คนบันเทิงแสดงจุดยืนติดแฮชแท็ก #แบนสุพรรณหงส์ หลังออกกฎใหม่ กีดกันหนังอิสระไม่ให้เข้าชิงรางวัล
กลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์ เมื่อสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติได้ออกกฎใหม่ว่า ภาพยนตร์ที่จะได้รับการพิจารณาให้เข้าชิงรางวัลสุพรรณหงส์ จะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ ต้องฉายในโรงภาพยนตร์ ผ่านสตรีมมิ่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องฉายในโรงครบทั้ง 5 ภูมิภาค อย่างน้อยใน 5 จังหวัดใหญ่ คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี นครราชสีมา และนครศรีธรรมราช และต้องมียอดผู้ชมไม่ต่ำกว่า 50,000 คน
กฎใหม่นี้ ทำให้หนังอินดี้ หนังอิสระ หรือหนังที่มาจากค่ายเล็กๆ ที่ไม่ได้เข้าฉายทั่วประเทศถูกตัดสิทธิไปโดยปริยาย โดยจุดเริ่มต้นดราม่ามาจากทีมงานของภาพยนตร์ไทยเรื่อง Anatomy of Time (เวลา) ได้ออกมาวิจารณ์ว่ากติกานี้ไม่เหมาะสม เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนและค่ายหนังรายใหญ่ ซึ่งหนังเรื่อง Anatomy of Time (เวลา) ได้ตระเวนฉายในเทศกาลหนังต่างประเทศมาแล้วหลายแห่ง และได้รับเสียงชื่นชม แต่กลับไม่มีสิทธิที่จะเข้าชิงรางวัลในประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาหนังเล็กๆ ต่างได้รับโอกาสเข้าชิงจนไปถึงขั้นชนะรางวัลสุพรรณหงส์มาแล้ว เช่น มะลิลา, ดาวคะนอง ฯลฯ
นอกจากนี้ "ไก่ ณฐพล บุญประกอบ" ผู้กำกับและนักแสดง ยังออกมาแฉว่าสมาพันธ์ภาพยนตร์พยายามจะเปลี่ยนกติกาการคัดเลือกหนังเพื่อเข้าชิงสุพรรณหงส์มาตั้งแต่เมื่อปี 2019 แต่โดนกระแสต่อต้านจากฝั่งคนทำหนังจนต้องยอมล้มเลิกไป แต่ก็ยังมีความพยายามจะผลักดันกติกาใหม่นี้อยู่ จนเกิดเป็นประเด็นในปีนี้อีกครั้ง ซึ่งต่อมา “อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ” ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งรองประธานสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับกติกาใหม่
หลังจากนั้น คนในวงการภาพยนตร์ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ต่างพากันอกมาแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับกติกานี้ และประกาศถอนตัวจากการถูกเสนอชื่อเข้าชิงสุพรรณหงส์ปีนี้ จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกฎกติกาใหม่ เช่น จ๋าย ไททศมิตร และ ณัฏฐ์ กิจจริต สองนักแสดงซึ่งได้รางวัลสุพรรณหงส์จากหนังเรื่อง 4 Kings โพสต์ยินดีคืนรางวัลถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงกติกา กลุ่มผู้กำกับ เช่น เต๋อ นวพล, บาส นัฐวุฒิ, ปิ๊ง อดิศร, คงเดช ขอถอนตัวจากการได้รับสิทธิในการถูกคัดเลือกเพื่อได้รับการพิจารณาในรางวัลสุพรรณหงส์ในปีนี้
กระแสดังกล่าวทำให้แฟนหนังไทยจำนวนมาก ต่างก็เดือดไปกับกติกาที่ดูไม่เป็นธรรม เหมือนพยายามตัดตอนไม่ให้วงการหนังไทยได้เติบโต เพราะมองว่าหนังทุกเรื่องไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ก็ควรได้รับสิทธิพิจารณาในการเข้าชิงรางวัล จนเกิดการติดแฮชแท็ก #แบนสุพรรณหงส์ จนติดเทรนด์บนโลกออนไลน์ ซึ่งขณะนี้ทางสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติก็ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องนี้ว่าจะจบลงอย่างไร