ไฟไหม้เจริญกรุง 22 ซอยแคบจนท.คุมเพลิงทุลักทุเล สุดเสียดายบ้าน 100 ปี วอด

ไฟไหม้กลางดึก ชุมชนวานิชสัมพันธ์ ซอยเจริญกรุง 22 จนท.สกัดเพลิงลำบาก รถใหญ่เข้าไม่ได้เนื่องจากซอยแคบ สุดเสียดายบ้านเก่าอายุ 100 ปี วอด

วันที่ 3 ธันวาคม 2565 เวลา 22.42 น.ร้อยตำรวจเอก ณัฎฐ์พงศ์ สีดา รอง สว. สอบสวน สน.พลับพลาชัย 2 รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในซอยเจริญกรุง 22 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยสวนมะลิ , อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพบเหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 145 ชุมชนวานิชสัมพันธ์ ซอย เจริญกรุง 22 แขวงตลาดน้อย เขต สัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร เป็นลักษณะอาคารพาณิชย์ ครึ่งปูนครึ่งไม้ 2 ชั้น ปลูกติดกันหลายหลัง พบแสงเพลิงและกลุ่มควันจำนวนมากเกิดขึ้นบริเวณชั้นที่ 2 และลุกลามลงสู่ชั้นล่างของตัวบ้านก่อนที่จะไหม้ลามไปติดกับบ้านเลขที่ 147 ที่อยู่ติดกันไหม้เสียหายไปด้วยอีกหลังหนึ่งอย่างรวดเร็ว

อาสาสมัคร พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงเร่งวางสายฉีดน้ำดับเพลิงซึ่งเป็นไปด้วยความโกลาหลของชาวบ้านบริเวณดังกล่าวประกอบกับซอยดังกล่าวเป็นซอยคับแคบ รถดับเพลิงขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าไปถึงต้นเพลิงได้ต้องช่วยกันแบกเครื่องหาบหามเข้าไปอย่างทุลักทุเล ใช้เวลากว่า 20 นาที จึงทำการควบคุมเพลิงเอาไว้ได้

จากการตรวจสอบโดยรอบในที่เกิดเหตุไม่พบผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว สรุปเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้มี บ้านเลขที่ 145 เป็นบ้านต้นเพลิงตามที่พยานบอกเล่า และลุกลามไปติดบ้านเลขที่ 147 เสียหายไปด้วย ส่วนพื้นที่ความเสียหายประมาณ 36 ตารางเมตร ส่วนชุมชนดังกล่าวเป็นบ้านเก่าแก่มีอายุประมาณเกือบ 100 ปี จึงเป็นที่น่าเสียดายบ้านเก่าทรงโบราณ

ซึ่งทุกวันนี้ก็หาดูได้ยากยิ่งแล้วชาวบ้านแถวนั้นต่างก็บอกว่าเสียดาย ส่วนสาเหตุที่เกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่สรุปสาเหตุที่แท้จริงได้ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดอีกครั้งโดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการนำเชือกมากันขอบเขตเอาไว้ก่อนและไม่อนุญาตให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปบริเวณที่เกิดเหตุเพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายเกิดขึ้น

จากการสอบถามคุณสุมิตรา แซ่เจี่ย อายุ 46 ปี บ้านข้างเคียงกับบ้านต้นเพลิง บอกว่า ตอนเกิดเหตุตนนอนหลับอยู่ แล้วแฟนมาปลุก ตนตื่นมาก็เห็นมีควัน ตกใจวิ่งออกนอกบ้าน แล้วก็วิ่งกลับเข้าไปหยิบโทรศัพท์ออกมาแจ้งดับเพลิง หันกลับไปอีกทีไฟลุกโหมเร็วมาก เลยออกจากจุดเกิดเหตุ หยิบได้แต่โทรศัพท์กับแมสก์ 1 อันติดตัวออกมาแค่นี้

ปกติแล้วตนจะกินยาก่อนนอน แต่วันนี้ไม่ได้กิน ตนเช่าบ้านอยู่กับแฟนตนเพียง 2 คนมานานเกือบ 10 ปีแล้ว ส่วนข้างบ้านไม่มีคนอยู่ เค้าน่าจะออกไปรับแฟนเค้าข้างนอก ยังไม่กลับเข้ามา ตัวเค้าจะขายของเก่าพวกมือ 2 ที่คลองถม ส่วนแฟนจะทำงานแถวสีลม

ส่วนนาย วีระยุทธ สิทธิดำรงค์กุล อายุ 55 ปี กล่าวว่า ตนนอนหลับอยู่ภายในบ้านแฟนก็มาปลุกบอกว่าไฟไหม้ๆ ตนก็ตกใจ พอวิ่งมาดูหน้าบ้านก็พบว่าเพลิงได้ไหม้อยู่บริเวณชั้นที่ 2 ของตัวบ้านแล้ว ก็เลยคว้าถังดับเพลิงจะขึ้นไปฉีดพ่นเพื่อเป็นการสกัดเพลิงไว้ในเบื้องต้นแต่ว่าก็ขึ้นไปไม่ได้เพราะด้านในบ้านมีข้าวของวางเยอะ ปิดทางเดินหมดเลยเพราะว่าเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวเขามีอาชีพค้าขายของเก่าอยู่คลองถม ก็เลยสะสมของเก่าเอาไว้แบบเยอะมาก ก็เลยมาใช้วิธีต่อสายยางหน้าบ้านตนฉีดน้ำช่วยสกัดเพลิงเอาไว้ก่อน และกู้ภัยมาถึงจึงช่วยกันดับไฟได้

ตอนเกิดเหตุภายในบ้านหลังดังกล่าวไม่มีใครอยู่เลย เจ้าของบ้านออกไปรับแฟนเขาที่สีลม แฟนเขาเป็นชาวอินเดีย ส่วนตัวเขาเป็นคนไทย บ้านบริเวณนี้เป็นของกรมธนารักษ์ มีอายุกว่า 100 ปีแล้ว แต่เดิมคนแถวนี้จะเป็นคนจีนกวางตุ้งแต่พอเวลาล่วงเลยมานานได้มีการเปลี่ยนเจ้าของมาหลายมือก็เลยมีทั้งคนจีน และคนไทย มาอยู่ปะปนกันไป

ส่วนสาเหตุนั้นคาดว่าน่าจะเกิดจากการที่เจ้าของบ้านเสียบปลั๊กอะไรทิ้งไว้หรือเปล่าเพราะเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวเป็นคนขี้ลืมอยู่แล้วด้วย ตรงนี้ก็ยังไม่แน่ใจ ต้องรอดูผลพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่อีกครั้งถึงจะสรุปสาเหตุได้