เจ้าของพูลวิลล่าเมืองกาญจน์ เตรียมฟ้องลูกค้าเจ้าของคลิปหอบ "เป็ดยาง" ขึ้นโรงพัก พร้อมเล่าเหตุการณ์อีกมุม หนังคนละม้วน
เจ้าของพูลวิลล่าเตรียมฟ้องร้องดำเนินคดีเจ้าของคลิปแบกเป็ดยางขึ้นโรงพัก ทำให้ธุรกิจเสียชื่อเสียง หลังถูกกล่าวหาฉ้อโกงเอาเปรียบลูกค้า ยืนยันคืนเงินประกันครบตั้งแต่ตอนลูกค้าเช็กเอาท์ แต่ไม่เข้าใจทำไมถึงไปแจ้งความแถมคู่กรณีไม่ยอมจบ ส่งข้อความมาข่มขู่ อ้างรู้จักคนใหญ่คนโต
ความคืบหน้ากรณีผู้ใช้ TikTok รายหนึ่งได้โพสคลิปขณะกำลังแบกเป็ดยางขึ้นไปบนสถานีตำรวจภูธรลาดหญ้าพร้อมบรรยายเหตุการณ์ภายในคลิปว่า พวกตนได้เดินทางมาพักที่พูลวิลล่าแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี
แต่หลังจากกำลังจะเดินทางกลับนั้น ปรากฏว่าเจ้าของพูลวิลล่าได้เรียกเก็บเงินค่าปรับจำนวน 500 บาทโดยระบุว่าเป็นค่าปรับที่ทำเป็ดยางรั่วแต่ทางกลุ่มลูกค้ายืนยันว่าไม่ได้เป็นคนทำให้เป็ดยางรั่วและในคลิปก็ยังเห็นเป็ดยางใช้งานได้ปกติ
เมื่อตกลงกันไม่ได้ทางกลุ่มลูกค้าจึงนำเอาเป็ดยางดังกล่าวมาที่สถานีตำรวจภูธรลาดหญ้าเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเป็นตัวกลางในการตัดสิน ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกเจ้าของพูลวิลล่ามาเจรจาพูดคุยและจบลงโดยที่ทางเจ้าของพูลวิลล่าไม่ติดใจเรียกค่าปรับจำนวน 500 บาทและทั้งสองฝ่ายต่างแยกย้ายกันเดินทางกลับนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ เจ้าของพูลวิลล่า ให้ข้อมูลว่ากลุ่มลูกค้าที่แบกเป็ดยางขึ้นโรงพักนั้นเป็นลูกค้าที่เดินทางเข้ามาพักตั้งแต่วันที่13เมษายน เข้าพักเป็นเวลา 2 วันคือในวันที่ 13 และ 14 เมษายนก่อนจะเช็กเอาท์ในช่วงเช้าวันที่ 15 เมษายน
โดยในระหว่างลูกค้าเช็กเอาท์พนักงานได้ตรวจสอบความเรียบร้อยของทรัพย์สินในพูลวิลล่าและพบว่าเป็ดยางสีขาวมีอาการลมรั่วซึม จึงแจ้งให้ลูกค้าทราบแต่ลูกค้าปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนทำ ซึ่งทางพูลวิลล่าก็ได้คืนเงินมัดจำจำนวน 2,000 บาทให้ครบเต็มจำนวน โดยไม่ได้หักเงินค่าปรับ
แต่ปรากฏว่าลูกค้ากลุ่มนี้กลับมีอาการไม่พอใจและต่อว่าทางพูลวิลล่าว่าเอาเปรียบลูกค้าก่อนจะนำเป็ดยางตัวดังกล่าวขึ้นรถและบอกว่าจะไปแจ้งความที่โรงพักก่อนจะเกิดเหตุการณ์ตามในคลิปที่มีการแชร์กันอย่างกว้างขวาง
ซึ่งเมื่อลูกค้าไปแจ้งความแล้วตำรวจได้เรียกผู้จัดการของพูลวิลล่าไปพบและมีการพูดคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยทางตำรวจยังบอกว่าทางพูลวิลล่าสามารถเรียกเงินค่าเสียหายจากลูกค้าได้เพราะก่อนเข้าพักมีการเซ็นเอกสารรับทราบถึงค่าเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นแล้ว แต่ทางผู้จัดการก็ยืนยันไม่เรียกร้องค่าเสียหายและขอให้จบเรื่องนี้ด้วยความยินยอมทั้งสองฝ่ายก่อนจะแยกย้ายกันเดินทางกลับ
แต่ปรากฏว่าหลังกลับจากสถานีตำรวจภูธรลาดหญ้าไม่นาน กลุ่มลูกค้าได้นำคลิปไปโพสลงใน TikTok จนมีคนเข้ามาดูและคอมเมนท์ต่อว่าทางพูลวิลล่าเป็นจำนวนมาก
ทางตนเองซึ่งเป็นเจ้าของเมื่อเห็นคลิปจึงได้ทักไปถามกับทางกลุ่มลูกค้าว่าทำไมจึงลงคลิปที่สร้างความเสื่อมเสียให้กับทางพูลวิลล่าแบบนี้ แต่กลับถูกทางกลุ่มลูกค้าต่อว่าและส่งขอความมาข่มขู่ตลอดเวลา พร้อมอ้างว่ากลุ่มของลูกค้ารู้จักคนใหญ่คนโตเยอะ ขอให้ทางพูลวิลล่าเตรียมตัวให้ดีว่าจะเจออะไรบ้าง แต่ทางตนก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร
ส่วนที่ออกมาให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวก็เพราะอยากได้รับความเป็นธรรมและอยากชี้แจงข้อเท็จจริงให้สังคมได้รับรู้ว่าตนทำธุรกิจด้วยความโปร่งใส ไม่ได้คิดจะเอาเปรียบลูกค้าอย่างที่ถูกกล่าวหา ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่มีปัญหานี้บอกว่าทำธุรกิจเป็นเจ้าของแพล่องอยู่ในอำเภอศรีสวัสดิ์ เป็นคนเมืองกาญจน์เหมือนกัน จึงขอส่วนลดค่าที่พักคืนละ 2,000 บาท จากราคาเต็มคืนละ 12,900 บาทเหลือเพียงคืนละ 10,900 บาท ซึ่งตนก็ลดให้
ดังนั้นตนจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาเอาเปรียบลูกค้าโดยการอ้างว่าเป็ดยางลมรั่วเพื่อจะเอาเงินค่าเสียหายเพียง 500 บาท อีกทั้งเป็ดยางตัวดังกล่าวก็รั่วซึมจริงแต่ตนและลูกค้าก็ตกลงกันจบตั้งแต่ตอนเช็กเอาท์แล้วว่าจะไม่เรียกเงินค่าปรับและยังคืนเงินมัดจำให้ครบเต็มจำนวนด้วย จึงไม่เข้าใจว่ากลุ่มลูกค้าทำแบบนี้ทำไม คล้ายมีเจตนาจะดิสเครดิตสร้างความเสียหายให้กับธุรกิจของตน
ซึ่งพูลวิลล่าของตนเปิดให้บริการมาเกือบหนึ่งปีมีลูกค้ามาใช้บริการเต็มทุกวันและไม่เคยมีปัญหาแบบนี้มาก่อน ซึ่งหลังจากนี้จะได้ปรึกษากับทนายความว่าเรื่องนี้สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับพูลวิลล่าของตนอย่างมาก ดังนั้นจึงอาจต้องมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้ที่โพสต์สร้างความเสียหายไปตามกฏหมาย