พบเจดีย์กลางเขาดอยขุนตาล 9 องค์ เจอทั้งเหวหน้าผาและเสียงปริศนากลางดึก

ฮือฮา! พบเจดีย์กลางเขาดอยขุนตาล 9 องค์กลางหุบเขาเจอทั้งเหว หน้าผา และเสียงปริศนากลางดึก รอ จนท.เข้าตรวจสอบประวัติและบูรณะ

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 7 ธ.ค.65 หลังจากที่เพจอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ได้เผยแพร่การค้นพบพระธาตุจำนวน 9 องค์ กลางยอดเขาดอยขุนตาลรอยต่ออำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปางกับอำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ซึ่งมี จนท.สายตรวจส่วนกลางจากอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาลจำนวน 7 นายและพระสงฆ์ จากวัดห้วยเรียนอีก 2 รูปขึ้นไปสำรวจร่วมกัน ทำให้โลกโชลเชียลต่างมีการแชร์ภาพออกไปเป็นจำนวนมาก

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 7 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่วัดห้วยเรียน หมู่ที่7 ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตรจ.ลำปาง พบกับพระอธิการอนุชาปญฺโญธโร อายุ 30 ปี เจ้าอาวาส และพระสมศักดิ์วุฑฒิปัญฺโญฺ อายุ 33 ปี พระลูกวัดซึ่งออกเดินสำรวจบนยอดเขาดอยขุนตาลพร้อมกับจนท.อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล

โดยพระอธิการอนุชา เจ้าอาวาสวัดห้วยเรียน เปิดเผยว่า จนท.เป็นผู้ค้นพบพระธาตุดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาตัวท่านเองก็ได้ยินจากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่และครูบาอาจารย์จึงอยากไปเห็นด้วยตาของตนเองตามคำบอกเล่า เขาว่าปู่ผ้าขาวอ้ายเป็นคนสร้าง แต่สร้างเพื่อวัตถุประสงค์อะไรนั้นก็ไม่มีใครทราบ ส่วนเรื่องจริงนั้นจะเป็นแบบไหนต้องรอให้จนท.จากกรมศิลป์ตรวจสอบก่อนเพราะเป็นแค่คำบอกเล่า สำหรับเส้นทางที่ไปนั้นลำบากมากต้องใช้เวลาในการสำรวจ 3 วัน 2 คืน

วันแรกออกจากอุทยานดอยขุนตาล เช้าวันที่ 1 ธ.ค.65 โดยออกเดินทางไปตามแนวเขาบนยอดดอยขุนตาลจนถึง 4 โมงเย็นก็ต้องหาที่พักค้างคืน และต่อมาช่วงบ่ายของวันที่ 2 ธ.ค.65 จึงถึงจุดแรหพบเจดีย์ 3 องค์ อยู่ติดกันล้มไปสององค์อีกองค์เหลือแต่ฐานกว้างประมาณ 2-3 เมตรและมีพระพุทธรูปอยู่ 1 องค์ และเดินต่อมาอีกประมาณ 500 เมตรก็พบจุดที่2 ก็พบพระธาตุอีกสองเป็นเค้าโครงทรงดอกบัวอยู่ติดกัน ฐานกว้างประมาณ 2-3 เมตร และต่อมาก็เดินมาประมาณ 600 เมตรก็พบจุดที่ 3 พบพระธาตุองค์ที่ 6-7 ซึ่งยังสมบูรณ์อยู่เป็นศิลปะทางล้านนา กว้าง 2-3 เมตร สูง 6-7 เมตร และเดินมาอีก 500 เมตร ก็มาถึงจุดที่ 4 พบพระธาตุองค์ที่ 8 ซึ่งเหลือแต่กองดินและไม่เหลือเค้าเดิมเหลือแต่ฐานประมาณ 3 เมตรแต่ไม่ได้ถ่ายภาพไว้เพราะเป็นหญ้ารก

หลังจากนั้นก็หาที่พักค้างคืนและคืนนั้นก็ได้ยินเสียงปริศนา คาดว่าเป็นสิ่งเร้นลับมาเพื่อทักทายแต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร จนเช้าวันที่ 3 ธ.ค.65 ก็ออกเดินทางต่อ ซึ่งเป็นเส้นทางลำบากมากต้องเดินเลาะโขดหินริมลำห้วยจนพระลูกวัดที่มาด้วยตกลงไปในน้ำในห้วย และยังต้องปีนป่ายต้นไม้ที่ล้มเพื่อข้ามลำห้วย ซึ่งสองฝั่งเป็นหน้าผาสูงต้องค่อยๆ นั่งถอยอยู่บนท่อนไม้เพื่อเดินทางต่อ และยังผ่านหน้าผาต่างๆ ต้องเกาะต้นไม้จนขาสั่นก็มี จนมาถึงจุดที่ 5 พบพระธาตุองค์ที่ 9 ซึ่งเหลือแต่ฐานกว้างประมาณ 7 เมตร และคาดว่าเป็นองค์ที่ใหญ่ที่สุด

ทั้งนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการบูรณะและสืบเสาะหาประวัติของพระธาตุทั้ง 9 องค์ดังกล่าวว่ามีความเป็นมาอย่างไร

ด้านพระสมศักดิ์ พระลูกวัดที่ไปด้วย และเป็นพระที่ร่วงตกลงน้ำ เปิดเผยว่า เส้นทางไปลำบากมาก แต่ก็อยากไปเห็นระหว่างที่กำลังเลาะข้ามโขดหินก็ร่วงลงในลำห้วยตามในคลิป โดยมีหัวหน้าชุดของจนท.ที่ไปด้วยถ่ายคลิปเอาไว้ได้ก่อนที่จะมีการนำลงไปโพสต์ลงใน TikTok ตอนนี้มีคนดูแล้วร่วมห้าแสนครั้ง แล้วพอเห็นคลิปก็ไม่ได้คิดอะไรมากเห็นว่าตลกดีเหมือนกันจนได้ฉายพระร่วงของแท้