สาวสองเหยื่อรับน้องถูกสั่งเปลือยอก เผยสภาพจิตใจย่ำแย่ ยังไร้เงารุ่นพี่ขอโทษ

กรณีเฟซบุ๊กแฟนเพจชื่อดังหลายเพจมีการคัดลอกข้อความจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งโพสต์ข้อความระบายอารมณ์ หลังทราบว่า น้องซึ่งเป็นสาวประเภทสองที่สนิทกัน ถูกรับน้องและถูกกระทำไม่เหมาะสม ด้วยการให้ถอดเสื้อ ต่อหน้าเพื่อนผู้ชาย สร้างความอับอาย และสร้างความสะเทือนใจกับรุ่นน้องรายนี้เป็นอย่างมาก ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์

ล่าสุด วันนี้ (3 ก.ค. 60) น้องเอมมี่ นักศึกษาที่ถูกกระทำจากเหตุการณ์รับน้องตามที่ปรากฎเป็นข่าว เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยในวันดังกล่าว น้องเอมมี่ได้สวมเสื้อซับ ลักษณะคล้ายเสื้อกล้าม และสวมทับด้วยเสื้อยืดสาขาสีขาว โดยรุ่นพี่ที่ไม่ใช่พี่ปี 2 ได้สั่งให้ถอดเสื้อ ซึ่งมีเพื่อนที่เป็นสาวประเภทสองรวม 2 คน ที่เหลือเป็นเพื่อนผู้ชาย เมื่อถูกสั่งหลายครั้งทำให้จำใจถอดเสื้อยืดสาขาออกแล้วจึงเอามือมาปิดหน้าอกด้วยความอาย จากนั้นรุ่นพี่ได้นำผ้ามาผูกตา ทำให้ไม่เห็นว่ามีใครอยู่ในเหตุการณ์บ้าง ก่อนถูกสั่งให้ก้มหน้าลงทำให้น้องเอมมี่เอามือปิดบังหน้าอกตลอดเวลา กระทั่งมีการกระชากตัวของน้องเอมมี่ออกจากแถว ซึ่งเป็นช่วงที่เพื่อนทุกคนจะต้องเดินเข้าห้องแดงเพื่อพบพี่สายรหัสและผูกข้อมือซึ่งมีรุ่นพี่ปี 2 รออยู่ด้านในห้องแดง

ทำให้ขณะนั้นเอมมี่รู้ว่าถูกแยกออกมาคนเดียว โดยมีรุ่นพี่รุมล้อมอยู่หลายคน มีการพูดให้น้องเอมมี่เอามือออกจากหน้าอกอีกครั้ง แต่น้องยืนยันว่าไม่เอามือออกเพราะอาย ทำให้มีรุ่นพี่คนหนึ่งถกเสื้อกล้ามขึ้นจนเกือบถึงหน้าอก ในขณะนั้นน้องเอมมี่ร้องไห้และทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น ขณะที่รุ่นพี่ยืนหัวเราะ ก่อนที่คนจะเริ่มหายไป และมีรุ่นพี่คนหนึ่งนำเสื้อสาขามาสวมให้ แล้วถูกนำตัวเข้าไปในห้องแดงเพื่อผูกข้อมือต่อ และมารู้ตัวเอาภายหลังว่าเสื้อกล้ามที่ใส่ขาดที่บริเวณตะเข็บด้านข้างด้วย ซึ่งตนไม่ทราบว่า มันขาดได้อย่างไร

น้องเอมมี่ยอมรับว่า รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สภาพจิตใจย่ำแย่ ถามกลับถึงรุ่นพี่ว่า ทำไมถึงได้ย่ำยีจิตใจกันได้ขนาดนี้ น้องเอมมี่ยังเปิดเผยด้วยว่า จนถึงขณะนี้ รุ่นพี่ที่กระทำดังกล่าว ยังไม่เคยติดต่อมาขอโทษ หรือแสดงความรับผิดชอบใดๆ มีเพียงอาจารย์ที่ทราบเรื่องได้กล่าวขอโทษแทนรุ่นพี่ ทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของมหาวิทยาลัย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้น้องเอมมี่ ยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีกับรุ่นพี่กลุ่มดังกล่าว โดยจะยังรอเวลาและรอดูเหตุการณ์ไปก่อน หากได้รับการติดต่อเพื่อขอโทษ ตนก็พร้อมยกโทษให้ เพื่อให้เรื่องยุติลงด้วยดีและไม่เสื่อมเสียต่อมหาวิทยาลัย