ช็อกยายฆ่ายาย แค้นประจานหนี้ 5 พัน แฉอดีตเดนคุก อึ้งรองเท้าพลิกคดี (คลิป)

เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 16 ม.ค. 65 ร.ต.อ.ฉลองชัย ชาปาน รอง สว.(สอบสวน) สภ.ย่านตาขาว ได้รับแจ้งเหตุพบศพคนถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดเสียชีวิต ภายในสวนยางพารา พื้นที่บ้านหนองเตย หมู่ 5 ต.ย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง

ที่เกิดเหตุในสวนยางพาราห่างจากถนนสายบ้านหนองเตย-ทุ่งชน เข้าไปในสวนประมาณ 150 เมตร ที่บริเวณโคนต้นยางพบศพ นางละมุน สุขลิ้ม หรือ ป้าศรี อายุ 78 ปี สภาพนอนหงายหน้าจมกองเลือด สวมชุดกรีดยางพารา พลิกศพพบบาดแผลถูกของมีคม เบื้องต้นน่าจะเป็นมีดพร้า ขวาน หรือมีดกรีดยาง ถูกฟันเข้าที่ใบหน้าจำนวนหลายแผลจนเป็นบาดแผลฉกรรจ์ บนใบหน้ายังพบรอยฟกซ้ำจำนวนหลายแห่งอีกด้วยกัน

ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบว่า ไฟฉายคาดศีรษะ มีดกรีดยางพารา หินลับมีด ถัง และหมวกของผู้ตายตกเกลื่อนอยู่ไม่ห่างศพ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ใกล้กันพบรถจักรยาน 1 คันเป็นของผู้ตายจอดอยู่

ภาพกล้องวงจรปิดก่อนถึงที่เกิดเหตุ เวลา 23.00 น. สามารถจับภาพ นางอารมณ์ ผู้ต้องสงสัยเดินสวมเสื้อสีดำ กางเกงสีดำ สวมไฟส่องสว่างบนศีรษะ เข้าไปในสวนยาง ที่เกิดเหตุ

หลังจากนั้นเวลา 23.30 น. ภาพกล้องวงจรปิดตัวเดิมจะสามารถจับภาพของนางละมุน สุขลิ้ม ผู้เสียชีวิต สวมเสื้อสีเหลืองขี่จักรยาน เข้าไปยังสวนยางที่เกิดเหตุ

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ ทราบชื่อคือ นางอารมณ์ หรือ ยม แพะนา อายุ 70 ปี ผู้ต้องสงสัย มาสอบปากคำที่โรงพัก

พ.ต.อ.พูนศักดิ์ เซ็งแซ่ ผกก.สภ.ย่านนตาขาว ให้ข้อมูลว่า จากการให้ปากคำในครั้งแรกผู้ต้องสงสัยได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จากนั้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ไปตรวจค้นบ้านผู้ต้องสงสัย พบหลักฐานชิ้นสำคัญ เสื้อที่ผู้ต้องสงสัยสวมไปในคืนก่อเหตุ มีพยานให้การว่าเห็นผู้ต้องสงสัยใส่เดินออกไปที่สวนยางที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ตรวจพบว่ามีคราบเลือดติดอยู่ ต้องนำไปตรวจพิสูจน์หลักฐานว่า DNA คราบเลือดที่ติดอยู่นั้นตรงกับผู้ตายหรือไม่

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำหลักฐานมาให้ผู้ต้องสงสัยดูแล้วเค้นสอบอีกครั้ง นางอารมณ์ ให้การรับสารภาพว่าเป็นลูกหนี้ของผู้ตายและได้ยืมเงินผู้ตายมาเป็นจำนวน 5,500 บาท ไม่มีเงินคืนให้กับผู้ตาย และผู้ตายมาทวงทุกวัน ซึ่งผู้ตายได้ต่อว่า และนำเรื่องไปพูดต่อว่าให้ชาวบ้านฟังเสีย ๆ หาย ๆ ทำให้ไม่พอใจจึงตัดสินใจก่อเหตุ ใช้มีดพร้าฟันผู้ตายจนเสียชีวิต

เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อ ขอศาลจังหวัดตรังอนุมัติหมายจับในข้อหาฆ่าผู้อื่นต่อไป

ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้นำศพของนางละมุน สุขลิ้ม ตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดที่บ้าน หมู่ 5 ต.ย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง นางบำเพ็ญ นิรันรัตน์ อายุ 75 ปี น้องสาวของผู้ตาย เล่าว่า นางยมกับผู้ตายสนิทกัน เพราะนางยมมาหาผู้ตายเป็นประจำที่บ้านเกือบทุกวัน นางยมไม่ใช่คนที่นี่แต่มาเช่าบ้านอยู่ที่นี่ได้เกือบ 10 ปีแล้ว เมื่อหลานเดือนก่อน นางยมมายืมเงินผู้ตายไป 5,500 บาท แต่ไม่ยอมคืน ผู้ตายก็บ่นและทวงมาตลอด หนำซ้ำนางยมยังมาขอเงินอยู่ในเรื่อย ๆ ซึ่งผู้ตายก็ไม่ยอมให้ เพราะว่าของเก่ายังไม่คืน

ล่าสุดมาขอยืมผู้ตายอีก 200 บาท แต่ผู้ตายไม่ให้ ภายหลังผู้ตายใจอ่อนจะให้ 100 บาท แต่นางยมไม่ยอมรับเงินไป ผู้ตายทราบว่า นางยมติดหนี้ชาวบ้านรายอื่นเหมือนกันแต่ไปคืนเงินให้คนอื่นก่อน แล้วไม่ยอมคืนผู้ตาย ผู้ตายจึงไปบ่นให้เพื่อนบ้านฟัง เพราะอยากได้เงินคืนกัน เมื่อนางยมทราบเรื่องก็โกรธแค้นจนมีชาวบ้านได้ยินนางยมพูดในสวนยางว่าจะฆ่านางละมุนให้ตาย จากนั้นไม่กี่วันต่อมานางยมก็ก่อเหตุฆ่านางละมุนจริง ตนต้องการให้นางยมมาขอขมาศพของผู้เสียชีวิตในสิ่งที่ทำลงไป

นายวันชัย หนูพินิช น้องชายของผู้เสียชีวิต บอกว่า นางยมได้มาเช่าบ้านอยู่ภายในหมู่บ้านประมาณ 10 ปีได้แล้ว มีอาชีพเป็นคนเก็บขี้ยางขายมีรายได้วันละ 300 บาท ก่อนเกิดเหตุตนทราบว่านางยมได้มีปากเสียงกับผู้ตาย เรื่องเงินที่นางยมยืมผู้ตายไปแต่ไม่ยอมคืน จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้ตายได้เข้าไปกรีดยางในสวนยางช่วงเวลาประมาณ 5 ทุ่ม แล้วไม่กลับออกมาอีกเลย ช่วงเวลาประมาณตี 4 ของวันนี้ขณะนั้นตนยังไม่ทราบว่านางละมุนถูกฆ่า ตนได้เห็นนางยมเดินออกมาจากสวนยางเพียงคนเดียว ผ่านหน้าบ้านของตน

ในขณะนั้นนางยมอ้างว่าไปหายาเส้นมา ขณะนั้นตนผูกเชือกรองเท้าอยู่จึงไม่ได้สนใจ หลังจากนั้นมีหลานมาบอกว่านางละมุนถูกฆ่าในสวนยาง แว๊บแรกในใจจึงคิดว่านางยมต้องเป็นผู้ก่อเหตุแน่ ๆ เพราะว่ามีปัญหาเรื่องเงินกับพี่สาวของตนมาก่อน ประกอบกับตอนนั้นมีเพียงนางยมที่ตนเห็นว่าเดินออกมาจากสวนยางเพียงคนเดียวในคืนเกิดเหตุ