นิกกี้ ณฉัตร - ก้อย อรัชพร เปิดใจ รับตอนนี้เลิกกันแล้ว จบกันด้วยดี หลังคบหาดูใจกันนาน 3 ปี สาเหตุใช้ชีวิตไม่ได้สื่อสารกันตรงไปตรงมาตั้งแต่แรกและเรื่องของนิสัยส่วนตัว ยืนยันไม่มีเรื่องมือที่สาม
กลายเป็นประเด็นที่ถูกหลายคนจับตา สำหรับเรื่องความสัมพันธ์ของ นิกกี้ ณฉัตร และ ก้อย อรัชพร ที่มีข่าวออกมาว่าทั้งคู่กำลังมีปัญหาความรัก จนเกิดแฮชแท็ก #นิกกี้ก้อย ล่าสุด นิกกี้-ก้อย เปิดใจผ่านช่องยูทูบ Nickynachat ยอมรับว่าเลิกกันแล้ว เป็นการจบกันด้วยดี หลังคบหาดูใจกันนาน 3 ปี
ก้อย : “อยากจะบอกให้ทุกคนรู้โดยทั่วกันว่าเราตกลงกันว่าเราสองคนเลิกกันแล้ว แต่เป็นการเลิกกันด้วยดี เราก็คุยในวันที่เลิกกันด้วยดี แต่มันอาจจะมีการจัดการอารมณ์กันไม่ได้ สาเหตุหลักคือการได้ลองใช้ชีวิตดูกันแล้วมันก็เหมือนกับว่าเราไม่ได้สื่อสารกันอย่างตรงไปตรงมาจริงๆตั้งแต่แรก มันเลยทำให้เกิดปัญหาขึ้นเรื่อยๆ มีจุดยืน มีความคิดของตัวเองที่มันค่อยๆปรับกันแล้วมันปรับกันไม่ได้จริงๆ ก็เลยรู้สึกว่างั้นเราแยกไปอยู่กับตัวเอง ไปลองใช้ชีวิตในแบบของตัวเองดีกว่า”
นิกกี้ : “ก็เลิกกันด้วยดีนะครับ เรายังคุยกันดี ไม่มีการทะเลาะกัน ไม่มีการขึ้นเสียง ใช้อารมณ์กัน คุยกันด้วยความรัก ผมก็มีน้ำตานะตอนเลิก แต่ร้องไห้ด้วยความรัก เราเองก็แอบมีน้ำตาเหมือนกันแต่ไม่ให้เขาเห็น ก็แอบไปมีน้ำตากับหมา ให้เวลาเขาอยู่กับตัวเอง ก้อยที่ผ่านมาทำงานเยอะ”
ก้อย : “จริงๆทำงานเยอะด้วยกันทั้งคู่ แต่ก็นั่นแหละ พอมาลองใช้ชีวิตคู่ด้วยกันแล้ว มันมีความทุกข์ที่เราเหนื่อยต่อกัน งั้นก็พอก่อนดีกว่า เท่านั้นเอง”
เคยนอกใจก้อยไหม?
นิกกี้ : “ไม่รู้ว่าควรเป็นสิ่งที่ผมควรภูมิใจหรือไม่ภูมิใจนะ ผมพูดได้ต่อหน้าน้องก้อยเลย ตั้งแต่ผมคบกับก้อย ตัดสินใจเป็นแฟนกับน้องก้อย จะ 3 ปีแล้ว 25 มีนาคมคือวันแรกที่เจอกัน ไม่เคยนอกใจแฟนแม้แต่ครั้งเดียว นอกกายไปนวดก็ไม่เคย ไปเที่ยวผับก็แทบจะไม่เคยโกหกน้องเลย ขอน้องทุกครั้ง”
การเลิกครั้งนี้เกี่ยวกับมือที่3
ก้อย : “เลิกกันด้วยดี ไม่มีมือที่3 เป็นเรื่องนิสัยส่วนตัวของเราที่เราปรับกันมาถึงจุดหนึ่งแล้วเราไปต่อกันไม่ได้แล้ว ถ้าถามว่าเลิกกันเพราะอะไร ตอบเหมือนดาราเลย ก็คือเข้ากันไม่ได้ค่ะ ไปต่อกันไม่ได้ แล้วก็ไม่มีปัญหาเรื่องมือที่ 3”
นิกกี้ : “เป็นคำถามจากทางบ้าน ที่ไม่ใช่เอฟซีผม ถ้าเอฟซีน้องเขาก็อยากให้เลิกกันอยู่แล้วแหละ”
อนาคตจะมีโอกาสรีเทิร์นได้ไหม?
ก้อย : เป็นสิ่งที่ไม่รู้ ถ้าวันนี้มันก็คือชัดเจน คือเราคุยกันชัดเจน วันนี้ก็คือแยกกันดีกว่า อนาคตไม่ใช่เรื่องที่สามารถตอบได้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
ร่วมงานกันได้ไหม?
ก้อย : “ก้อยร่วมงานได้ แต่คนเราเวลาแยกกันมันต้องมีเวลาจัดการตัวเอง มันไม่ใช่ว่าเลิกกันแล้วทำงานได้ มีความสุขกัน คนเรามันไม่ได้จัดการตัวเองได้แบบนั้น มันต้องมีเวลาได้อยู่กับตัวเองจริงๆ ได้ใช้เวลากับตัวเองจริงๆ พอเวลาที่มันเหมาะสมที่ทั้งสองคนสามารถจัดการตัวเองได้แล้ว ค่อยกลับมาทำงานด้วยกันดีกว่า”
ห่างกันมา 2 อาทิตย์แล้วก้อยค้นพบอะไรบ้าง?
นิกกี้ : “ไม่มีเขาวันแรกๆมันจะงง เคยมีเขาอยู่ที่บ้านทุกวัน แล้ววันนึงกลับมาแล้วไม่มีเขามันก็แปลกๆ มันเหมือนหนัง เรามองว่าเขาแยกกับเราเขาสบายใจกว่า ผมรู้ว่าเขาสบายใจกว่า”
แล้วจริงไหมที่บอกว่าพอเขาไม่อยู่คุณเริ่มคุยกับแมลงสาบได้แล้ว?
นิกกี้ : “วันแรกๆ คุยกับแมลงสาบครับ เมาครับ ยอมรับตามตรงเลย วันแรกๆ ก็เฮิร์ต”
ก้อย : “ต้องมาเล่าอะไรเยอะแยะ ก็แค่เล่าไปว่าเลิกกันด้วยดี”
นิกกี้ : “เลิกดีอยู่แล้ว เลิกดีไม่เคยขึ้นเสียงกับน้องก้อยเลย ไม่เคยทะเลาะ เลิกกันดีมากๆ ไม่มีขึ้นเสียง มามี๊สบายใจได้เลยว่า ดึงแขน บีบคอ ไม่มีเลย กอดกันนะ ตอนเลิกกันเรากอดกัน แต่ยอมรับว่าคิดถึงเขา เรารักเขา เขาก็รักผมผมรู้ ทุกวันนี้เขาก็ยังรักผมอยู่ ผมก็รักเขา”
ห่างกันเป็นไงบ้าง “ก้อย”?
ก้อย : “หนูว่าหนูได้มีเวลากับตัวเองดีนะคะ หนูรู้สึกว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ทำงานหนักมาก แล้วก็บวกกับพอได้อยู่กับตัวเองก็รู้สึกว่าสงบดีค่ะ แต่กับสิ่งที่เกิดขึ้นก้เป็นห่วงเขานิดนึงในเชิงที่ว่า หลายๆ คนอาจจะเป็นห่วงหนุแล้วรู้สึกว่าในความสัมพันธ์นี้มันจะต้องทำอะไรที่แย่มากๆ แน่เลย แล้วไปว่าเขา สำหรับหนูขอบคุณมากๆ ที่เป็นห่วง แต่เขาก็เป็นคนๆ นึงที่หนูรัก หนุก็รู้สึกว่าไม่อยากให้เขามานั่งเจออะไรที่ไม่ดี เพราะเขาก็พยายามที่สุดในความสัมพันธ์นี้ หนูก็พยายามในความสัมพัน์นี้มันก็แค่จบลง แค่นั้นเอง”
ยังรักกัน ยังมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน?
ก้อย : “เป็นมิตรภาพที่ดีต่อกัน ทั้งหนูและเขามันผ่านอะไรที่มากกว่าเรื่องรักมาเยอะแล้ว มันมีเรื่องอื่นในชีวิตที่เราได้ต่อสู้ชีวิตกันมา หนูว่านี่มันเป็นเรื่องนึงในชีวิตที่เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ก็แค่หวังดีต่อกัน ก็แค่อยากให้เขามีความสุข ถามว่าเป็นห่วงอะไรเขา ‘มีสติ’ คำเดียวในใจ มีสติกับทุกเรื่องแค่นั้นแหละ ตั้งแต่วันแรกที่หนูเลือกคบเขา เขาเป็นมนุษย์ที่ดีหนุขอยืนยัน แล้วเขาน่ารักมากคนนึง แล้วเขาก็เป็นแบบนั้นอยู่ หนูไม่ได้ห่วงการใช้ชีวิตของเขา แค่เป็นห่วงแค่นี้แหละ”
นิกกี้ เป็นห่วงอะไรน้อง?
นิกกี้ : “การใช้ชีวิตของเขาไม่เป็นห่วงเลย เพราะว่าเขาก็เป็นคนที่ดีมาก ทุกคนก็จะพูดกับผมหมดเลยว่าอย่าปล่อยก้อยไปนะ ไปง้อนะ เชื่อเถอะว่าก้อยคือแม่ที่ดีที่สุดของลูกแล้ว ทุกคนพูดกับผมหมด”
อยากบอกคนดูยังไง ได้ง้อน้องหรือยัง?
นิกกี้ : “จริงๆ แล้วผมก็ยอมรับในการตัดสินใจของน้องก้อย ผมก็เคารพ ถามว่ารักไหมผมรักเขาอยู่แล้ว แต่ถามว่าห่วงอะไรไหม ไม่ห่วงเลย เพราก้อยเป็นคนที่มาก ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องไม่ดีในตัวเขาสำหรับผมเลย ไม่เคยรู้สึกไม่ดีเลยในสิ่งที่เขาทำให้ผม แล้วแม้แต่กระทั่งเลิกกันก็ไม่เสียดายนะ 3 ปีที่ผ่านมา เขาทำให้ผมเป็นผู้เป็นคนขึ้น เพราะถ้าไม่มีเขาอาจจะกะเลวกะลาดอยู่ ทุกคนก็จะบอกผมหมดว่าโชคดีนะเนี่ยที่มีก้อยเป็นแฟน เพราะดูดีขึ้น ดูมีสติมากขึ้น”
มีอะไรปิดท้ายไหม?
นิกกี้ : “ก็ไม่มีอะไร อยากจะบอกน้องเขาว่ามีความสุขตลอดที่ได้อยู่กับน้องเขา ผมก็ไม่รู้นะว่าอนาคตจะเป็นยังไงอาจจะห่างกันไปแล้วไม่กลับกันมาอีกแล้วหรือวันนึงอาจจะกลับมาคบกันก็อยากจะบอกน้องว่ายังไงก็ตามผมก็จะรักน้องเสมอไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนแต่ก็นั่นแหละเราทำงานของเราไปเขาก็ทำงานของเขาไปเราก็จะซัพพอร์ตของเขาทุกอย่างไม่ว่าเขาจะทำอะไร จริงแล้วๆ ก็ไม่ได้อยากจะมาเศร้าถามว่าเศร้าไหมในใจก็เศร้าแหละแต่ก็ไม่ได้อยากมาร้องไห้หรืออะไรเพราะว่าเลิกกันดีแล้วมันก็มีความสุขชาตินี้แฮปปี้ที่ได้คบกับเขา 3 ปี แฮปปี้ อย่างน้อยผมอายุ 50 อรัชพร แฟนเก่าผมนะ”
ก้อย : “อยากให้เขามีชีวิตที่ดีหนูก็เชื่อว่าเขาก็อยากให้หนูมีชีวิตที่ดีเพราะฉะนั้นก็เลิกกันด้วยดีแค่นั้นเอง (จับมือนิกกี้)”
นิกกี้ : “มีคนสงสัยในความสัมพันธ์ของผมกับน้องก้อยตามที่น้องก้อยบอกเลยนะครับตอนนี้เราก็ลดสถานะจากเมื่อก่อนเป็นแฟนกันเป็นคนรักกันตอนนี้ก็พี่น้องที่ยังรักกันเหมือนเดิมผมไม่เคยคิดเลยนะว่าคนเรารักกันเลิกกันได้ยังไงแต่วันนี้ผมก็รู้แล้วว่าจริงๆรักกันมันก็เลิกกันได้แต่ก็หวังดีต่อกันเสมอ เพื่อนน้องก้อยผมรักทุกคนเพราะ ทุกคนก็น่ารักกับผม ไม่มีใครอันฟอลโล่ผมซักคน”
ก้อย : “บ้าใครจะอันฟอลโล่”
นิกกี้ : “แต่น้องไม่อันฟอลโล่ผมนะอนาคตจะอัลฟอลไหม?”
ก้อย : “ไม่เคยอันฟอลโล่อยู่ที่เกิดอะไรขึ้นถ้าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านี้มันไม่ควรต้องอันฟอโล่กันหรอกแต่ประเด็นคือฟอโล่หรืออันฟอโล่มันสำคัญตรงไหน (หัวเราะ)”
นิกกี้ : “ก็อยากจะบอกว่าเพื่อนเขาน่ารักต่อให้เลิกกันก็ไม่มีใครอันฟอลโล่ผมเลย และจริงๆแล้วครอบครัวน้องก้อยน่ารักมากๆพี่โชกุนโทรมาหาจากออสเตรเลีย บอกนิกกี้ มีโควต้าชีวิตของพี่อยู่หนึ่งครั้งเอาไหม พี่ช่วยน้อง พี่มีโควต้าแค่ครั้งเดียว ล่าสุด โชกุนโดนก้อยบล็อก (หัวเราะ)”
ก้อย : “(หัวเราะ) ไม่ได้บล็อก แกล้ง”
นิกกี้ : “คือรักเสมอ แม่ก้อยก็เหมือนแม่ผมญาติก้อยทุกคนคือเหมือนญาติผมทุกคน บ้านก้อยไม่เหมือนบ้านผมหรอกแต่ผมก็ยังมาได้ผมรู้ว่าแม่เขาก็ยังต้อนรับผม”
ก้อย : “เอางี้ เราจบกันด้วยดีถ้าพูดตรงๆ ในระยะยาวเริ่มจากวันนี้ วันหนึ่งเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อาจจะกลับมาหรือไม่ได้กลับมาแต่ว่าก็ใช้ชีวิตไปแต่ถ้าวันนึงถ้าเขามีคนใหม่หรือหนูมีคนใหม่ สุดท้ายเราก็ให้เกียรติชีวิตที่ต้องไปต่อ ณ วันนี้เราก็เป็นเพื่อนกันต่อ แค่นั้นเอง”
ก้อย : “ขอบคุณเอฟซีทุกคนคือทุกคนก็เห็นเรามาตั้งแต่ต้นและ วันที่เราไม่ได้ไปต่อแล้วก็ขอบคุณ เชื่อว่าเขาก็หวังดีและเราก็หวังดีต่อกันขอบคุณค่ะ”
นิกกี้ : “ขอบคุณจากใจจิงเอฟสี่ทุกคนก็จริงๆรู้ว่าเอฟสี่บางคนเค้าก็เสียใจแต่ให้รู้ไว้ว่ายังไงเราก็มีกันในชีวิตเสมอเป็นครอบครัวเดียวกันรักกัน ทุกวันนี้”
ก้อย : “เป็นเพื่อนๆ พี่น้อง”
นิกกี้ : “รักเขาอยู่แล้ว น้องเขาก็ทำงานเยอะจริงๆตั้งใจกับทุกอย่างที่เขาทำ”
ก้อย : “พี่นิกกี้ด้วย (ยิ้ม)”