เชียงใหม่อ่วมหนัก ค่าฝุ่น PM2.5 พุ่งสูงถึง 507 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เข้าขั้นวิกฤติ ตัวแทนยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ ให้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัย
วันนี้ (9 ก.พ.) ที่ด้านหน้าทางขึ้นศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายวิทยา ครองทรัพย์ ผู้ประสานงานสภาลมหายใจภาคเหนือ นำเอกสารภาพถ่ายทั้งจากบนเครื่องบิน จากดาวเทียม และข้อมูลการวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ตำบลหางดง อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเวลา 07.00 น. ปริมาณฝุ่น PM2.5 ในอากาศพุ่งสูงถึง 507 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เข้าขั้นวิกฤต
หลังมีการเผาป่าในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติออบหลวงต่อเนื่องหลายวัน จนทำให้เครื่องวัดเซ็นเซอร์รายนาทีของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มช.ให้ค่าสีน้ำตาลสูงสุดตามสเกลมาตรฐาน USAQI ที่ระดับเกินจากความสามารถในการวัดค่าหรือ หมายถึง ค่าฝุ่นรายนาทีใกล้เรียลไทม์ของเครื่องวัดชนิดนี้มีค่าทะลุสูงกว่า 500USAQI อันเป็นเพดานวัดค่าอากาศสูงสุดที่กำหนดไว้ เทียบกับการอ่านค่ารายชั่วโมงจากเครื่องวัด Dustboy ซึ่งตั้งใกล้เคียงกันที่สถานี รพ.ฮอด เมื่อเวลา 07.00 น. วัดได้ 283 ไมโครกรัม/ลบ.ม. โดยขอเรียกร้องให้จังหวัดเชียงใหม่ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยอำเภอฮอด และเร่งดูแลสุขภาพพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง
นายวิทยาเปิดเผยว่า เช้านี้คุณภาพอากาศในพื้นที่อำเภอฮอดซึ่งเป็นพื้นที่ตอนใต้ของจังหวัดเชียงใหม่อยู่ในขั้นวิกฤต หลังจากที่มีการลักลอบเผาป่าในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติออบหลวงต่อเนื่องหลายวัน และปริมาณ PM2.5 ในพื้นที่บางจุดสูงถึง 400 กว่าไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จึงได้มายื่นหนังสือถึงนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้ประกาศพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัยเพื่อจะได้เร่งเข้ามาควบคุมไฟป่าและดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่อำเภอฮอด
ส่วนการเกิดฝุ่นควันในพื้นที่อำเภอฮอด จากการติดตามภาพถ่ายดาวเทียมพบว่าจุดที่มีการลักลอบเผาป่านั้นลักษณะของการเผาจะอยู่ไม่ไกลจากถนนสายหลัก และนักวิชาการพบว่าเป็นการเผาในพื้นที่เดิมซ้ำๆ กันหลายปีและอยู่ในพื้นที่ป่าอุทยานก็อยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบและแก้ไขปัญหานี้ด้วย
ต่อมาทางนายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ ได้เป็นตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่มารับหนังสือดังกล่าว โดยทางนายกริชสยามเผยว่า ในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติออบหลวงพื้นที่รอยต่อระหว่างอำเภอจอมทองและอำเภอฮอด สภาพอากาศเข้าขั้นวิกฤตตอนนี้ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินประมาณ 120 นาย เดินเท้าเข้าไปดับไฟป่า พร้อมทั้งมีการสนับสนุนการดับไฟป่าทางอากาศโดยเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรฯ จำนวน 2 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ KA32 ของปภ. ซึ่งวางแผนกันเอาไว้ว่าจะควบคุมจุดความร้อนให้ได้ทั้งหมดในวันนี้
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์หมอกควันในจังหวัดเชียงใหม่เริ่มกลับมาขมุกขมัวอีกครั้ง หากมองมาจากบนดอยสุเทพจะเห็นว่ามีฝุ่นพิษ PM2.5 ปกคลุมอยู่เต็มพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นต่ำลง และหากมองจากด้านล่างขึ้นไปบนดอยสุเทพก็แทบจะไม่เห็นดอยสุเทพแล้วเห็นแต่หมอกควันปกคลุม นอกจากนี้ยังมีภาพบนเครื่องบินที่ชาวบ้านถ่ายไว้ขณะที่เครื่องบินบินอยู่เหนือพื้นที่อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ที่จะเห็นได้ว่ามีไฟป่าพวยพุ่งขึ้นจากป่าอย่างเห็นได้ชัดและเยอะมาก