รวบได้แล้ว สาวแทงคอเด็กวัย 11 ขวบ อ้างอารมณ์ไม่ดี นึกว่าโดนหัวเราะเยาะใส่ เลยสะบัดมือไปโดน ตำรวจนำตัวไปฝากขัง ยังสรุปไม่ได้ว่าป่วยทางจิตหรือไม่
จากกรณีเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) อายุ 11 ปี เหยื่อที่ถูกคนร้ายเป็นหญิงรายหนึ่ง ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงเข้าที่ลำคอ บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งย่านถนนเพิ่มสิน เมื่อช่วงหัวค่ำของคืนวันเสาร์ที่ (11 ก.พ.) ต่อมา นายกิติพัฒน์ ตันโช อายุ 41 ปี พ่อของเด็กหญิงเอ (ผู้บาดเจ็บ) เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บางเขน กระทั่งสามารถออกหมายจับ นางสาวบุญทิพย์ ดวงแก้ว อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 59/2566 วันที่ 14 ก.พ.66 ในข้อหาพกพาอาวุธมีดและทำร้ายร่างกายผู้อื่น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 16 ก.พ. ที่สน.บางเขนพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางเขน ได้ควบคุมตัวนางสาวบุญทิพย์ ดวงแก้ว อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาเพื่อไปฝากขังยังศาลแขวงดอนเมือง โดยขณะมีถูกคุมตัวขึ้นรถเพื่อไปศาล นางสาวบุญทิพย์ ระบุว่า ในวันเกิดเหตุเกิดจากความเข้าใจผิดคิดว่าน้องอายุ 11 ปีหัวเราะใส่ตนเองเนื่องจากที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 5-6 ปีที่ตนเองพักอาศัยอยู่ในย่านดังกล่าว ก็เคยถูกคนแถวนั้น ชอบพูดจาถากถางหรือ ดูถูกด้วยสายตา แต่ก็ไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน เก็บกดเอาไว้คนเดียวมาตลอด จนมาวันเกิดเหตุตนเองอยู่ในอารมณ์ไม่ดี เมื่อเห็นน้องและแม่น้องเดินมาด้วยท่าทีหัวเราะจึงเข้าใจว่าหัวเราะใส่ จึงเดินถือมีดสะบัดไปลอยๆ ไม่ได้ตั้งใจที่จะเอามีดไปแทงใคร
นางสาวบุญทิพย์ ยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีอาการทางจิต แต่ก็มีบ้างที่ควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้แต่ไม่ได้มีการรักษาหรือกินยาแต่อย่างใด ตอนนี้ตนเองรู้สึกสำนึกผิดกับเหตุการณ์ที่ได้ทำลงไป จึงอยากขอโอกาสในการประกันตัวเพื่อออกมาชดใช้ค่าเสียหายให้กับทางผู้เสียหาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษผ่านสื่อมวลชนไปถึงครอบครัวของน้องอายุ 11 ปี พร้อมทั้งผู้ปกครองกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตนเองยืนยันว่าหลังจากจบเรื่องนี้จะไม่ใช้ความรุนแรงหรือกลับมาก่อเหตุในลักษณะแบบนี้อีก
ด้าน พันตำรวจเอกอนันต์ วรสาตร์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางเขน ระบุว่า เบื้องต้นขณะนี้พนักงานสอบสวนยังคงรอใบรับรองผลชันสูตรจากทางแพทย์ว่าบาดแผลดังกล่าวมีความรุนแรงมากน้อยเพียงใด รวมถึงบริเวณที่โดนเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้หรือไม่ หากพบว่า เข้าข่ายพนักงานสอบสวนก็สามารถแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้รับบาดเจ็บสาหัส หรือข้อหาอื่นเพิ่มเติมในภายหลังได้
ขณะที่ในส่วนของอาการป่วยทางจิตจากการสอบถามทางญาติไม่พบว่ามีเอกสารรักษาอาการป่วยทางจิตเวช แต่จากการสอบปากคำตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาพบว่า ผู้ต้องหามีอารมณ์แปรปรวน ควบคุมตนเองไม่ได้ในบางครั้ง แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นผู้ป่วยทางจิตเวชหรือไม่ ต้องรอผลการวินิจฉัยจากแพทย์อีกครั้ง โดยในวันนี้ได้มีการคุมตัวไป ขออำนาจศาลฝากขังต่อศาลแขวงดอนเมือง