"เม พรีมายา" ย่องเงียบมอบตัวกับตำรวจ ย้ำชัด ไม่มีเจตนาหลอกลวงประชาชน

"เม พรีมายา" ย่องเงียบมอบตัวกับตำรวจ หลังเจ้าหน้าที่แจ้งให้รางวัล 5 แสน สำหรับผู้แจ้งเบาะแส ย้ำสั้นๆ ไม่มีเจตนาหลอกลวงประชาชน

วันที่ 19 ม.ค.66 สืบเนื่องจากกรณีตำรวจนำกำลังเข้าตรวจค้น บ้านเลขที่ 189/24 หมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งย่านบางนา ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นบ้านพักของ "เม พรีมายา" หรือ พิชญ์รี ตันติวิทย์ ซีอีโอ เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ภายใต้ชื่อแบรนด์ PRIMAYA (พรีมายา) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 41/2566 ลงวันที่ 17 ม.ค. ในความผิด นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน หลังมีการโพสต์ลักษณะเชิญชวนอ้างว่าลงทุน 6,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน จะได้เงิน 15 ล้านบาท

จากการตรวจค้นไม่พบ "เม พรีมายา" อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว มีเพียงแม่บ้านเป็นผู้ดูแลและพักอาศัย ซึ่งได้แจ้งกับตำรวจว่า เม และนายสิทธานต์ (สงวนนามสกุล) หรือ "แซก" แฟนหนุ่ม ได้เดินทางออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่ไม่ได้ระบุว่าจะเดินทางไปที่ใด

ต่อมาตำรวจได้ประกาศมอบรางวัลสำหรับผู้ที่ให้เบาะแส "เม พรีมายา" จนนำไปสู่การจับกุม โดยจะมีเงินให้ 500,000 บาท

ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. มีรายงานว่า "เม พรีมายา" ได้เดินทางเข้ามามอบตัว ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท) โดยเดินทางมาพร้อมกับทนายความ โดยเมกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า โวันนี้ได้เดินทางมามอบตัวตามหมายจับ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งเมก็เป็นคนทำงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เมได้เรียนรู้และปรับปรุง พัฒนามาโดยตลอดจนทำให้มีวันนี้ และอย่างวันนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งข้อผิดพลาดที่เมพร้อมที่จะแก้ไข และทำไปตามกระบวนการของกฎหมาย อย่างไรก็ตามข้อผิดพลาดที่ว่าบางอย่าง เด็กคนหนึ่งที่เติบโตมาก็ทำงานไปเรื่อยๆ อาจไม่รู้ว่าบางอย่าง มีการผิดข้อตกลงหรือผิดกติกาอย่างไร ซึ่งก็ต้องเรียนรู้กันไป เช่นเรื่องบางเรื่องตนเองก็ไม่ทราบจริงๆ แต่ท้ายที่สุดแล้วตนเองก็เป็นคนทำงาน ที่มีความบริสุทธิ์ใจและไม่ได้มีเจตนาในการทุจริต

ส่วนกรณีที่เกิดขึ้น ในเรื่องของการโพสต์ข้อความลงทุน 6,000 แล้วได้ผลตอบแทนนั้น จริงๆ แล้วไม่ใช่คำชวนเชื่อ หรือคำโฆษณาใดๆ ในส่วนนี้ได้มีการให้ถ้อยคำกับทางตำรวจไปเบื้องต้นแล้ว ซึ่งในตัวของธุรกิจ ก็ไม่ได้มีการสร้างเรื่อง หลอกลวงหรือชวนเชื่อ ทางนี้อยากขอให้รอ ไปตามขั้นตอนของกระบวนการ ซึ่งวันนึงทุกอย่างก็จะประจักษ์ขึ้น ก็จะได้คำตอบเอง อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าไม่มีใครร่วมสร้างเรื่องราวใดๆ รวมถึงตัวของน้องนิ่ม ทุกอย่างเกิดจากมูลความจริงที่เมได้เข้าใจและสื่อสารออกไป ทั้งนี้ขอยังไม่พูดอะไรไปมากกว่านี้ นอกจากนี้ขอยืนยันว่าไม่มีธุรกิจที่ผิดกฎหมายนำเงินมาให้เราร่วมลงทุน

ในส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าผลกำไรนั้นอาจจะไม่ตรงตามข้อเท็จจริงในส่วนนี้ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการ แต่ด้วยความที่หนูอยู่หน้าบ้านก็เลยไม่รู้รายละเอียดอะไรมากและ พูดอะไรได้อย่างกระจ่าง ซึ่งตนก็เป็นคนทำงานคนหนึ่งเป็นมนุษย์ทำงานคนหนึ่ง ซึ่งเรื่องบางเรื่องอาจจะตอบในรายละเอียดไม่ได้ทั้งหมด แต่ขอยืนยันว่าไม่เคยมีคำว่าหลอกลวงประชาชนในการทำงานของตน ตลอดระยะเวลาเจ็ดปี เมสู้ชีวิตหนักมาก มีแต่สร้างสิ่งดีดีและคืนสู่สังคมด้วยซ้ำ