ช้อปปี้ประเทศไทยแจงกรณีลูกค้าถูกดูดเงินออกจากบัญชี เพราะ Phishing Scam เผยพร้อมให้ตรวจสอบอย่างเต็มที่
วันที่ 8 ธ.ค. จากกรณีมีผู้เสียหายที่ผูกบัญชีธนาคาร หรือ บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ไว้ชำระค่าสินค้ากับแอปพลิเคชันซื้อขายของออนไลน์ และต่อมาพบว่า ถูกหักเงินในบัญชีชำระค่าสินค้าโดยไม่ทราบสาเหตุ
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกกองบัญชาการ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระบุว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายกว่า 60 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท โดยคดียังอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบความเชื่อมโยงต่าง ๆ รวมถึงประสานงานไปยังบริษัทแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ เพื่อตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริง และเพื่อให้ผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรม
เบื้องต้น สันนิษฐานว่า อาจเกิดจากการที่ผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้เข้าไปกรอกข้อมูลทางการเงินผ่านเว็บไซต์ปลอม หรือแอปพลิเคชันปลอม แล้วนำข้อมูลที่ได้ไปใช้แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ
ล่าสุด ทางช้อปปี้ ประเทศไทย ออกมาชี้แจงระบุว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่าผู้ร้องเรียนอาจเป็นผู้เสียหายจากการหลอกลวงออนไลน์ (Phishing Scam) โดยเราตระหนักถึงความกังวลที่เกิดขึ้นแก่ผู้เสียหาย ทั้งนี้เราได้ติดต่อกับผู้เสียหายแล้ว และขอยืนยันที่จะให้ความช่วยเหลือในขั้นตอนการตรวจสอบอย่างเต็มที่ให้กับผู้เสียหาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ใช้งานสามารถมั่นใจและสั่งซื้อสินค้าได้อย่างปลอดภัยบนแพลตฟอร์มของเรา ช้อปปี้ยังคงดำเนินการสอดคล้องเป็นไปตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องทุกประการมาโดยตลอด
ขณะเดียวกันการยุติช่องทางการโอน/ชำระเงินผ่านระบบธนาคาร มิได้มีความเกี่ยวข้องสืบเนื่องจากกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด ด้วยความมุ่งมั่นในการยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ดียิ่งขึ้น เราจึงได้ทำการปรับปรุงช่องทางการชำระเงินที่มีความทับซ้อนกันซึ่งรวมไปถึงการยุติช่องทางโอน/ชำระเงินผ่านระบบธนาคาร อาทิ เคาน์เตอร์ธนาคาร ซึ่งเราได้ทำการเริ่มประกาศแจ้งไปตั้งแต่ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ผู้ใช้งานยังคงสามารถทำการซื้อสินค้าบนช้อปปี้ได้ตามปกติ โดยสามารถเลือกใช้ช่องทางการชำระเงินต่างๆได้ รวมไปถึง ช้อปปี้เพย์ วอลเล็ต (ShopeePay Wallet), การตัดบัญชีธนาคารที่ผูกไว้ (direct debit), พร้อมเพย์ และ บัตรเครดิต เป็นต้น