จับแล้ว "ดุ่ย มหาชัย" ทำร้ายผู้เสียหายสาหัสหวังข่มขืน หลังก่อเหตุหนีไปบวช ย้ายวัดหนีไปเรื่อยๆ ตำรวจตามรอย 3 ปี บุกรวบได้คากุฏิ!
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร, พ.ต.ท.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล, พ.ต.ท.นพรัตน์ คำมาก และ พ.ต.ท.พลวุฒิ ผาตินุวัติ รอง ผกก.2 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.สรศักดิ์ แสงจันทร์ สว.กก.2 บก.ป., ร.ต.อ.นนทพัทธ์ กาวชู รอง สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ป., ร.ต.ท.ศิร์รัฐ พิรมย์บวรภักดิ์, ร.ต.ต.วรไพโรจน์ ทรัพย์สมบูรณ์ รอง สว.(ป.) กก.2 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายประสาท หรือ "ดุ่ย" อายุ 58 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 309/2563 ลงวันที่ 3 ธันวาคม 2563
ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน "กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายและการกระทำนั้น เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำได้รับอันตรายสาหัส, เข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ และในเวลากลางคืน, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายรับอันตรายสาหัสมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธเข้าไปในเมือง หมู่บ้านฯ"
สถานที่จับกุม วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.คลองโคน อ.เมืองสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2563 นายประสาทฯ หรือ "ดุ่ย" ผู้ต้องหา ได้ทำงานเป็นลูกจ้างที่บ้านของครอบครัวผู้เสียหาย ได้อาศัยโอกาสที่ผู้เสียหายอยู่บ้านคนเดียว บุกเข้ามาที่ห้องของผู้เสียหายเพื่อทำอนาจารผู้เสียหาย โดยมีการใช้หมัดต่อยไปที่บริเวณใบหน้าของผู้เสียหายจำนวน 2 ครั้ง พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนข่มขู่ผู้เสียหาย ก่อนที่ผู้เสียหายจะส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ทำให้ผู้ต้องหาตกใจวิ่งหลบหนีไป
หลังจากก่อเหตุ ผู้ต้องหาหลบหนีไปบวชอยู่ สำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ในจังหวัดชุมพร และก็ได้ทำการย้ายวัดไปเรื่อยๆ เพื่อหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งเบาะแสทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาจำพรรษาอยู่ที่วัดในพื้นที่ต.คลองโคน อ.เมืองสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม
จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมวางแผนเข้าทำการจับกุม จึงได้เดินทางไปสืบสวนตามที่ได้รับแจ้งเบาะแส พบชายมีตำหนิรูปพรรณตรงกับผู้กระทำความผิดตามหมายจับ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทำการจับกุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป