วันที่ 5 กรกฎาคม 2560 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้รับการร้องเรียนจากผู้ชมรายการทุบโต๊ะข่าว ถึงปัญหาที่มีมานานกับเพื่อนบ้าน ซึ่งบ้านตรงข้ามมีการเลี้ยงสุนัขเอาไว้ และมักจะส่งเสียงดังรำคาญ และล่าสุดเมื่อวานที่ผ่านมา 4 ก.ค. ทางเจ้าของบ้านฝั่งตรงข้าม ก็เดินมามีปากเสียงกันเรื่องกล้องวงจรปิด และมีการใช้อาวุธปืนในการข่มขู่
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางมายังบ้านของนายอนันต์ นิลขำ ผู้ที่ร้องเรียนเล่าว่า ตนย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ได้ประมาณ 2 ปี บ้านตรงข้ามจะมีการเลี้ยงสุนัข 1 ตัว และจะส่งเสียงดังบ่อยครั้ง ตนก็ได้แจ้งไปยังทาง กทม. แล้ว และทาง กทม. ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางขุนเทียน เข้าตรวจสอบว่าเป็นจริงอย่างที่ตนแจ้งเรื่องไปหรือไม่ ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกล่องแดงมาติดตั้งเอาไว้ และลงความเห็นว่า ไม่น่ารำคาญ จึงยังไม่มีการย้ายสุนัขออกนอกพื้นที่
หลังจากเหตุการณ์ที่ตนร้องเรียนไปยัง กทม.เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ทางบ้านฝั่งตรงข้าม เป็นผู้กำกับภาพยนตร์หนังดัง ได้เริ่มเอาคืน เรื่องที่ตนเหมือนไปหาเรื่อง โดยช่วงแรก จะนำเอาปัสสาวะสุนัข มาเท รดหน้าบ้านตน หลังจากนั้น ตนเลยต้องไปติดกล้องวงจรปิดที่หน้าบ้าน 2 ตัว เหตุการณ์นี้ก็เลยไม่เกิดขึ้นอีก ภายหลังทางบ้านที่เป็นผู้กำกับหนัง เลยกลั่นแกล้งด้วยการจอดรถและสตาร์ทรถเอาไว้ โดยไม่มีเหตุผล และก็จะทำพฤติกรรมแบบนี้ใส่บ้านตนมาโดยตลอด ซึ่งสร้างความรำคาญให้ตนมาตลอด
โดยเมื่อวานนี้ (04 ก.ค. 60) ทางผู้กำกับหนัง ได้นำรถมาจอดที่หน้าบ้าน และสตาร์ทรถ ตนเลยยืนมองจากในบ้าน สักพักทางผู้กำกับ ก็ได้เดินข้ามฝั่งมา และถามว่า มองหน้าหาเรื่องหรือ ให้เอาเวลาไปทำมาหากินดีกว่าไหม หลังจากนั้นทางผู้กำกับหนัง ก็เดินข้ามฝั่งมาบอกให้ตนเอากล้องวงจรปิดออก เพราะมันส่องบ้านของ ตนเลยบอกว่า กล้องไม่ได้จับที่บ้านของผู้กำกับหนัง แต่กล้องมันหมุนได้ บางครั้งมุมมันเลยหมุนไปหยุดตรงบ้านของทางผู้กำกับหนัง อาจทำให้ทางผู้กำกับไม่พอใจ เลยพูดเหมือนขู่ว่า ลูกปืนราคา 3.80 บาท อย่าเอาชีวิตมาเสี่ยงเลย ก่อนที่ผู้กำกับจะปาของที่อยู่บนโต๊ะ มาใส่ภรรยาตน ทำให้ไม่พอใจ เลยพูดว่า มึงเจอกูตัวต่อตัวไหม ทำให้ทางผู้กำกับหนังไม่พอใจ เลยเดินกลับบ้านไปหยิบปืนออกมา ตนเห็นท่าไม่ดี เลยหนีขึ้นบ้าน ก่อนที่ทางผู้กำกับจะยอมกลับบ้านไป
ทางนายอนันต์ ยังบอกว่า หลังจากนี้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะทางตำรวจ ก็รับลงบันทึกประจำวันเอาไว้ แต่ยังไม่ได้ให้แจ้งความ และบ้านตรงข้ามก็ยังไม่ย้ายหมาออกนอกพื้นที่ รวมถึงที่ชอบสตาร์ทรถทิ้งไว้ ก็ยังกระทำอยู่เช่นเดิม
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าว ยังได้เข้าไปสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น กับทางบ้านฝั่งตรงข้ามของผู้กำกับหนัง ปรากฏว่า วันนี้ทางผู้กำกับหนังไม่อยู่บ้าน อยู่แต่ทางน้องสาว จึงให้ข้อมูลกับเราว่า บ้านของนายอนันต์ จะชอบหันกล้องและส่องกล้องออกมาที่บ้านตนและเพื่อนบ้าน เพื่อสอดส่อง จนคนบ้านข้างๆ จะต้องสร้างที่กั้นมากั้นเอาไว้ เพราะกันไม่ให้นายอนันต์ ส่องเข้าไปภายในบ้าน
ส่วนสาเหตุเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน เพราะ หลังจากที่พี่ชายตนกลับบ้านมา นายอนันต์ก็มองหน้าแบบหาเรื่องนานกว่าครึ่งชั่วโมง พี่ชายเลยเดินเข้าไปหาเพื่อจะถามว่า จะเคลียร์ปัญหาอะไรหรือเปล่า ถึงมองหน้าแบบนี้ อนันต์ก็ตอบกลับว่า ตนอยู่ในบ้านของตน จะมองใครก็ได้ ทางพี่ชายเลยบอกว่า ให้หันกล้องออกเพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล อีกฝั่งจึงบอกว่ากล้องของตนหมุนได้ พี่ชายเลยโมโห เพราะคนเราความอดทนมีจำกัด เลยปาของใส่
ประเด็นเรื่องปืน ทางน้องสาวผู้กำกับบอกว่า เป็นกระเป๋าทำงานของพี่ชายตน ที่จะใช้ทำงานทุกวัน ทางอนันต์ คงจะเกิดอาการวิตกกังวลไปเอง เพราะในซอยนี้ ทางอนันต์ได้แจ้งเจ้าหน้าที่รัฐ ให้ดำเนินการกับเพื่อนบ้านเกือบทุกหลัง ตนก็ไม่ทราบว่าเขาจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร ส่วนสุนัข ชื่อเจ้าซินแบต ก็เป็นสุนัขที่ได้รับการฝึกฝนมาแล้ว 1 ปี จะเห่าเฉพาะเมื่ออยู่ในที่ของตัวเอง จะไม่เห่าหรือกัดคนแปลกหน้า
นอกจากนี้ เพื่อนบ้านให้ข้อมูลที่ตรงกัน คือ ทางบ้านนายอนันต์ จะเป็นบ้านที่จะมีปัญหากับทุกบ้าน อย่างเช่นบ้านข้างๆ เคยโดนกทม. เข้ามาตรวจสอบเรื่องย่างไก่ขาย ทำให้ควันเข้าบ้านนายอนันต์ รวมไปถึงข้างบ้านอีกฝั่ง เคยโดยแจ้งไปที่บริษัทที่เจ้าของบ้านทำงาน หาว่าทุจริตในงาน จนทำให้โดนไล่ออกจากงาน ทั้งหมดที่ออกมาให้ข้อมูล ก็บอกว่า อยู่กันมานาน 20-30 ปี ไม่เคยมีปัญหา แต่เมื่อบ้านนายอนันต์ ย้ายมาอยู่แค่ 2 ปี กลับมีปัญหากับคนทั้งซอย