วันที่ 22 ส.ค. 62 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายอาทิตย์ (นามสมมติ) อ้างว่าแม่อายุ 70 ปี ได้รับเงินผู้สูงอายุ เกินกว่าจำนวนที่ควรจะได้รับ คือปกติผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จะได้เบี้ยยังชีพ เดือนละ 600 บาท แต่เมื่อปี 2554 แม่ของตนได้รับโอนเบี้ยยังชีพเข้าบัญชี เพิ่มมาอีก 1,300 บาท รวมเป็นเงิน 1,900 บาท เป็นเวลา 2 เดือน ซึ่งตอนนั้นได้มีการนำเงินจำนวนที่เกินมา 1,300 บาทไปคืน และมีการเจรจากันแล้วว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้น ขอให้เขตจัดการปัญหานี้ เพราะครอบครัวไม่อยากเดือดร้อน
ต่อมาปี 2555 แม่ก็ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเกินจำนวนมาอีก เดือนละ 700 บาท แต่ตอนนั้นมีนโยบายต่าง ๆ ของภาครัฐ ว่ามีสวัสดิการอื่น ๆ มอบให้กับผู้สูงอายุ แม่จึงเข้าใจว่าอาจได้รับสวัสดิการเพิ่ม และแม่ไม่ค่อยรู้หนังสือ จึงไม่ได้ท้วงติง โดยรับเงินเกินมาทุกเดือน เดือนละ 700 บาท เป็นเวลา 5 ปี รวมเป็นเงิน 47,600 บาท
ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 62 มีหนังสือจากทางราชการโดยสำนักงานเขตส่งมาที่บ้าน ขอเรียกส่งคืนเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จำนวน 47,600 บาท ให้คืนกับฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม สำนักงานเขตบางกอกน้อย ขอให้ส่งคืนภายในวันที่ 15 ส.ค. 62 มิเช่นนั้นสำนักงานเขตจะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
นายอาทิตย์ (นามสมมติ) ระบุว่า ตนเกิดความสงสัยว่าทำไมสำนักงานเขตเพิ่งจะมีการตรวจสอบ ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ไม่มีการตรวจสอบหรือปิดงบประมาณประจำปีหรืออย่างไร ทำไมถึงเกิดความผิดพลาดซ้ำซ้อนขึ้นมาได้ ทั้งที่เคยไปเคลียร์กันแล้ว ตั้งแต่ผิดพลาดรอบแรก จึงมองว่าถ้าหากจะต้องให้คืนจริง ๆ ก็ต้องมีการชี้แจงว่าเงินส่วนนี้ผิดพลาดมาจากขั้นตอนใดในการทำงานของเจ้าหน้าที่
ด้าน สำนักงานเขตบางกอกน้อย ชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ที่ออกหนังสือเรียกเงินคืน ได้รับหน้าที่มาอีกทอดหนึ่งจากหน่วยงานใหญ่ที่โอนย้ายงานมาให้ ทำให้เจ้าหน้าที่ยังไม่มีความชำนาญมากนัก ส่วนจะมีการทุจริตในขั้นตอนใดหรือไม่ ทางสำนักงานเขตขอเวลาตรวจสอบก่อน เรื่องนี้จึงยุติลงชั่วคราว และยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะต้องชดใช้คืนหรือไม่