เผาแล้ว! พลทหารถูกรุมซ้อมดับ ไร้เงา 11 ทมิฬ กองทัพโร่มอบเงิน 2 แสน แม่ทรุดขอเป็นเหยื่อสุดท้าย (คลิป)

กรณีเมื่อเวลา 10.00 น วันที่ 25 พ.ย. 65 ผู้สื่อได้รับการร้องเรียนขอความเป็นธรรมจาก นางสมศรี วงศ์จันทร์ อายุ 44 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 5 ต.หนองฉาง อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ว่าลูกชายตนเองชื่อ นายขจรศักดิ์ ศรียากูล อายุ 24 ปี ได้รับการสมัครเป็นทหารเกณฑ์ กระทั้งทำความผิดขโมยของ ถูกส่งไปในเรือนจำทหาร และถูกเพื่อนักโทษรุมทำร้ายจนเสียชีวิต 

วันที่ 26 พ.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังวัดทุ่งหลวง จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพของ นายขจรศักดิ์ ศรียากูล และวันนี้เป็นวันฌาปนกิจศพของผู้เสียชีวิต

เวลา 15.00 น. พิธีฌาปนกิจศพอดีตพลทหารขจรศักดิ์ โดย พลตรีกฤษณะ ภู่ทอง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 39 ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธี จากนั้นเวลา 15.30 น. ได้มีพิธีเคลื่อนโลงศพของพลทหารขจรศักดิ์รอบเมรุ โดน นางสมศรี วงศ์จันทร์ แม่ผู้เสียชีวิต เป็นคนถือรูปภาพลูกชาย และคุณณรงค์ชัย สว่างกุล แฟนคนตาย เป็นคนถือกระถางธูปในขบวน โดนทั้งสองคนมีสีหน้าโศกเศร้า

เวลา 15.40 น. ยายของพลทหารขจรศักดิ์ แฟนสาวของพลทหารขจรศักดิ์ และแม่ของพลทหารขจรศักดิ์ ได้ขึ้นไปวางดอกไม้จันทน์ และดูหน้าผู้เสียชีวิตเป็นครั้งสุดท้าย ทั้งสามคนได้ร้องไห้ฟูมฟายหน้าโลงศพ ก่อนที่คุณยายจะพูดขึ้นมาว่า “เจมส์ทิ้งยายทำไม แล้วยายจะอยู่กับใครละลูก” จากนั้น นางสมศรี แม่ของผู้เสียชีวิต ก็เป็นลมล้มลงไปแทบใจจะขาดที่หน้าโลงศพบนเมรุก่อนที่ญาติจะมาประคองลงไปนั่งพักด้านในศาลา โดยระหว่างแม่ผู้เสียชีวิตนั่งพักผ่อนขณะอาการยังไม่ดีขึ้นอยู่นั้น พลตรีกฤษณะ ภู่ทอง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 39 ซึ้งเป็นประธานในพิธี ก็ได้มาจับไหล่ให้กำลังใจอยู่เป็นระยะ ๆ

เวลา 16.00 น. ได้ทำการนำโลงศพพลทหารขจรศักดิ์ เข้าเผาในเมรุ หลังจากเผาศพเสร็จ ทางด้านคุณณรงค์ชัย สว่างกุล แฟนคนตาย ก็ได้กอดรูปภาพของผู้เสียชีวิตไว้ที่อกพร้อมกับแสดงอาการร้องไห้เสียใจ จากนั้นแฟนของคนตายก็นำภาพคนตายขึ้นรถกลับบ้าน

หลังพิธีเผาศพเสร็จ พลตรีกฤษณะ ภู่ทอง ผบ.มทบ.ที่ 39 ได้เรียก นางสมศรี แม่ของผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยครอบครัว มาพูดคุยถึงเรื่องคดีและมอบเงินเยียวยา โดยพลตรีกฤษณะ บอกกับแม่ผู้เสียชีวิตว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทางผู้บังคับบัญชาจะเร่งรัดให้เร็วที่สุด และไม่ปล่อยให้ผู้กระทำความผิดรอดไปได้ ในเรื่องคดีอาญาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการไปแล้วคาดว่าอยู่ในระหว่างสอบสวน ส่วนเรื่องวินัยทางทหารก็มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว ถ้าใครผิดตรงไหนก็ต้องรับผิดไปตามนั้นไม่มีละเว้น

ซึ่งวันนี้ทางผู้ก่อเหตุทั้ง 11 คน ก็ได้รวบรวมเงินเยียวยา 200,000 บาท มามอบให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต พลตรีกฤษณะ กล่าวต่อว่าเงินจำนวนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับสำนวนคดี เป็นเงินจากความสำนึกของผู้กระทำความผิดทั้ง 11 คน จากนั้นพลตรีกฤษณะ ก็นำซองเงินจำนวน 200,000 บาท มามอบให้กับ นางสมศรี ผู้เป็นแม่ แล้ว พลตรีกฤษณะ ก็เข้ามากอดนางสมศรีเพื่อให้กำลังใจ

หลัง พลตรีกฤษณะ ภู่ทอง ผบ.มทบ.ที่ 39 มอบเงินเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตเสร็จ ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า คดีนี้กองทัพภาคที่ 3 กำชับมาว่าให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ไม่มีการช่วยเหลือใครคนใดหนึ่ง ส่วนเรื่องคดีอาญาก็มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสอบสวนไปแล้ว เรื่องของวินัยทางทหารก็อยู่ระหว่างสอบสวนถ้าพบว่าใครทำผิด ก็ดำเนินการถึงที่สุดเช่นเดียวกัน

ทีมข่าวสอบถามพลตรีกฤษณะว่าตอนเกิดเหตุมีผู้คุมเวรหรือไม่ทำไมถึงเกิดเหตุได้ พลตรีกฤษณะก็กล่าวว่า ประเด็นนี้อยู่ระหว่างสอบสวนอยู่และก็มีผู้อยู่ในเหตุกาณร์หลายปากจึงต้องใช้เวลา ยืนยันว่าจำนวนผู้ก่อเหตุมี 11 คน ตามที่เป็นข่าวและทางค่ายมีมาตรการป้องกันที่ดีมาตลอดอยู่แล้ว แต่เหตุครั้งนี้มันเกิดขึ้นจากตัวบุคคล ยืนยันว่ากองทัพบกไม่มีช่วยเหลือใครผิดก็คือผิด

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางสมศรี วงศ์จันทร์ แม่ผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์ทีมข่าวว่าเมื่อวานนี้ 25 พ.ย. 65 พันเอกสุวัฒน์ เฉลิมเกียรติ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที 39 ได้มาร่วมงานศพลูกชายตัวเอง โดยเขาก็ได้พูดคุยกับตัวเองประมาณ 30 นาทีว่าแล้วทางพันเอกสุวัฒน์รับปากกับครอบครัวตัวเองว่าเขาจะดำเนินคดีผู้ก่อเหตุทั้ง 11 คน ให้ถึงที่สุด ซึ่งตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ในขั้นตอนสอบสวนอยู่ว่าตอนเกิดเหตุผู้คุมนักโทษไปไหน ทำไมถึงปล่อยให้มีการทำร้ายร่างกายกันได้ และเหตุที่เกิดขึ้นมาจากเรื่องอะไร

โดยทาง พันเอกสุวัฒน์ ก็บอกว่าในวันนี้ 26 พ.ย. 65 ทาง ผบ.มทบ.39 จะนำเงินเยียวยาจากกลุ่มผู้ก่อเหตุประมาณ 200,000 บาท มามอบเป็นค่าเยียวยาให้กับครอบครัวตัวเอง แต่เรื่องทางคดีตัวเองก็ยืนยันว่าอยากให้เขารับโทษถึงที่สุด เพราะอยากให้เป็นแบบอย่าง ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวใครอีก ตัวเองให้ลูกไปอยู่ในค่ายทหารคิดว่าสถานที่นั้นเป็นที่ปลอดภัยที่สุด แต่ไม่คิดว่าลูกจะต้องมาถูกทำร้ายจนเสียชีวิตในนั้น

นางสมศรี เล่าต่อว่า ก่อนหน้านี้มี ผบ.เรือนจำนายหนึ่ง ซึ่งเป็นทหารชุดที่มานอนเฝ้าศพลูกชายที่วัดเขามาเล่าให้ตัวเองฟังว่า คืนที่สวดอภิธรรมคืนแรกคืนวันที่ 22 พ.ย. 65 ขณะ ผบ.เรือนจำนายดังกล่าวเขานอนอยู่บนกุฏิ เขาได้ยินเสียงลูกชายตัวเองไปเรียกว่า “ผบ.ครับ ผมขอโทษ” และคืนที่ 2 คืนวันที่ 23 พ.ย. 65 ขณะผบ.เรือนจำนายดังกล่าวนอนอยู่เขาก็ได้ยินเสียงลูกชายตัวเองไปเรียกเขาอีกว่า “ผบ.ครับ ผมขอโทษ ที่ทำให้ ผบ.ต้องเดือดร้อน ผมขอตัวไปแล้วนะ” เหตุดังกล่าวตัวเองจึงเชื่อว่า วิญญาณของลูกชายตัวเองไปหาผบ.เรือนจำรายนั้น เพื่อจะลาเนื่องจากเขาเป็นคนสนิทกัน

แล้วนอกจากนี้เมื่อคืนวันที่ 24 พ.ย. 65 อาของลูกชายก็ได้ไปหาเขียดที่ทุ่งนา ก็ได้ยินคล้ายเสียงเท้าของลูกชายไปเดินใกล้ ๆ เขาอีกด้วย ถ้าหากว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 11 คน เขามาขอขมาศพลูกชาย ตัวเองก็บอกเขาว่าไม่ต้องมา เพราะตัวเองไม่มีทางให้อภัยเขาอยู่แล้ว เพราะเขาทำร้ายลูกชายถึงตาย แล้วจะมาขอโทษมันง่ายเกินไป “พวกคุณมีกัน 11 คน จิตใจ้สำนึกไม่มีกันเลยหรอ แทนที่จะช่วยห้ามกันกลับช่วยกันรุมกระทืบ แล้วพวกคุณจะมาสำนึกผิดทีหลังมันไม่ใช่” อย่างไรก็ตามตัวเองก็อยากบอกลูกชายว่า ตัวเองจะทำหน้าที่แม่ให้ดีที่สุด จะสู้เพื่อลูกไม่ให้ลูกตายฟรี

ด้าน คุณณรงค์ชัย สว่างกุล แฟนผู้เสียชีวิต บอกกับทีมข่าวว่า เมื่อเช้าวันนี้ ขณะที่ตัวเองฟังพระสวดตัวเองก็ได้กลิ่นน้ำหอม ที่ลอยมาติดจมูกตัวเองพอถามชาวบ้านที่นั่งช้าง ๆ ว่าได้กลิ่นน้ำหอมไหมก็ไม่มีใครได้กลิ่น ตัวเองจึงคิดว่าพลทหารขจรศักดิ์ น่าจะมาหาตัวเอง ซึ่งตัวเองก็บอกเขาว่า ให้เขาไปสบายไม่ต้องห่วงตัวเอง ส่วนจดหมายที่ตัวเองเขียนให้เขาและที่เขาเขียนให้ตัวเองที่ผ่านมา ตัวเองก็จะนำไปเผาไฟพร้อมกับโลงศพของเขา

ก่อนนายขจรศักดิ์จะเสียชีวิต เขาบอกกับตัวเองว่าเขาอยากจะกินชาบู ซึ่งเป็นเมนูที่เขาโปรดมาก หลังจากเสร็จพิธีตัวเองก็จะซื้อชาบู มาทำบุญให้เขาให้เขาได้ทานในสิ่งที่เขาทาน ถึงวันนี้ทางกลุ่มผู้ก่อเหตุจะส่งเงินเยียวยาจำนวน 200,000 บาท มาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต แต่ตัวเองก็ยังไม่ให้อภัยพวกเขา 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะสิ้งที่พวกเขากระทำต่อขจรศักดิ์นั้นมันเกินให้อภัยและขอดำเนินคดีถึงที่สุด