพวกมีการอุ้มไปทำร้ายร่างกาย หลังจากเกิดเหตุไม่พอใจกับรุ่นพี่คือนายต้นตาลตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันที่ 5 พ.ย. 65 พนักงานสอบสวน สภ.คูคต คุมตัว 12 ผู้ก่อเหตุ รุมทำร้ายร่างกายน้องเน็ก เยาวชนวัย 16 ปี ไปฝากขังผัดแรกโดยแบ่งไปที่ศาลจังหวัดธัญบุรี ส่วนคนก่อเหตุที่เป็นเด็กได้แยกส่งไปยังศาลเยาวชนและครอบครัว จ.ปทุมธานี ระหว่างขึ้นรถคุมขังกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดต่างมีท่าทีเรียบเฉย บางคนใช้ผ้าหรือเสื้อปิดบังใบหน้า และเดินจูงมือกันขึ้นรถคุมขัง
สำหรับผู้ก่อเหตุในคดีนี้มีทั้งหมด 15 ราย โดยแยกเป็นผู้ที่อายุเกิน 18 ปี 7 ราย แต่จับกุมมาได้ 5 ราย ยังหลบหนี 2 ราย คือ นายปรีชารัตน์ นิลจอหอ หรือ เค้า และ นายกิตติธัช ศิวยานนท์ หรือ อั้น ซึ่งอั้นคือหนึ่งในหัวโจกกลุ่มวัดลาดสนุ่นด้วย ส่วนอีก 8 ราย เป็นเยาวชนจับกุมมาแล้ว 7 ราย ยังหลบหนีอีก 1 ราย
นายรุ่ง (นามสมมติ) เพื่อนสนิทฝั่งของนายแบงค์ ได้มอบภาพวงจรปิดใหม่ให้ทีมข่าวดู เป็นเหตุการณ์ชนวนเหตุที่ท้าทายกันไปมา ซึ่งเหตุเกิดขึ้นช่วงเดือน ก.ค. 65 จะเห็นว่า รถของกลุ่มรุ่นพี่นายเน็กขับมอเตอร์ไชต์ซ้อน 2 ผ่านมา มีการโชว์ปืนและจุดประทัดหรือระเบิดปิงปองจนเห็นเป็นประกายไฟ ซึ่งเป็นมาเย้ยและท้าทายกันถึงหน้าบ้าน
นายรุ่ง เผยว่า เหตุการณ์ในวันดังกล่าวไม่ใช่เพียงแค่กลุ่มของตนเองที่มีอาวุธปืน แต่ถ้าหากดูจากภาพกล้องวงจรปิดจะเห็นว่าฝั่งของรุ่นพี่นายเน็กก็มีการถือลักษณะคล้ายอาวุธปืน จึงเป็นที่มาในการแจ้งความดำเนินคดีข้อหาอาวุธปืนกับฝั่งรุ่นพี่นายเน็ก และฝั่งตนเองโดนข้อหาบุกรุก เพราะพากันไปบ้านคนอื่น
แต่สำหรับเรื่องของอาวุธปืนนั้นยืนยันว่าเป็นปืนปลอม เป็นลักษณะปืนสีเงิน ลักษณะทรงปืนลูกโม่ง ตนเองจึงอยากให้ดูว่าเป็นปืนจริงหรือปลอมจึงยกออกมาโชว์ให้ดูว่าเป็นปืนอันเดียวกันกับในวงจรปิด ระหว่างสัมภาษณ์ปรากฏว่านายรุ่งหยิบปืนออกมาโชว์ขณะคุย ซึ่งทีมข่าวก็ตกใจว่าทำไมควักปืนมา เจ้าตัวบอกว่าที่ควักออกมาเพราะยากให้ดูว่ามันคือปืนปลอม
ส่วนเหตุผลที่กลุ่มตนเองต้องบุกไปที่บ้านรุ่นพี่นายเน็ก เป็นเพราะว่าวันนั้นกลุ่มตนเองนั่งเล่นอยู่ที่หน้าบ้านนายแบงค์ บ้านที่ถูกกล่าวหาว่ามีการอุ้มทำร้าย หนึ่งในกลุ่มของรุ่นพี่นายเน็ก ขับรถมาแล้วมีการโชว์ตะโกนท้าทาย ทำให้กลุ่มของตนเองต้องขับตามไปเพื่อนสอบถามว่า ทำไมต้องมาหาเรื่องกัน จึงได้ขนเอาปืนปล่อมไปเพื่อขู่ จนเป็นที่มาของการถูกแจ้งจับ “บุกรุก” แต่ไม่โดนข้อหาปืน เพราะเป็นปืนปล่อม แต่กลุ่มของตนเองเห็นว่า ฝั่งรุ่นพี่นายเน็ก มีการโชว์ปืนเฟมือนกัน จึงพากันหนีเพราะฝั่งเราปืนปล่อม เขาปืนจริง จากนั้นต่างฝ่ายต่างแจ้งตำรวจ และกลุ่มตนก็แจ้งกลับข้อหาอาวุธปืนและพยายามฆ่า แต่จนถึงทุกวันนี้คดีก็ยังเงียบ
ระหว่างขึ้นรถคุมขังช่วงหนึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุกล่าวว่า “ที่ผ่านมา มักถูกกระทำก่อนเสมอ อาทิ โดนปาระเบิดบ้านจนนอนกันไม่ได้ พร้อมขออย่าฟังความฝ่ายเดียว อยากให้ฟังให้ครบ เพราะโดนหาเรื่องมาตลอด”