ขนลุก! มือปริศนาโผล่ขณะผู้ลงสมัคร ส.ส. เข้ากราบไหว้ศาลหลักเมือง เชื่อเป็นพลังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ทำงานลุล่วงด้วยดี
สุดอึ้งมือใคร? เชื่อเป็นความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าพ่อหลักเมือง ศาลศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่เมืองชลบุรี ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 6 ชลบุรี พรรคก้าวไกล นำภาพที่ถ่ายขณะไปไหว้ศาลแห่งนี้ มีมือที่สามมาร่วมไหว้อย่างน่าอัศจรรย์ เชื่อว่าเป็นพลังให้ทำงานลุล่วง
22เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีคนไปไหว้สักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง แถวศาลาฟังธรรม ต.บางปลาสร้อย อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของเจ้าพ่อหลักเมืองชลบุรี ปรากฏมีภาพถ่ายติดมือที่สามโผล่มา ขณะที่คนไหว้กราบลงที่ลูกนิมิตต้องตะลึง โดยไม่รู้ว่ามือเป็นของใครและไม่มีตัวตน แถมด้านข้างก็ไม่สามารถที่จะมีคนเข้าไปอยู่ได้ เพราะแคบติดฝาผนังของศาล
จึงเดินทางไปพบกับคนที่ไหว้ในภาพ คือนายกฤษฎิ์ ชีวะธรรมมานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี แบบแบ่งเขต โดยนำภาพดังกล่าวมาให้ดู พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนและทีมงานพร้อมเพื่อนๆ จำนวนหนึ่ง เดินทางไปไหว้ที่พระบรมรูปเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี ที่หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองศรีราชา จากนั้นเวลา 11.00 น. ก็เดินทางไปที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ซึ่งชาวชลบุรี เชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่ยึดเหนี่ยวศรัทธา เพราะเป็นเจ้าพ่อหลักเมืองมาแต่โบราณ และปกปักรักษาให้ชาวชลบุรีอยู่เย็นเป็นสุขมาโดยตลอด
ตนเข้าไปกราบไหว้พร้อมทีมงาน ขณะที่ตนกราบไหว้ เพื่อนก็ถ่ายรูปให้ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว และเมื่อกราบไหว้เสร็จก็เดินทางกลับ ขณะที่เดินทางกลับเพื่อนส่งภาพที่ถ่ายขณะที่ตนเองกราบไหว้เจ้าพ่ออยู่นั้น พบว่ามีภาพหนึ่ง แทรกขึ้นมาพอสังเกตเห็นก็ต้องขนลุก ดูแล้วดูอีกจนต้องอึ้ง
เมื่อในภาพหนึ่งมีภาพมือที่สามโผล่เข้ามาแทรก ขณะที่ตนกราบไหว้อยู่ รู้สึกตกใจคุยกับเพื่อนบอกว่ามีใครนำภาพไปตัดต่อหรือไม่ เพื่อนยืนยันว่าไม่มี และยังส่งภาพเคลื่อนไหว ตรงจุดที่ไหว้ให้ดูเห็นชัดเจนว่าตรงจุดนั้นไม่มีใครที่จะสามารถเข้าไปยืนอยู่ได้ และมือที่เห็นเป็นมือของคนที่รูปร่างใหญ่อีกด้วย ตนคิดในทางที่ดีเชื่อว่า น่าจะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มาให้เห็น และเป็นพลังให้ตนทำงานได้อย่างลุล่วง และวันที่ไหว้ 5 เมษายน ไปดูในปฏิทินบอกว่าเป็นวันโจโรฤกษ์อีกด้วย
อนึ่งศาลเจ้าพ่อหลักเมืองชลบุรี สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย หันหน้าลงทะเล ศาลนี้ไม่ใช่ศาลหลักเมือง เนื่องจากชลบุรี ในสมัยนั้นเป็นเมืองชั้นจัตวา จึงไม่ได้รับพระราชทานหรือรับพระราชแสงอาญาสิทธิ์ จึงไม่มีเสาหลักเมืองในปี 2550 สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวชวิหาร ประทานชื่อ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองนี้ว่าสิริมหามงคลชลบุรี