ทร.เร่งค้นหากำลังพล 33 นาย หลังเรือหลวงสุโขทัยล่ม ถูกคลื่นซัดกระจัดกระจายกลางทะเล ขณะที่ “ผบ.ทร.” เรียกประชุมด่วนเช้านี้
เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 19 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเรือหลวงสุโขทัย ที่อยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 19 ไมล์ทะเล ประสบอุบัติเหตุคลื่นลมแรง จนทำให้มีน้ำเข้าเรือเป็นจำนวนมาก และได้จมลงใต้ทะเลแล้วในช่วงดึกของวันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา ทางเรือหลวงกระบุรี เรือประจวบคีรีขันธ์ 4 และเรือประจวบคีรีขันธ์ 5 ได้ช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยได้แล้ว 73 นาย จากทั้งหมด 100 กว่านาย ในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บ 3 นาย และยังคงอยู่ในน้ำ 33 นาย โดยหลังจากที่เรือหลวงกระบุรีช่วยเหลือกำลังพลแล้ว ได้เดินทางไปยังท่าเรือบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อส่งกำลังพลที่บาดเจ็บไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์
ส่วนการค้นหากำลังพลที่เหลือ ยังคงดำเนินต่อไปทั้งคืน ทั้งนี้ทาง พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้สั่งการให้เรือหลวงอ่างทอง ที่เป็นเรือยกพลขึ้นบก ขนาดใหญ่ของกองทัพเรือ เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุกลางอ่าวไทย ในเวลา 06.00 น. พร้อมส่งเครื่องบินดอร์เนียร์เข้าพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อค้นหาลูกเรือที่เหลืออย่างเร่งด่วน
พร้อมกันนี้ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เรียกนายทหารระดับสูงประชุมด่วนในช่วงเช้าวันนี้ (19 ธ.ค. 65) พร้อมประชุมทางไกลผ่านวิดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์กับเจ้าหน้าที่ทหารในจุดเกิดเหตุ เพื่อประเมินสถานการณ์ และหาแนวทางค้นหากำลังพลกว่า 30 นาย เพื่อเร่งให้การช่วยเหลือ ซึ่งขณะนี้ยังมีอุปสรรค ในเรื่องของคลื่นลมแรงในอ่าวไทย
ทั้งนี้เรือหลวงสุโขทัย (FSG-442) เดินทางมาจาก อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมีภารกิจร่วมงานจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือ องค์บิดาของทหารเรือไทยเนื่องในโอกาสครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี ที่บริเวณศาลกรมหลวงชุมพรฯ จ.ชลบุรี ในวันนี้ (19 ธ.ค. 65) ก่อนที่จะเกิดประสบอุบัติเหตุจากคลื่นลมแรง น้ำได้ทะลักเข้าเรือ ทางด้านกาบขวา ทำให้เรือเอียง ห้องวิทยุสื่อสารไม่สามารถใช้การได้ โดยระหว่างนั้นเรืออยู่กลางทะเลห่างจากชายฝั่งประมาณ 19 ไมล์ทะเล ระหว่างปากน้ำปราณบุรีกับ อ.บางสะพาน ทั้งนี้ พล.ร.อ.เชิงชายได้สั่งยกเลิกพิธีที่มีเรือเข้าร่วม และให้เร่งช่วยเหลือกำลังพลก่อน
อย่างไรก็ตามล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 ธ.ค. 65 พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการค้นหากำลังที่เหลือ จำนวน 33 นาย ว่า ในวันนี้คลื่นลมก็ยังแรงอยู่ และเราส่งเรือไปช่วย ทั้งเรือหลวงกระบุรี เรือประจวบคีรีขันธ์ 4 และเรือประจวบคีรีขันธ์ 5 กำลังกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ บริเวณโดยรอบพื้นที่เกิดเหตุ รวมทั้งมีเฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบินดอร์เนียร์ออกบินลาดตระเวน เร่งค้นหากำลังพลจำนวน 33 นาย
พล.ร.อ.อะดุง กล่าวต่อว่า ก่อนที่เรือจะจมลงไปในทะเลนั้น ยืนยันว่ากำลังพลอยู่ครบทุกนาย จนกระทั่งเรือจมลงไปแล้ว จึงทำให้กำลังพลกระจัดกระจายกันออกไป คนละทิศละทาง อีกทั้งยังมีลมแรง ทำให้เรือเล็กลงไปช่วยไม่ได้
"ยืนยันว่ากำลังพลมีเสื้อชูชีพทุกนาย โดยเรือหลวงกระบุรีได้นำเสื้อชูชีพไปเสริมให้กำลังพลทั้งหมด" พล.ร.อ.อะดุง กล่าว