จาก 2 ล้านเหลือ 9 บาท! สามีภรรยาเสียท่ามิจฉาชีพถูกหลอกกดลิงก์ทำสูญเงิน

เสียท่ามิจฉาชีพ! สามีภรรยาถูกมิจฉาชีพแอบอ้างสายการบิน หลอกกดลิงก์สูญเงิน 2.5 ล้าน ทิ้งเงิน 9 บาทติดบัญชีไว้ให้ดูต่างหน้า

วันที่ 3 มีนาคม 2566 เวลา 14.00 น. ร.ต.ท.อรรฆฤทธิ์ เย็นสวัสดิ์ รองสว.สอบสวนสภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจากนายสุริยงค์ สงวนนามกุล อายุ 75 ปี พร้อมด้วยภรรยาอายุ 74 ปี นักธุรกิจชาวจ.อุดรธานี เข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่าเมื่อเวลาประมาณ 12.05 น. วันนี้ ถูกแก๊งมิจฉาชีพอ้างเป็นสายการบินมีชื่อแห่งหนึ่ง หลอกส่งกดลิงก์เพื่อให้กดรับสิทธิคูปองเที่ยวบินฟรี 1 ใบ แบบไม่มีกำหนดเวลา โดยส่งผ่านมาทาง SMS โทรศัพท์ของภรรยาตน จนหลงเชื่อ เนื่องจากใช้บริการสายการนี้เป็นประจำ ภรรยาตนจึงกดลิงก์ที่แก๊งมิจฉาชีพส่งมาให้ โดยการให้แอดเป็นเพื่อนและภรรยาตนส่งข้อความไปขอบคุณแก๊งมิจฉาชีพ

ผ่านไป 15 นาที โทรศัพท์ภรรยาดับไม่รู้สาเหตุ และเปิดไม่ได้จึงรู้ว่าโดนแก๊งมิจฉาชีพหลอกเข้าแล้ว และเงินในบัญชีธนาคารของตนเองและภรรยา ถูกโอนออกไปแบบอัตโนมัติ 5 ครั้ง รวมจำนวนเงิน 2,505,000 บาท และเหลือเงินในบัญชีธนาคารเพียง 9 บาท โดยมีหลักฐานเอกสารการโอนเงินที่ทางธนาคารส่งแจ้งมาให้ทางอีเมล ซึ่งมีชื่อผู้รับอยู่ 3 ราย คาดว่าเป็นคนรับเปิดบัญชีม้าให้กับแก๊งมิจฉาชีพรายนี้ เหตุเกิดที่สำนักงานบริษัทของตนเอง ตั้งอยู่บน ถ.โพศรี เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงมาแจ้งความให้ตำรวจช่วยติดตามจับแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้มาดำเนินคดี และนำเงินของตนเองและภรรยากลับคืนมาให้ด้วย

นายสุริยงค์ ผู้เสียหายเปิดเผยว่า หลังรู้ว่าโดนหลอกได้โทรศัพท์ไปแจ้งไปทางศูนย์ของธนาคารดังกล่าว ที่กรุงเทพฯ ควบคุมบัตรเครดิตลูกค้าเพื่ออายัติบัตรและบัญชี โดยทางเจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่ามันเป็นระบบการโอนอัตโนมัติ จากนั้นเงินก็ถูกโอนไปอีกหลายครั้งรวมจำนวน 2,505,000 บาท ในขณะที่ตนให้พนักงานของตนช่วยพิมพ์อายัติบัญชีเงินในบัญชีของตนและภรรยาก็ถูกโอนไปแบบไม่หยุดติดต่อกัน ส่วนตนก็โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ธนาคารสาขาอุดรธานี และเจ้าหน้าที่ศูนย์บัตรเครดิตส่วนกลางของธนาคาร ให้ช่วยระงับการโอนเงินออกจากบัญชีโดยใช้โทรศัพท์ 2 เครื่อง แต่ก็ไม่เป็นผล

หากเป็นแบบนี้เราก็ลำบาก แสดงว่าเทคโนโลยีของเราสู้มิจฉาชีพไม่ได้ และคิดว่าแก๊งนี้อยู่ต่างประเทศ เพราะเงินที่เบิกออกจากปลายปลายทางเป็นเวลา 5 โมงเย็น ซึ่งเวลาต่างกับบ้านเราประมาณ 4-5 ชั่วโมง หลังเกิดเหตุทำให้ตนถึงกับขาอ่อน เพราะเงินที่ถูกหลอกไปคงได้กลับคืนมายาก และเป็นเงินเก็บสะสมของตนและภรรยาเหลือติดบัญชีเพียง 9 บาท

นายสุริยงค์ เปิดเผยต่อว่าฝากถึงธนาคารและทางรัฐบาล ให้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่าแก๊งมิจฉาชีพมาใช้หน่อย เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าและประชาชน ส่วนแก๊งมิจฉาชีพพวกนี้ไม่สมควรเกิดมาเป็นคน เพราะการหลอกลวงการคดโกงคนอื่นมันไม่ดี และอยากฝากถึงประชาชนทั่วไปว่าของฟรีไม่มีในโลก หากเป็นตนก็ไม่กดแต่นี่ภรรยาดันไปกดรับลิงก์ และบางทีเราก็ไม่รู้เพราะอารมณ์มันพาไป และบางคนก็ถูกหลอกไม่รู้ตัว อย่ามัวแต่ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มันไม่มีผลดี ให้เงยหน้าขึ้นมาดูสังคมแล้วเดินไปข้างหน้าจะดีกว่า ส่วนคนที่ทำขอร้องให้หยุด