อุทาหรณ์เตือนผู้ปกครอง พาลูกไปเล่นสวนน้ำ เผลอลูกกระโดดลงสระว่ายน้ำผู้ใหญ่จมนานหลายนาทีหวิดดับ ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว
จากกรณีที่เมื่อวานนี้เฟซบุ๊กเพจ “ข่าวสารพลาญชัย” โพสต์คลิปพร้อมข้อความไว้เป็นอุทาหรณ์ผู้ปกครองที่พาลูกไปเล่นน้ำ โดยรายละเอียดระบุว่า “ด่วน !!.. เด็กวัย 4 ขวบจมสระว่ายน้ำที่อาจสามารถ เหตุเกิดวันนี้ 6 เม.ย.66 ที่สวนน้ำแห่งหนึ่ง ในอ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด "น้องกัปตัน" เด็กชายวัย 4 ขวบ กระโดดลงสระความลึก 1.5 เมตร ขณะนี้นำตัวส่งโรงพยาบาลร้อยเอ็ด เบื้องต้นรายงานข่าวแจ้งว่า “น้องกัปตัน”ยังไม่ได้สติ
ฝากเตือนภัยมายังผู้ปกครองทุกท่าน โปรดดูแลบุตรหลานของท่านอย่าให้คลาดสายตา และอย่าไปหวังพึ่งพาเจ้าของผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจ แต่อาจจะละเลยในความปลอดภัยด้านการป้องกัน สำหรับผู้ปกครองทุกคนท่านก็ จะต้องดูแลบุตรหลานให้ดี เพราะคนจำนวนมากการดูแลของเจ้าของกิจการอาจจะไม่ทั่วถึง
ผู้สื่อข่าวติดตามความคืบหน้าจากกรณี แม่ศุภรดา สงวนนามสกุล อายุ 21ปี ไปเล่นน้ำที่สวนน้ำแห่งหนึ่งใน อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด แล้วประมาณหลังเที่ยงเศษปรากฏว่า ลูกชายซึ่งแม่เรียกให้ขึ้นจากสระเด็กเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับ แต่ขณะที่เด็กวิ่งผ่านสระผู้ใหญ่และแม่กำลังให้นมลูกคนเล็ก ปรากฏว่าเด็กได้กระจูโดดลงไปในสระน้ำผู้ใหญ่ ซึ่งลึกเกือบ 2 เมตร และจมน้ำเป็นเวลา 3 นาที
จึงมีคนช่วยขึ้นมาได้นำส่งโรงพยาบาลอาจสามารถ และทางโรงพยาบาลมีการส่งต่อมาโรงพยาบาลร้อยเอ็ดเวลาเกือบ 14:00 น. นำเข้าห้องเอกซเรย์ หลังจากเด็กฟื้นแต่อาการยังไม่ปกติจึงนำส่งต่อเข้ารักษาตัวในห้อง picu โรงพยาบาลร้อยเอ็ด ซึ่งอาการของเด็กยังอยู่ในอาการผิดปกติ พูดจาได้ไม่เต็มประโยคและมีอาการซึมเศร้าง่วงนอนตลอดเวลา จนต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ โดยมียายดูอาการอยู่หน้าห้อง ส่วนพ่อแม่เดินทางกลับไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเป็นการเบื้องต้นที่สภ.อาจสามารถ
ยายน้ำฝน ที่เฝ้ารอดูอาการหลานอยู่ที่โรงพยาบาลกล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ไม่คาดฝัน เพราะขณะที่เด็กไปกับแม่ซึ่งพาลูกไปเลี้ยงไปด้วยพร้อมญาติๆ หลังจากเล่นน้ำเสร็จก็กำลังจะเดินทางกลับ เรียกลูกชายขึ้นจากสระแต่ด้วยความคึกคะนองตามประสาเด็กๆ เลยยิ่งแล้วกระโดดลงมาในสระผู้ใหญ่ไม่มีใครช่วย เพราะเข้าใจว่าเด็กเล่นน้ำด้วยความสนุก เสียใจที่เกิดเหตุขึ้น มองว่าเป็นการขาดความรับผิดชอบของสระว่ายน้ำ เนื่องจากไม่มีการเฝ้าระวังเด็ก ซึ่งน่าจะต้องมีความรับผิดชอบในส่วนนี้ และควรจะต้องมาดูแลความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเด็ก
ซึ่งตอนนี้ยังไม่มั่นใจว่าจะเด็กจะกลับมาสู่ภาวะปกติหรือไม่ เนื่องจากตอนนี้อาการไม่ดีคล้ายกับพูดไม่ได้มีอาการซึมเศร้าง่วงนอนตลอดเวลา และพูดก็พูดได้บางคำไม่เป็นประโยค ตนเองเกรงว่าหลานจะไม่กลับมาเป็นปกติ ซึ่งความเสียหายและสิ่งที่เกิดขึ้นกับหลานตนเองนั้น ยืนยันว่าเจ้าของสระน้ำที่ให้บริการน่าจะต้องมีความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ซึ่งแม่ของเด็กได้กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่อยากจะให้เกิด แต่ด้วยความที่ตนก็เรียกลูกชายเดินกลับมาแต่ไม่ได้ดูข้างหลังว่ามาถึงหรือยัง ตนก็เอาลูกคนเล็กมากินนม แต่ไม่นานได้ยินคนร้องบอกว่ามีเด็กจมน้ำ ตนเองก็เอาลูกให้อีกคนอื่นดูให้ ซึ่งตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าเอาให้ใครจึงวิ่งไป ก็เห็นมีพลเมืองดีที่เอาลูกตนเองขึ้นมาจากน้ำ แล้วก็อุ้มน้องไว้ที่ไหล่เพื่อที่จะให้น้ำออก แต่ก็ไม่เกิดผล พอทีมกู้ภัยมาลูกจึงมีการสำลักน้ำออกจากปากและได้นำตัวส่งไปที่โรงพยาบาล ขณะนี้ลูกได้มีอาการรู้สึกตัวจำพ่อแม่ได้ แต่ก็ยังมีอาการน่าเป็นห่วงอยู่
นางฉันทะนา สงวนนามสกุล ตัวแทนสวนน้ำเข้าให้กำลังใจพร้อมสอบถามอาการน้องกับตัป แล้วได้ให้ข้อมูลกับสื่อว่า ที่สวนน้ำช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมก็จะมีผู้ไปใช้บริการมากทางสวนน้ำเป็นจำนวนมาก เราจึงได้จ้างเจ้าหน้าที่ par ttime เข้ามาช่วยเหลือเพิ่มเติม จากจากเดิมที่มีอยู่แล้ว แต่ในช่วงที่เกิดเหตุสิ่งนี้ที่เราถามกับทีมเจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่มุมนี้ได้แจ้งว่า ตนได้ไปเข้าห้องน้ำกลับมาเป็นช่วงที่เกิดเหตุพอดี แต่ว่าความเป็นจริงจะเป็นอย่างไรเราก็ต้องขอพูดคุยกันอีกครั้ง
ซึ่งพรุ่งนี้ทางแม่น้องกัปตันพร้อมญาติ จะเข้าไปที่สวนน้ำเพื่อพูดคุยในส่วนการดูแลอีกครั้งหนึ่ง ทางสวนน้ำได้แจ้งให้กับทางแม่ของน้องกัปตันทราบว่า ของเราได้ทำประกันอุบัติเหตุไว้ ถ้าเกิดว่าเรื่องของการรักษาพยาบาลหรือว่าอย่างไร จะใช้ในส่วนประกันอุบัติเหตุของสวนน้ำก็ได้ เพราะเรายินดีที่จะมาทำเรื่องหรือว่ายื่นเรื่องให้ทุกอย่า งพร้อมที่จะเข้าดูแลสิ่งที่เกิดขึ้น เราก็เสียใจเพราะว่าไม่มีใครอยากให้เกิดแต่มันเกิดไปแล้ว เราก็ต้องดูแลกัน