สำนักศิลป์ เชียงใหม่ เข้าตรวจสอบเจดีย์โบราณภายในวัดเจดีย์เหลี่ยม หลัง จุดพลุบูชาพระธาตุ จนประชาชนหวั่นจะได้รับความเสียหาย
จากกรณีการจุดพลุเพื่อบูชาเจดีย์โบราณภายในวัดเจดีย์เหลี่ยม หรือวัดกู่คำ เวียงกุมกาม อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลกออนไลนืว่าจะสร้างความเสียหายต่อโบราณสถานที่มีอายุกว่า 700 ปีหรือไม่
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ภิกษุ ซึ่งเป็นผู้เผยแพร่วิดีโอการบูชาเจดีย์พระธาตุ โพสต์ข้อความชี้แจงระบุว่า "ขอบคุณทุกๆ ความคิดเห็น มี เป็นกรณีศึกษาเรื่องบอกไฟพุกับพระธาตุ บอกไฟพุนั้นไม่ได้จุดบนพระธาตุแต่จุดด้านหลังพระธาตุคนละที่กันไม่มีอะไรเสียหาย ช่างติดบอกไฟนั้นทำด้วยความระมัดระวัง เสียงที่ดังนั้นคือบอกไฟพลุที่ดังมาจากด้านหลังพระธาตุไม่ใช่บนพระธาตุ ขอบคุณทุกๆ ความคิดเห็นที่เป็นห่วงหลากหลายมุมมอง เคารพทุกๆ ความคิดเห็น สาธุ"
ล่าสุด (28 พ.ย.65) สำนักศิลปากรที่ ๗ เชียงใหม่ ระบุว่า กรณีที่มีการเสนอคลิปวีดีโอการจัดงานประเพณียี่เป็ง(ลอยกระทง) ที่ผ่านมาโดยคณะกรรมการวัดเจดีย์เหลี่ยม เวียงกุมกาม อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีการจุดดอกไม้ไฟและพลุบนองค์พระธาตุฯ และมีประชาชนจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นในคลิปนี้และมีความห่วงใยในโบราณสถานองค์พระธาตุฯ เกรงจะได้รับความเสียหายจากเหตุดังกล่าว
สำนักฯได้ไปสำรวจตรวจสอบสภาพองค์พระธาตุฯแล้ว พบว่ามีการนำดอกไม้ไฟประเภทแสง(ธารน้ำตก) และพลุนำแสงขนาดเล็ก แขวนและบังคับทิศทางด้วยลวด พันเกาะกับองค์พระธาตุฯ แล้วใช้สายชนวนเป็นตัวบังคับการจุด ส่วนพลุขนาดใหญ่ที่มีเสียงดังนั้น เป็นการตั้งกระบอกพลุบริเวณฐานพื้นด้านนอกกำแพงแก้ว ไม่ได้ติดตั้งหรือจุดชนวนบนองค์พระธาตุฯ
จากการตรวจสอบองค์พระธาตุฯ ไม่พบความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการจุดดอกไม้ไฟหรือพลุในครั้งนี้ พบเพียงคราบเขม่าที่ผิวปูนฉาบบนคราบเชื้อราดำบางส่วนเท่านั้น ทั้งนี้ได้ถวายความรู้ คำแนะนำเบื้องต้นในความเหมาะสม การควรหรือไม่ควรกระทำสิ่งใดต่อโบราณสถานที่อยู่ในการครอบครองของวัด ตลอดจนวิธีบำรุงรักษา ดูแลรักษาโบราณสถานเบื้องต้น ให้กับท่านเจ้าอาวาสได้ทราบแล้ว
หลังจากนี้ทางสำนักฯ จะมีหนังสือกราบนมัสการเจ้าอาวาสวัดต่างๆ ที่มีโบราณสถานตั้งอยู่ ถึงเรื่องแนวทางในการดำเนินงานต่างๆที่เหมาะสมและไม่เหมาะสมกับโบราณสถาน และในอนาคตสำนักฯ จะจัดอบรมถวายความรู้แด่พระสังฆาธิการและฆราวาสผู้สนับสนุนวัด ในโอกาสต่อไป