ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล แถลงชัดเจนเตรียมส่งเงิน 3 ล้านบาทคืนให้ "ชูวิทย์" จะติดต่อให้มารับเร็วที่สุด
จากกรณีที่ ทนายตั้มหรือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้ออกมาแฉว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้รับเงินจาก "สารวัตรซัว" เจ้าพ่อธุรกิจสีเทา จำนวนหลายล้านบาท พร้อมระบุว่าทนไม่ได้ที่จะเห็นการ "แฉไป ไถไป" ก่อนที่นายชูวิย์จะออกมายอมรับว่ารับเงินมาจริงจำนวน 6 ล้านบาท เพราะถูกยัดเยียด แต่ไม่ได้นำมาใช้ส่วนตัว โดยได้นำไปบริจาคให้ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาลัยมหิดล 3 ล้านบาท และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ 3 ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงกรณีนี้ว่า เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2566 นายชูวิทย์ ได้นำเงิน 3 ล้านบาท มาบริจาคให้จริงเพื่อใช้เป็นประโยชน์กับนักศึกษาแพทย์ โดยตนเป็นคนเป็นผู้รับมอบ แต่จากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นเป็นที่แน่ชัดว่าเงินดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่อาจผิดกฎหมาย ทางภาควิชากายวิภาคศาสตร์จึงอยากขอคืนเงิน 3 ล้านบาทนี้ให้กับชูวิทย์ โดยจะติดต่อให้นายชูวิทย์มารับให้เร็วที่สุด
ศ.นพ.อภิชาติ เผยว่า วันนั้นเป็นการรับมอบเช็ค ไม่ใช่เงินสด ปกติแล้วการรับบริจาค รพ.ศิริราช ไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ ทั้งสิ้น แล้วแต่ความตั้งใจของผู้บริจาค และต้องมีการระบุว่าจะนำเงินส่วนนี้ไปช่วยเรื่องอะไร เช่น ช่วยเหลือคนไข้ สร้างตึก การวิจัย ฯลฯ ซึ่งก็จะนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค เมื่อถามว่าหากคนที่เคยกระทำผิดจะสามารถบริจาคเงินให้ศิริราชได้หรือไม่ ซึ่ง ศ.นพ.อภิชาติ ระบุว่าเราไม่ได้ดูที่ตัวบุคคล ดูจากความตั้งใจของทุกคน ถ้าเป็นเงินที่มาจากตัวเองก็สามารถรับได้ แต่เงินที่ได้รับจากนายชูวิทย์ จากข่าวก็คือเป็นเงินจากบุคคลอื่น จึงต้องคืนให้เพื่อนำไปเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย