แก๊งค้ามนุษย์ฆ่าโหด 2 หนุ่มชาวไทยย่านบางแก้ว นำศพไปทิ้งหมกป่าข้ามจังหวัด

แก๊งค้ามนุษย์ชาวพม่าโหด ฆ่า 2 หุ้นส่วนชาวไทยคาที่พักย่านบางแก้ว สมุทรปราการ ก่อนนำศพหมกป่าเมืองนนท์ ตำรวจมุ่งประเด็นขัดแย้งเรื่องเงิน-ชู้สาว จากแนวทางการสืบสวนทราบว่าคนร้ายชาวพม่าหนีออกนอกประเทศแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งจาก น.ส.วนัทปรียา ประทุมทอง อายุ 23 ปี ว่าแฟนของตนชื่อ นายพัณณ์พิสิฐ สุขดลภัทร์ หรือ ทีม อายุ 24 ปี หายตัวไปไม่สามารถติดต่อได้ ครั้งสุดท้ายที่คุยกันผ่านไลน์เมื่อ 00.13 น.ของวันที่ 21 เมษายน 2566 โดยนายทีมบอกว่าจะไปบ้านกับเพื่อนคือ นายมงคล อิสมัญ หรือ กัน อายุ 23 ปี ที่ซอยกิ่งแก้ว 39 โดยไไม่ได้บอกว่าจะไปทำอะไร นั่นคือครั้งสุดท้ายที่พูดคุยกัน หลังจากนั้นก็ทั้งแชต ทั้งโทรก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย พอช่วงเย็นวันที่ 22 เม.ย. ตนจึงเดินทางไปที่บ้านซอยกิ่งแก้ว 39 ก็พบว่าบ้านอยู่ในสภาพเรียบร้อยไม่เจอใคร ตนจึงให้น้องตนไปแจ้งความคนหายที่ สภ.บางแก้ว แล้วตนกับมาบ้านที่กิ่งแก้วอีกครั้งก็พบว่าที่ห้องนอนใหญ่มีถุงขยะสีดำวางอยู่ ตนก็เลยรื้อดูจึงพบว่ามีเสื้อหลายตัวเปื้อนเลือด มีรองเท้ามีกระเป๋าของนายกันและเคสโทรศัพท์ของนายทีมอยู่ในถุงดำด้วย ประกอบกับที่คนข้างบ้านอัดคลิปไว้มีเสียงชายร้องโวยวายขอความช่วยเหลือตอน 00.16 น. ตนจึงมั่นใจแฟนของตนอาจจะได้รับอันตราย

น.ส.วนัทปรียา ยังเล่าอีกว่าชนวนเหตุที่นายกันและนายทีมถูกทำร้ายอาจเป็นเพราะเรื่องชู้สาว ที่นายกันไปคบกับเมียของหัวหน้าแก๊งชาวมาเซียที่ทำธุรกิจนำแรงงานต่างชาติมาทำงานที่ประเทศไทยและส่งไปทำงานที่ประเทศมาลเซีย หรืออาจเป็นเรื่องเงินที่นายกันไปเปิดบัญชีให้กับแก๊งของชาวพม่าที่ทำธุรกิจค้ามนุษย์ แล้วบัญชีนั้นมีเงินอยู่แสนกว่าบาทเกิดถูกอายัด จึงอาจจะทำแก๊งนี้ไม่พอใจเพราะคิดว่าจะถูกโกง และนายสมชาย ชาวพม่าลูกน้องในแก๊งโทรมาด่าและท้าทายแฟนของตนบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยมีเหตุการณ์รุนแรงอะไร

น.ส.วนัทปรียาเล่าต่อว่านายทีมแฟนของตนทำงานกับแก๊งนี้มาได้ 3-4 เดือน โดยแฟนตนมีหน้าที่คอยดูแลแรงงานต่างชาติที่ขนมาจะนำมาพักไว้ที่บ้านย่านกิ่งแก้ว สมุทรปราการ คอยหาข้าวหาน้ำให้กินจะได้ค่าตอบแทนหัวละ 300 บาท

พ.ต.อ.มงคล อ่อนแก้ว ผกก.สภ.บางแก้ว เปิดเผยว่าชุดสืบสวนได้ออกติดตามเหตุบุคคลสูญหายหลังได้รับแจ้งจากญาติแจ้งว่านายกันและนายทีมได้หายออกจากบ้านเลขที่ 85/22 หมู่บ้านเอสพีทาวน์ ซอยกิ่งแก้ว 39 ม.14 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ชุดสืบสวนตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าวพบร่องรอยคราบเลือดบริเวณกำแพงและมีคราบเลือดบริเวณเสื้อผ้า (ซึ่งใส่ถุงดำไว้) สอบถามเพื่อนบ้านบริเวณใกล้เคียงแจ้งว่าก่อนหน้านี้ช่วงเวลากลางคืนได้ยินเสียงคนร้องขอชีวิต และตรวจสอบบริเวณภายในบ้านพบกล้องวงจรปิดได้ถูกทำลายเสียหายตัดสายไฟออก เบื้องต้นผู้แจ้งคาดว่าจะเกิดอันตรายกับนายกันและนายทีมจึงเดินทางมาแจ้งความที่ สภ.บางแก้ว

ต่อมาวันนี้ 24 เม.ย.66 ชุดสืบสวนได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยได้สอบถาม น.ส.วนัทปรียา หรือ นุ๊ก ประทุมทอง (แฟนของนายทีม) ให้การว่าบ้านเลขที่ดังกล่าวมี 1.นายกัน (คนหาย) 2.นายทีม (คนหาย) 3.นายสมชาย (ชาวพม่า) (ผู้ต้องสงสัย) 4.น.ส.อาบี (พม่า) แฟนนายสมชาย 5.น.ส.วนัทปรียาห (แฟนของนายทีม) และ 6.น.ส.นวลจันทร์ (พม่า) เป็นแฟนของนายหน้า (ชาวมาเลเซีย) พักอาศัยอยู่ด้วยกัน ต่อมานายกันและนายทีมมีปัญหาขัดแย้งกันกับนายสมชาย (ชาวพม่า) มาสักระยะนึงแล้ว จึงทำให้ น.ส.นวลจันทร์ (ชาวพม่า) และน.ส.วนัทปรียาต้องไปหาเช่าบ้านหลังใหม่อยู่ที่หมู่บ้านพิศาล 2 เขตลาดกระบัง

ส่วนนายกันและนายทีมก็ไปๆ มาๆ โดยไปพักที่ลาดกระบังบ้าง พักที่กิ่งแก้ว 39 บ้าง และเมื่อวันที่ 20 เม.ย.66 ก่อนเกิดเหตุนายกันและนายทีมทะเลาะกันกับนายสมชายซึ่งด่าทอกันผ่านโทรศัพท์มือถือ และเวลาประมาณ 23.50 น. นายกันและนายทีมนั่งรถแท็กซี่ออกจากบ้านพักที่หมู่บ้านพิศาล 2 เขตลาดกระบัง แจ้งว่าจะไปที่บ้านพักที่หมู่บ้านเในซอยกิ่งแก้ว 39 และเวลาประมาณ 00.13 น. ของวันที่ 21 เม.ย.66 นายกันและนายทีมก็ยังสนทนากับน.ส.วนัทปรียาผ่านแอพพลิเคชั่น Messenger ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่ติดต่อกัน หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว

จากการลงพื้นที่สอบสวนจนทราบว่าคนร้ายชายชาวพม่าจำนวน 8 คน รุมทำร้ายนายทีมและนายกันจนเสียชีวิต ก่อนนำขึ้นรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า สีแดง ขับนำศพมาทิ้งไว้ที่พงหญ้าริมถนนทางเข้าหมู่บ้านสวนงาม ถนนสาย 340 บางบัวทอง-สุพรรณบุรี ตำบลราษฎร์นิยม อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี จากการตรวจสอบสภาพศพนายทีมพบว่าศพเริ่มเน่าเปื่อยเหลือ แต่กะโหลกและมีบาดแผลถูกของมีคมแทงที่หน้าอกจำนวน 3 แผล และถูกของแข็งตีที่ศีรษะจนกะโหลกแตก ศพถูกมัดมือมัดเท้าห่อด้วยผ้านวมแล้วมัดซ้ำอีกที ส่วนศพนายกันถูกถุงดำคลุมที่ศีรษะ สภาพศพเน่าเปื่อยพบว่ามีบาดแผลถูกแทงที่หลังจำนวนหลายแผลจึงประสานเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่แพทย์เวรร่วมชันสูตร ก่อนนำศพส่งสถาบันนิติเวชเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง

ทั้งนี้ แนวทางการสืบสวนทราบว่ากลุ่มคนร้ายทั้ง 8 คนเป็นแก๊งค้ามนุษย์ข้ามชาติ โดยมีนายเอล ชาวมาเลเซียเป็นหัวหน้าแก๊ง นายหน้าค้าแรงงานอยู่ที่ประเทศมาเลเซียคอยสั่งการให้ น.ส.นวลจันท์แฟนนายเอลควบคุมสั่งการอยู่ที่ประเทศไทย และมีลูกน้องชาวพม่าคอยทำงานให้อยู่ในประเทศไทย หลังก่อเหตุคาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว อย่างไรก็ตามจะได้ติดตามตัวตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว