หนุ่มซิ่งกระบะปาดเก๋งพ่อลูกอ่อนไหว้ขอโทษ คู่กรณีไม่เอาผิด วอนชาวเน็ตหยุดด่าลามยันบุพการี

19 ก.ค. 62
จากกรณีมีผู้ใช้ เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปวิดีโอกล้องติดหน้ารถยนต์ ภาพเหตุการณ์ พร้อมข้อความบรรยายถึงเหตุการณ์ ขณะที่กำลังขับรถยนต์มาพร้อมกับภรรยาและลูกสาว วัย 2 ขวบ มาจากห้างบิ๊กซีแจ้งวัฒนะ เพื่อจะกลับมาบ้านในซอยสุขาประชาสรรค์ (วัดกู้) ย่านปากเกร็ด ช่วงถนนเบี่ยงกำลังมีการก่อสร้างทำรถไฟฟ้า ก่อนขึ้นสะพานพระรามสี่ มีรถกระบะสีขาวหลังคาสูง ลักษณะเป็นรถส่งของ ขับมาปาดหน้ารถของตนเอง จนภรรยาและลูกสาวร้องเสียงดังด้วยความตกใจ จนมาถึงบริเวณห้าแยกปากเกร็ด รถคู่กรณีจึงได้จอด จึงมีการเจรจากัน ตนเองจึงบอกว่าให้ไปคุยกันที่สถานีตำรวจ แต่คนขับรถกระบะก็ปฎิเสธ ทั้งนี้ ภรรยาได้กลิ่นหล้าเบียร์ ตอนที่เปิดกระจกพูดคุยกับคู่กรณี ก่อนรถคู่กรณีจะขับรถปาดไปมาอีกหลายครั้ง (อ่าน : เปิดใจกระบะสายซิ่ง บี้ปาดหน้าเก๋งแม่ลูกอ่อนแค่สั่งสอน สุดทนถูกไล่ตบไฟใส่)
ภาพจากคลิปขณะเกิดเหตุ
ล่าสุด วันที่ 19 ก.ค. 62 เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายธนพล เหลาแตง อายุ 24 ปี คนขับกระบะรับจ้าง เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ด้านนายรุจิพันธ์ พิรุฬห์ภาวดี อายุ 34 ปี ผู้เสียหายที่ขับเก๋ง เข้าพบตำรวจ และเจรจากับคู่กรณี
คู่กรณีไหว้ขอโทษ
เบื้องต้น นายธนพล รับทราบข้อกล่าวหา และยกมือไหว้ขอโทษคู่กรณี พร้อมกล่าวว่า ตนก็อยากบอกประชาชนว่าการใช้รถใช้ถนน อะไรยอมได้ก็ยอม ขอโทษกันไปจะได้จบ ตนยอมรับว่าทำผิด แต่ในโซเชียลไปด่าถึงครอบครัว มันก้าวก่ายกันเกินไป จะด่าตนก็ด่าคนเดียว ปัญหาตนเป็นคนก่อ แต่ด่าไปถึงครอบครัวเพื่ออะไร
นายธนพล เหลาแตง คนขับกระบะรับจ้าง
นายรุจิพันธ์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า คู่กรณีได้เข้ามาขอโทษและสำนึกผิด เป็นช่วงวัยรุ่นก็มีโมโหฉุนเฉียว จนไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ฝากเตือนคนที่ใช้ถนน กรณีนี้ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ไม่ได้มีโทษปรับอย่างเดียว อาจมีโทษจำคุกด้วย ตอนนี้ลูกสาว 2 ขวบ ก็ปกติดี ยังเล็กอยู่ ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
นายรุจิพันธ์ พิรุฬห์ภาวดี ผู้เสียหายที่ขับเก๋ง
พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด กล่าวว่า เบื้องต้น แจ้งข้อหาขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้อื่น แม้คู่กรณีจะไม่ติดใจเอาความ แต่เนื่องจากเป็นความผิดจราจรต้องถูกดำเนินคดี โทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และอาจต้องถูกยึดรถ แต่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ซึ่งจะต้องสอบปากคำอย่างละเอียด ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งศาลแขวงจังหวัดนนทบุรีดำเนินคดีต่อไป  

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ